บทกวีลำดับที่ 001 - 033
บทกวีลำดับที่ 034 - 039

 

ทวนกระแส

ต่อไปเถิด

จะเกิดผล

เธอสร้างตน

เป็นคนสวน

ทวนกระแส

ด้วยเธอเป็น

หนึ่งเดียว

ในดวงแด

อย่ายอมแพ้

ความโสมม

สังคมไทย

หากเธอมุ่ง

สร้างบารมี

ให้ชีวิต

ต้องฟันฝ่า

ความมืดมิด

แห่งยุคสมัย

จงกล้าแกร่ง

แข็งขลัง

พลังใจ

เพราะเธอเป็น

ปุระชัย

เปี่ยมสมบูรณ์

ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา คนจำนวนมากเดินทางไปต่างจังหวัด จึงขอนำเสนอ บทกวีวิถีธรรมประกอบภาพการเดินทางไปบนเส้นทางเพชรเกษม จากกรุงเทพฯ – สู่ปักษ์ใต้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกิจนิมนต์ที่สงขลา และหาดใหญ่ ทั้งนี้เพื่อแนะนำแนวทางพิจารณาธรรมในระหว่างเดินทาง ทำนองเดียวกับการแต่งนิราศ เพียงแต่เป็นการดึงทุกเรื่องเข้าหาธรรมะ แทนการโยงเรื่องไปหาความรัก คราวนี้นำเสนอ เรื่อง “เพชรเกษมอิ่มเอมสุข”

 

 

บนเส้นทาง เพชรเกษม อิ่มเอมจิต
มากมวลมิตร หมู่แมกไม้ ให้คุณค่า
แม้รถแล่น เร็วไว ไล่ชีวา
หมู่แมกไม้ ทั้งซ้ายขวา วิ่งไล่ตาม

มาเป็นเพื่อน ผูกเสี่ยว ความเขียวสด
ให้ปรากฏ ทั้งซ้ายขวา น่าเกรงขาม
แลรวงร้าน บ้านเรือน เพื่อนตึกราม
ไม่เขียวสด งดงาม เมื่อยามยล

บนเส้นทาง เพชรเกษม อิ่มเอมสุข
แสนสนุก หนักหนา น่าฉงน
มวลดอกไม้ รายทาง ช่างอดทน
ทักทายคน เดินทาง ที่ย่างเยือน

ถึงชีวิต ทุกข์ยาก ลำบากแย่
ยังเผื่อแผ่ ความสดใส ใครจะเหมือน
มวลบุบผา วิไลล้ำ มาย้ำเตือน
บอกผองเพื่อน ให้อดทน ณ หนทาง

แม้ชีวิต ติดขัด หนอสัตว์โลก
ต้องข้ามโคก เขาถนัด ที่ขัดขวาง
ด้วยดวงใจ ไม่สำออย จิตปล่อยวาง
ก็เดินทาง ข้ามเขาโคก พ้นโลกลวง

มวลเมฆขาว เมฆคล้ำ เมฆดำขาว
เพียงชั่วคราว ก็กลายกลับ ลาลับล่วง
ทุกข์และสุข ในชีวัง สิ้นทั้งปวง
ย่อมเปล่ากลวง และกลับกลาย คล้ายคล้ายกัน

บนเส้นทาง เพชรเกษม อิ่มเอมสุข
รถบรรทุก รถประจำทาง ร่วมสร้างสรร
ก็ต่างไป ต่างมา สารพัน
แม้ต่างกัน ณ จุดหมาย เป็นไรมี

รถบุกบุญ แล่นตะบึง ถึงประจวบฯ
ก็หยุดควบ หยุดขับ เพื่อหลับหรี่
พักแล้วทำ อาหารทาน สานชีวี
โดยไม่มี แกงเป็ดไก่ ใส่ชีวา

เพราะเป็ดไก่ คือเพื่อน เสมือนญาติ
อยู่ใกล้ชิด มนุษยชาติ ไม่หวาดผวา
ร่วมริมทาง เพชรเกษม เปรมอุรา
เราต่างมา เราต่างไป หนอไก่เอย

 

 

ลมเย็นมาเยี่ยมเล้า      โลมเรา
ยามบ่ายสายลมเบา    แบบนี้
บันเทิงจิตบรรเทา         ความทุกข์
แม้หลบอยู่หลักลี้          ห่อนไร้     สหายลมฯ

ไม่มีใครไม่มีกัลยาณมิตร

ก็สายลมอ่อนละมุนที่ลูบไล้ยามรุ่มร้อน
ก็สายน้ำที่รินหลั่งในยามกระหาย
ก็พื้นดินที่ให้เหยียบย่ำโดยไม่ว่ากล่าว

ก็แสงแดดที่ช่วยขับไล่ความหนาวเย็น
ก็ต้นไม้ที่ให้ความร่มเย็นโดยไม่เรียกร้อง
ก็นกกาที่ขับร้องกล่อมโลกคลายเหงา
สิ่งเหล่านี้มิใช่หรือที่เป็นกัลยาณมิตรของมนุษย์ทั้งหลาย

 

 

เล่นสงกรานต์ บานเบอะ เปื้อนเปรอะเปียก
สิ้นสำเหนียก ประเพณี อันมีค่า
หลงสนุก เมามัน ขาดปัญญา
คราบน้ำตา เกรอะกรัง หลังสงกรานต์

เล่นสงกรานต์ บานเบอะ เปื้อนเปรอะเปียก
มิอาจเรียก ความพร้อมพรัก สมัครสมาน
เกิดอารมณ์ ก่อเรื่องราว อันร้าวราน
เปลี่ยน "สงกรานต์" เป็นสงคราม ในยามนี้

เล่นสงกรานต์ บานเบอะ เปื้อนเปรอะเปียก
มีเสียงเพรียก พร้อมเพรียง เป็นเสียงผี
คือหญิงชาย วายวับ ดับชีวี
อุบัติเหตุ บดขยี้ ผีกินคน

เล่นสงกรานต์ บานเบอะ เปื้อนเปรอะเปียก
คนตะเกียก ตะกายกลับ กันสับสน
จราจร ทั้งไปมา จลาจล
ท้องถนน ติดขัด เกินอัตรา

เล่นสงกรานต์ บานเบอะ เปื้อนเปรอะเปียก
กลับมาสร้าง สำนึกสำเหนียก กันเถิดหนา
เป็นสำนึก ประเพณี มีปัญญา
ให้ปู่ย่า ตายาย สบายใจ

สบายใจ ที่ลูกหลาน เบิกบานจิต
ใช้ชีวิต กตัญญู ต่อผู้ใหญ่
เลี้ยงคนแก่ แลคนเฒ่า ด้วยเข้าใจ
รู้จักไป รู้จักมา หาสู่กัน

สบายใจ ที่ลูกหลาน สืบสานสร้าง
เพิ่มความดี ไม่มีว่าง สร้างสวรรค์
ไม่รอตาย วายวับ ดับชีวัน
สั่งสมบุญ สารพัน ในวันนี้

สบายใจ ที่ลูกหลาน ไม่คร้านกิจ
ใช้ชีวิต อย่างบากบั่น ขมันขมี
ไม่หยุดยาว ไม่หย่อนยาน ไม่นานปี
ไม่ปล่อยผี วันสงกรานต์ เนิ่นนานนัก

สบายใจ ที่ลูกหลาน กราบกรานพระ
มีธรรมะ ทุกดวงมาน สมานสมัคร
ช่วยกันสร้าง ประเทศไทย วิไลลักษณ์
พึงพร้อมพรัก รักกัน วันสงกรานต์

 

 
กลัวอะไรไม่กลัวมากลัวผี
กลัวสิ่งที่ไม่มีตัวกลัวอยู่ได้
ผีภายนอกหลอกผีผีไม่มีภัย
ผีภายในหลอกเราทุกเช้าเย็น

หลอกว่าสวยหลอกว่างามไปตามโลก
หลอกให้โศกหลอกให้สุขต้องทุกข์เข็ญ
ให้ลอยคอในน้ำครำแสนลำเค็ญ
หลงว่าเป็นน้ำดีเพราะผีพราง

ถูกหลอกให้แสวงหามาหอบหวง
สิ่งทั้งปวงลำเลียงมาเคียงข้าง
ทั้งเงินทองเศรษฐีและที่ทาง
ทั้งน้องนางนอนแนบแอบอุรา

ทั้งชื่อเสียงยศศักดิ์อัครฐาน
คนกราบกรานเยี่ยมกรายทั้งซ้ายขวา
หลงว่านี่คืออำนาจสาดศักดา
ทำให้ข้าหลงคอยไปลอยคอ

ได้สำเหนียกสำนึกตรึกฉะนี้
ว่าสิ่งที่กล่าวนั้นมันหลอกล่อ
เมื่อมีแล้วหลงเพิ่มเติมไม่พอ
จะยั้งยอหยุดอยากก็ยากเย็น

ธรรมดาวิสัยใจส่ำสัตว์
ถูกกำหนัดหลอกให้ไม่รู้เห็น
มันหลอนหลอกหยอกเย้าทุกเช้าเย็น
นี่สิเป็นผีกวนที่ควรกลัว

 

 

เมตตา    คือความรัก ประจักษ์จิต
เมตตา    คือความคิด อุทิศเอื้อ
เมตตา    คือใจบุญ จิตจุนเจือ
เมตตา    คือจิตเหนือ ตระหนี่ใน

เมตตา    คือจิตเย็น ไม่เป็นทุกข์
เมตตา    คือจิตสุข ทุกสมัย
เมตตา    คือจิตดี ไม่มีภัย
เมตตา    คือจิตใจ ไร้โกรธา

กรุณา    คืออำนวย ช่วยมนุษย์
กรุณา    คือยื้อยุด หยุดเข่นฆ่า
กรุณา    คือปฏิบัติ ดั่งสัจจา
กรุณา    คือนอบน้อม ยอมหยุดเย็น

กรุณา    คือช่วยโลก ดับโศกสลด
กรุณา    คือเปลื้องปลด ความยากเข็ญ
กรุณา    คือดับทุกข์ ยื่นสุขเย็น
กรุณา    คือบำเพ็ญ เพื่อนิพพาน

มุทิตา    คือดวงจิต สิ้นริษยา
มุทิตา    คือดวงใจ ไม่จัดจ้าน
มุทิตา    คือดวงจินต์ สิ้นกันดาร
มุทิตา    คือดวงมาน เบิกบานใจ

มุทิตา    คือยินดี ทุกชีวิต
มุทิตา    คือมวลมิตร เหมือนชิดใกล้
มุทิตา    คือใจกว้าง มิห่างไกล
มุทิตา    คือดวงใจ ใฝ่ความดี

อุเบกขา    คือเป็นกลาง จิตวางเฉย
อุเบกขา    คือสังเวย ความสุขศรี
อุเบกขา    คือรู้จริง ทุกสิ่งมี
อุเบกขา    คือทำดี ไม่มีตน

อุเบกขา    คือจิตสิ้น ยินดียินร้าย
อุเบกขา    คือจิตสบาย คลายสับสน
อุเบกขา    คือจิตอ่อน รู้ผ่อนปรน
อุเบกขา    คือหลุดพ้น สู่นิพพาน

เมตตา    สร้างจิตใจ ใสพิสุทธิ์
กรุณา    สร้างจิตหลุด พ้นสงสาร
มุทิตา    สร้างจิตเก่ง จิตเบ่งบาน
อุเบกขา    สร้างจิตท่าน พ้นทุกข์เทอญ.

 

 

ยินดีกับคำด่า              เพราะเหตุว่ามันน่าฟัง
ด่าค่อยหรือด่าดัง        ฟังให้ดีมีปัญญา
ด่าถูกหรือด่าผิด          ไม่ควรคิดจิตถือสา
เลือกเฟ้นเอาคำด่า     เพื่อตรวจตรารักษาตน
ด่าถูกเมื่อถูกด่า         จงปรีดาในบัดดล
เลวคุดเขาขุดค้น        เขาเป็นคนผู้มีคุณ
ด่าผิดผิดของเขา        ไม่รับเอามากักตุน
ขอบใจที่เจือจุน         ยอมลงทุนด่าตัวเรา
ด่าถูกหรือด่าผิด        ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธเขา
ด่าหนักหรือด่าเบา     ไม่มีเราเขาด่าใคร

 

 

 

มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน

มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน อยู่ในซอยประสาทสิน ถนนนวมินทร์ หน้าพุทธสถานสันติอโศก หลังบริษัทพลังบุญ จำกัด
ปากซอยประสาทสิน สังเกตเสาไฟกลางถนนที่ 96, 97
สายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน สาย 60, 71, 73ก, 95, 96, 115, 150, 156, 178 ปอ.1, ปอ.12, ปอ.21, ปอ.60, ปอ.พ.27
มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน แหล่งเจือจานอาหารใจด้วยเทปธรรมะ ที่แสดงธรรมโดย
ท่านจันทร์, สมณะท่านอื่นๆ และหนังสืออื่นๆ ที่เลือกสรรแล้ว แก่ผู้ที่ต้องการอาหารใจใส่ดวงจิต
มูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน โทรศัพท์ 0-2733-5550-4 โทรสาร 0-2733-5998


รายการวิทยุและโทรทัศน์ ในเครือข่ายของมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน

ทุกคืน 01.00 – 03.00 น. ที่สถานีวิทยุเสียงสามยอด (AM 1179 KHz)
ทุกเช้า 04.00 – 05.00 น. ที่สถานีวิทยุ จ.ส. 2 (FM 103 KHz)
ทุกเช้า 05.00 – 06.00 น. ที่สถานีวิทยุราชมงคล (FM 89.5 KHz)
ทุกเช้า 06.00 – 07.00 น. ที่สถานีวิทยุ 919 (AM 1521KHz)
ทุกวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 15.00 – 17.30 น. ที่สถานีวิทยุ ตชด. (AM576 KHz)
ทุกวันเสาร์ เวลา 08.00 น. ที่สถานีวิทยุราชมงคล (FM 89.5 KHz)
ละแพร่ภาพ ทุกวันอังคาร เวลา 05.30 – 06.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์ ITV

 

บทกวีลำดับที่ 001 - 033
บทกวีลำดับที่ 034 - 039