ฝุ่นฟ้าฝากฝัน ชีวิตชนบท
 



หุ่นฟางไล่กาสวมเสื้อเก่าๆ ลายขาวดำ ยืนกางแขนโอนเอนตามสายลมอยู่ริมแปลงนา นกกระจิบน้อย ไม่ยอมบิน เข้ามาใกล้ เพราะคิดว่าเป็นคนซึ่งรอดักยิงมัน

พันธุ์ข้าวกล้าที่หว่านไว้จึงไม่เสียหายนักเพราะหุ่นไล่กาคอยไล่นกให้ทั้งวันทั้งคืน

แม้ปัจจุบันเครื่องมือเครื่องใช้หลายชนิดในครัวเรือน จะพัฒนารูปแบบใหม่เป็นพลาสติก อะลูมิเนียม สังกะสี แต่หุ่นไล่กาวันนี้ ก็ยังคงเป็นเหมือนเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อนโน้น ชาวบ้านยังนิยมใช้หุ่นฟาง ที่ลงทุนน้อย แต่ใช้ประโยชน์ได้ดี สืบทอดกันมา อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

ต่อหัวเสือบินโฉบไปมาตามใบต้นข้าวกล้าและใบหญ้า เพื่อหาอาหารกลับไปป้อนให้ตัวอ่อนในรัง

มนัสแบกจอบเดินสังเกตสังกาตามคันนา ถ้าเจอรูรั่วจะได้อุดให้เรียบร้อย ตั๊กแตนตัวเล็กๆ บินแตกฮือ ออกไปจากคันนา เมื่อเสียงเดินย่ำเข้ามาใกล้ มนัสเห็นตัวต่อบินว่อนหลายตัว รังต่อหัวเสือ คงจะอยู่ไม่ไกล คิดแล้วรีบวางจอบลง มือแหวกกอหญ้าบนคันนา หาตั๊กแตนตัวเล็กๆ มนัสปักกิ่งไม้ ยาวขนาดหนึ่งศอก ริมคันนา ปลายไม้เสียบตั๊กแตน ที่จับมาเมื่อครู่ ไม่นานตัวต่อหัวเสือ ก็บินมาคาบตั๊กแตน แล้วบินกลับรัง ตัวต่อจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม ต่อกลุ่มหนึ่ง จะบินไปทางทิศตะวันออก อีกกลุ่ม จะบินไปทางป่า ทิศเหนือ มันบินวนหาอาหารหลายรอบ พอได้อาหาร มันจะคาบบินตรงดิ่งไปยังรัง อย่างแม่นยำ มนัสสังเกต เส้นทางของตัวต่อ แล้วเดินตามตัวต่อที่บินไปทางทิศเหนือก่อน แล้วกวาดสายตาไปตามต้นไม้ทุกต้น

ไม่ถึงแปดร้อยเมตร ที่ต้นไม้ใหญ่สูงจากพื้นสี่ห้าเมตร มีรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่ มนัสกำหนดหมาย แล้วเดินกลับมา ยังแปลงนาที่จุดเดิม เดินตามเส้นทางที่ตัวต่อ บินคาบอาหารกลับรัง ในทางทิศตะวันออก เดินไม่ถึง สามร้อยเมตร ที่กิ่งไม้สูงจากพื้น ราวสองเมตร ในป่าริมทุ่ง ต่อหัวเสือกำลังก่อรังใหม่ มีความใหญ่ เท่าสองกำปั้น มนัสดีใจ ที่พบรังต่อ ถึงสองรัง รีบกลับบ้าน เพื่อเตรียมอุปกรณ์

มนัสกลับมาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกครั้งพร้อมไม้ยาวซึ่งปลายไม้มัดด้วยฟางแห้ง มนัสจุดไฟ ยกปลายไม้ที่ติดไฟ จ่อที่รังต่อ ไฟไหม้เปลือกรอบนอกของรัง อย่างรวดเร็ว ตัวต่อนับร้อยถูกไฟคลอก ตกลงมาตาย หมดหนทาง บินหนี แต่อีกหลายร้อยตัว กำลังบินออกไปหาอาหาร จึงรอดตาย มนัสปีนขึ้นไป ตัดเอารังต่อ ที่มองเห็นชั้นใน เรียงกันอยู่เป็นแผ่นๆ เอาลงมาด้วยความดีใจ เพราะต่อรังหนึ่ง เมื่อนำไปนึ่งให้สุก แล้วนำไปขาย จะได้ไม่ต่ำกว่ าสี่ร้อยบาททีเดียว

ตะวันลับฟ้าความมืดเข้ามาเยือน ตัวต่อที่บินออกไปหาอาหารก็บินกลับรัง มนัสใช้โคมไฟส่องทาง มุ่งหน้าเข้าป่า เพื่อไปตัดรังต่อ มาเลี้ยงไว้ใกล้บ้าน มนัสส่องไฟ ไปที่รังต่อ เศษใยฝ้ายม้วนขนาดพอเหมาะ หมุนปิดปากรู ทางเข้าออกบนรังต่อไว้ พร้อมเอาถุงพลาสติก สวมคลุมเอาไว้อีกชั้น ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ออกจากต้น ยกเอาต่อรังน้อย กลับมาบ้านอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงบินในรัง ดังอื้ออึงน่ากลัว

มนัสนำรังต่อไปมัดห้อยที่กิ่งมะม่วงริมรั้ว แล้วเปิดทางเข้าออก ให้เป็นปกติเช่นเดิม รุ่งเช้าตัวต่อ ที่ถูกย้ายรัง มาอยู่ที่ใหม่ จะบินออกไปหาอาหาร ระยะทางไกล หลายร้อยเมตร แต่พอได้อาหาร มันจะบินตรงดิ่ง กลับที่รัง ได้อย่างแม่นยำ

เที่ยงคืนสายฝนตกกระหน่ำเหมือนจะตกทั้งคืน มนัสลุกขึ้นมาใส่เสื้อกันฝน สะพายข้องพร้อมโคมไฟส่องทาง มุ่งหน้าไปส่องกบเขียด ตามท้องทุ่งนา เพราะช่วงฝนตก กบเขียดจะออกจากที่ซ่อน มาผสมพันธ์ และวางไข่ ด้วยความชำนาญ ในการส่องกบเขียด มนัสจึงจับกบเขียด หักขายัดใส่ข้องไว้ ได้หลายกิโล ตอนเช้าจะส่งขาย ที่ตลาดเป็นรายได้เสริม

บ่ายโมงควายท้องแก่ตกลูกไม่นาน รกหรือชาวบ้านเรียกว่าน้องควาย ที่เป็นเนื้อเยื่อ ขนาดเท่าสองกำปั้น ก็ไหลตกตามออกมา มนัสเก็บไปล้าง แล้วต้มจนสุก แบ่งส่วนหนึ่ง ไปขายที่ตลาด เป็นรายได้เสริมอีกเล็กน้อย

บ้านไม่ได้เช่าข้าวไม่ต้องซื้อ ในห้องครัวมีปลาร้าหมักดองเอาไว้ในไหกระเทียมใหญ่ เป็นเครื่องปรุงรส อย่างดี และยังนำมาทำเป็น ปลาร้าแจ่วบอง เก็บไว้จิ้มข้าวเหนียว เป็นอาหารหลัก กินได้ทั้งปี เป็นวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของคนในชนบท ที่ถ่ายทอดมาจากปู่ย่าตายาย รุ่นแล้วรุ่นเล่า

มนัสเป็นอีกครอบครัวหนึ่ง ที่มีที่ทำกิน บ้านไม่ต้องเช่าข้าวไม่ต้องซื้อ มีความพออยู่พอกิน สืบทอดจาก พ่อแม่ แต่สมัยนี้หลายครอบครัวขาดแคลนที่ทำกิน บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ท่างกลางสังคม ที่แย่งชิงไร้น้ำใจ ขาดการแบ่งปัน เป็นสังคมตัวใครตัวมัน และยังซ้ำเติม ความขัดสน ของครอบครัว ด้วยการเฮฮา กินเหล้า สูบบุหรี่ ผลาญเงิน ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนไม่รู้จบ

ที่ทำกินถูกแบ่งปันให้ลูกหลาน แต่ละครอบครัวมีที่ดินลดน้อยถอยลง แต่ความต้องการกินใช้ มีเพิ่มมากขึ้นๆ ทรัพยากร ทางธรรมชาติ ถูกนำมากินมาใช้ผลาญพร่าอย่างหนัก

หุ่นไล่กาอาจดูเชยเป็นของโบราณ แต่ใช้งานไล่พวกนกได้ดี ธรรมะของพระศาสดา ก็เช่นเดียวกัน แม้จะเป็นของเก่า ผ่านมาสองพันห้าร้อยกว่าปี แต่ก็ทันสมัยเป็นสิ่งวิเศษสุดยอด ช่วยให้เราปล่อยวาง ได้ดีที่สุด ธรรมะสอนให้หันมาทำสิ่งดี

คิดดี และช่วยเหลือแบ่งปัน ไม่แย่งที่ทำกิน อยู่ร่วมกันแบบบุญนิยม มีศีลธรรมประจำใจ...

เราคิดอะไร ฝุ่นฟ้าฝากัน โดยฟอด เทพสุรินทร์ ฉบับ ๒๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๒