เราคิดอะไร.

คนบ้านนอกบอกกล่าว โดย...จำลอง

ปัญหาเศรษฐกิจฟุบยังรุมเร้าทั้งในกรุงและนอกกรุงที่บ้านนอกก็เห็นชัด คนตกงาน มากขึ้น ทำไม่พอกิน พอใช้

เคยลงรถประจำทางสาย กรุงเทพฯ-กาญจน์ ที่สถานีขนส่ง หารถแท็กซี่ยาก เดี๋ยวนี้ พอรถจอด คนขับแท็กซี่ สามล้อ ก็กรูเข้าไปแย่งลูกค้า


ตลาดปรกติและตลาดนัดมีสภาพเหมือนๆ กัน มีแต่สินค้ากับคนขาย คนซื้อไม่รู้ ไปไหนหมด ทุกคน ได้แต่ คอยว่าเมื่อไร เศรษฐกิจจะฟื้น อย่างจริงจังเสียที

สงครามอเมริกา-อิรัก ตั้งเค้ามานาน ทำท่าจะเป็นจริงขึ้นทุกที ทำให้แก๊ส และน้ำมัน ราคาแพง ขึ้นเรื่อยๆ แม้รัฐบาล จะเอาเงินออกช่วยพยุง ก็ตาม

เรื่องแก๊สชาวบ้านนอกไม่ใคร่เดือดร้อน เพราะใช้ฟืนแทนได้ ตัดกิ่งไม้แห้งๆ ไปทำฟืนใช้เอง ก็เหลือเฟือแล้ว น้ำมันแพง ก็ประหยัดได้ ไม่ต้องขึ้นรถ ไปติดต่อ งานการที่ไหน อยู่กับท้องไร่ ท้องนาเสียเป็นส่วนใหญ่

ขณะนี้ค่ารถโดยสารต่างจังหวัดยังราคาเท่าเดิมไม่ขึ้นราคา ตามน้ำมัน บริษัทเดินรถบางแห่ง ก็ยังใจดี เหมือนเดิม ให้นักการเมืองปัจจุบัน และในอดีต ขึ้นฟรีบ้าง ลดค่าโดยสารบ้าง ซึ่งผมเอง ก็พูดกับ กระเป๋ารถ หลายคน มานานแล้วว่า ขอเสีย เต็มราคา แต่ยังคงต้องเจรจา อยู่บ่อยๆ กระเป๋ารถจะ ไม่ยอมท่าเดียว อ้างว่าประเดี๋ยว เจ้านายจะดุ เรื่องอย่างนี้ก็มีด้วย น่ารักไปอีกแบบหนึ่ง

ไปที่ไหนมีแต่คนพูดเรื่องยาบ้ารัฐบาลประกาศเริ่มกวาดล้างอย่างรุนแรง ชาวบ้าน มีความเห็น แยกกัน เป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วย อย่างเต็มที่ อีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ค้าน แต่ท้วงติงรัฐบาล ให้รอบคอบ ต้องไม่จับ ไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ ฆ่ากันตายที่ไหน ก็มักจะโทษยาบ้าเข้าไว้ก่อนโทษว่า คนค้ายาบ้าฆ่ากันเอง เพื่อไม่ให้ซัดทอด เรียกกันติดปากว่า "ฆ่าตัดตอน" หรือไม่ก็โทษว่า ตำรวจแอบเก็บ ด้วยการกระทำ "วิสามัญฆาตกรรม" สงครามปราบยาบ้า ผู้ที่ตายในสงคราม มีทั้งคนค้า และตำรวจ คนค้ายาบ้า ตายเพื่อตัวเอง ตำรวจที่ดี ตายเพื่อแผ่นดิน

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๒ มีนาคม ๒๕๔๖)