- แม่น้ำ ลักขิตะ -

ประกายแห่งทุกข์เกิดกับเรา ก่อเป็นเงาของความสุข


ทุกข์เท่านั้นเป็นเนื้อหนังแท้ของชีวิต ส่วนความสุขเป็นดังเงา....

พุทธศาสนาเป็นปรัชญาที่ว่าด้วยเรื่องทุกข์ พระศาสดาตรัสไว้ว่า "ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป"

ส่ำสัตว์ทั่วหล้า เกิดมาเพื่อเรียนรู้ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และข้อปฏิบัติในการดับทุกข์ ให้สูญสิ้น มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่เข้าถึงทุกข์ได้อย่างคัมภีรภาพและสามารถฝึกจิต ให้อยู่เหนือทุกข์ได้

ทุกข์ในชีวิตเราแจงออกได้สองกลุ่มใหญ่ๆ คือ ทุกข์กาย กับ ทุกข์ใจ

ทุกข์กายมิอาจเลี่ยงได้ เป็นสภาพที่เราต้องเผชิญ จากวันแรกเกิดจวบสิ้นใจ....ทุกข์เพราะ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกข์เพราะสภาพแวดล้อมมีผลกระทบต่อชีวิต ทุกข์จากการดิ้นรน เอาตัวรอด หาเลี้ยงปากท้อง ทุกข์เพราะสังขารเสื่อม เผชิญชะตาทรามก็เป็นทุกข์ แม้ที่สุด ทุกข์เพราะเกิดมามีกายขันธ์

เมื่อชีวิตดำรงอยู่ ทุกข์กายเรามิอาจทำให้สิ้นสูญได้ ทว่าสามารถบรรเทาให้คลายจาง ตามสภาพการ ที่ต้องเผชิญ บรรเทาได้เมื่อใดก็สุขกายเมื่อนั้น เป็นการเปลื้องทุกข์ อย่างสามัญ ทั่วไป

ทุกข์ทางใจเราสามารถเลี่ยงพ้น และทำให้สูญสิ้นสนิทไปชั่วนิจนิรันดร์ได้....

เป็นสภาพความโศกา เพราะพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักทั้งปวง ทั้งที่เป็นวัตถุและคนข้างกาย เมื่อเกิดการสูญเสีย จึงก่อทุกข์ขึ้นภายในใจ ครวญคร่ำร่ำไห้ โหยหาสิ่งนั้น กลับคืนมา รักมากเท่าใด ทุกข์มากเท่านั้น

ทุกข์จากไฟราคะ-โทสะ-โมหะ เผาลนจิตใจ เป็นกิเลสที่อยู่คู่ชีวิตปุถุชนทุกผู้นาม ตราบเรายัง ไม่เข้าถึง พระนิพพานและหมดสิ้นอวิชชา

ทุกข์เพราะหลงโลกธรรมโลกียสุข ดิ้นรนไขว่คว้าแสวงหาลาภ-ยศ-สรรเสริญและอำนาจ บาตรใหญ่ แก่งแย่ง แข่งขัน ช่วงชิงเอามาให้สมใจตน บ้างได้มาด้วยพฤติกรรมโสมม และ ชโลมบาป

ทุกข์จากการทะเลาะวิวาท มีปากเสียงขัดแย้ง หนักเข้าก็ลงไม้ลงมือทุบตี และอาจถึงขั้นฆ่าแกง ได้ ในที่สุด

ทุกข์ทางใจเราสามารถอยู่เหนือได้ ขอเพียงได้ฝึกจิตให้เข้มแข็ง เรียนรู้ล้างกิเลสออกจากใจ ให้สิ้นเกลี้ยง ยกระดับจิตขึ้นเป็นอาริยชน

เราสรรสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้ เมื่อเข้าถึงสัจจะแห่งทุกข์ทั้งมวล เพราะทุกข์เป็นแกนหมุน ของชีวิต ให้คนเราเวียนวนอยู่กับวัฏสงสารนี้ อย่างไม่มีจุดสุดสิ้น ตราบที่เรายังไม่หยุดการเกิด

บรรเทาทุกข์เสียได้จึงบังเกิดสุข ดับทุกข์เสียได้จึงพบประกายแห่งสุข

เพราะมีตัวเราเงาจึงปรากฏ เพราะมีทุกข์สุขจึงปรากฏ....หากล้างอัตตาได้สิ้นเกลี้ยง เหมือนเรา ไร้ตัวตน ดุจเป็นคนไม่มีเงา หากเราดับทุกข์ได้สิ้นสูญจากใจ คล้ายเป็นคนไม่มีสุข ทว่ากลับสุข สงบยิ่ง อย่างอุเบกขา

เราจะพบกับความสุขเลิศล้ำ เมื่อดวงจิตเข้าถึงซึ่งอุเบกขา

-สารอโศก อันดับที่ ๒๖๙ กุมภาพันธ์ - มีนาคม ๒๕๔๗ -