tissaphotos  | กลับไป  

      

  • บุญนิยม
  • พระจันทร์
  • ศีลธรรม
  • ร้อยดาว
  • Tissa



  • สมณะโพธิรักษ์


    หลวงพ่อธรรมชาติ


    สมณะเสียงศีล


    Tissa


    ท่านจันทร์





                                   


        สุดตัว-สุดหัวใจของพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์

        Hot News, Monday to Sunday, 3.30 am - 24.00 pm.

    ..สภาพทุ่มสุดตัวและสุดหัวใจของพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์..การพัฒนาจิตวิญญาณ..มีการให้ปัญญาแก่ประชาชนที่ถูกต้อง..อันนี้จะเป็นการชนะกันด้วยใจจริงๆ ที่ใสสะอาด..ทั้งหมดควรคิด.. มาดูกันว่า พ่อท่านฯ กล่าวอย่างไร อย่างไรที่พ่อเป็น..ท่านได้ข้อคิดอะไรจากการชุมนุม..ที่ใช้เวลากันมาเกือบๆ จะ ๓ เดือนเข้าไปแล้ว?..

    -ก็ได้เห็นถึงบทบาทภาวะการณ์ที่สุดโต่งของคนส่วนหนึ่งในพวกเรา แยกออกเป็น ๒ ขั้วด้วยกัน ขั้วหนึ่งก็เป็นภาวะที่ หลุดโลกกับสภาพที่ หลุดลอย ..สภาพที่หลุดโลกก็คือสภาพที่ยังคงจมอยู่กับภพของตัวเอง ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับปัญหาเรื่องบ้านเมืองจะวิกฤติแค่ไหน?..ไม่เกี่ยว สนใจอยู่แต่เรื่องของตัวเอง ส่วนเรื่องบ้านเมืองอย่างมากก็แค่มาวิพากษ์วิจารณ์แสดงปัญญาแสดงทิฏฐิของตัวเองเท่านั้น

    หากเราติดตามพ่อท่านแล้วจะเห็นได้ว่า พ่อท่านทุ่มสุดตัว ถ้าใครฟังเทศน์จะได้ยินเสียงจามฟึดฟัดๆ อยู่บ่อยๆ เพราะว่าท่านต้องเร่งงาน และต้องจ่ายพลังงานของตัวเอง ออกไปหลายๆ ด้านด้วยกัน ทั้งการเทศน์ ท่านก็บรรยายเป็นหลักอยู่ทุกวัน งานที่ต้องเขียนหนังสือทำทั้งเล่มพิเศษ และวารสารรายเดือนออกตามปกติ ที่จะให้สัมมาทิฐิ กับญาติธรรมและพี่น้องชาวพันธมิตรฯ ท่านก็เร่งทำไปด้วยและท่านยังต้องเอาเวลามาติดตามข้อมูลข่าวสาร จากแกนนำพันธมิตรฯ ที่ขึ้นมาชี้แจงในแต่ละวันๆ ทั้งต้องคอยให้กำลังใจและพยายามจะออกไปบิณฑบาตที่ชุมนุมทุกๆเช้า เพื่อเป็นกำลังใจแก่พวกเรา

    ดังนั้นท่านจะใช้กำลังภายในเร่งจ่ายหลายๆ ด้านจนแทบจะไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่นี่คือ สภาพที่ทุ่มสุดตัวและสุดหัวใจของพ่อท่าน แต่สภาพการณ์ของพวกเราเองที่เป็นญาติธรรมหรือนักบวชก็ดี บางท่านอาจจะจมอยู่กับโลกของตัวเอง จึงปล่อยให้โอกาสทองที่เราจะได้กอบโกยบุญกุศล และจะได้ฝึกฝนทดสอบตัวอย่างสำคัญ โดยอาศัยสถานการณ์ที่เกิดวิกฤติมาช่วย แต่หลายๆ คนก็ปล่อยให้ผ่านเลยไปเหมือนลมพัดผ่านแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากอยู่รอความตายที่ใกล้เข้ามาอยู่ทุกขณะ เป็นการปล่อยให้โอกาสทองผ่านไปโดยเราได้แต่เพียงคอยดูห่างๆ ไม่กล้าลงทุนลงแรงอะไร ได้แต่คอยแสดงปัญญาแสดงทิฎฐิของตัวเอง ไอ้นั่นดีไอ้นี่ไม่ดี หรือปฏิฆะหงุดหงิดกับสภาพที่เกิดขึ้นเราก็เป็นแค่ผู้ร่วมทุนทางทิฏฐิ ปฏิฆะและหลงใหลหัวไอ้เรือง..

    ส่วนสุดโต่งอีกขั้วหนึ่งก็คือ หลุดลอยหมายความว่าฟุ้งซ่านไปเลย ติดตามข่าวสารมากไปจนไม่ได้เป็นอันกินอันนอน เพราะอดหลับอดนอนจนเจ็บป่วย ติดตามข่าวสารและลุ้นมากไปจนเสียความสมดุลของร่างกาย และจิตใจ จิตใจจะคิดถึงแต่เรื่อง สมมุติสัจจะ เรื่องเขาเพราะวิหาร เรื่องรัฐบาลต้องออกไป ฯลฯ ส่วนจิตที่จะมาพิจารณาถึงอารมณ์หงุดหงิดอารมณ์ปฏิฆะ ความไม่ชอบใจความถือสาของเราอันนี้เป็นส่วนของ ปรมัตถสัจจะ หรือจิตวิญญาณที่วิเศษ เราจะทิ้งไปเลย มันจะเป็นสภาพที่หลุดลอย ปล่อยตัว ปล่อยใจไปตามภพของตน จนควบคุมตัวเองไม่ได้บางรายที่อาการหนักก็ออกอาการ สันดานเดิม..

    ลุกมาเต้นโขนให้เพื่อนๆ ได้ดู สุดท้ายก็หมดแรง ตกอยู่ในสภาพทั้งขั้วช่วยตัวเองไม่ได้และช่วยสังคมก็ไม่ได้ ซึ่งมักจะมีคนมาคอยถามอาตมาอยู่เสมอว่า พ่อท่านวิเคราะห์ อะไรที่พิเศษหรือมีเชิงลึกทางการเมือง อะไรบ้างในตอนนี้?.. คำตอบที่ได้บอกไปบ่อยๆ ก็คือ.. ถ้าใครอยากจะรู้พ่อท่านส่งสัญญาณในเชิงลึกอะไรบ้างก็คงต้องติดตามรายการสังคมสงครามในช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมง พ่อท่านจะส่งสัญญาณในเชิงลึก ให้พวกเราได้รับรู้กันอยู่ตลอดเวลา

    สรุปแล้ว วิกฤติของบ้านเมืองในขณะนี้ เป็นแบบทดสอบพวกเราแต่ละคนๆ อย่างสำคัญ น่าเสียดายถ้าใครไม่ได้ทำแบบทดสอบในครั้งนี้หรือ ทำแล้วแต่ในผ่าน เราคงจะต้องหันมาจัดสรรความสมดุลของเราไปด้วยในตัว ไม่ปล่อยปละละเลย..เรื่องการกินอยู่หลับนอนจนเสียสมดุล จนหลุดลอย..ไม่สามารถทำประโยชน์ตนประโยชน์ท่านให้ควบคู่กันไปได้ญาติธรรมที่ได้ประโยชน์จากบททดสอบในครั้งนี้เขาจะถือว่านี่เป็นการทำสงคราม..

    เป็นช่วงอยู่ในสนามรบ การทำผิดกฎต้องถูกประหารชีวิต ดังนั้น เขาจะไม่ประมาททั้งในเรื่อง กาม และเรื่อง กิน ซึ่งทั้ง ๒ เรื่องนี้ไปด้วยกันมาด้วยกัน จริงๆ แล้วเราคงจะต้องถือว่า โอกาสนี้เป็นโอกาสทองของเรา ในการที่เราจะได้ฝึกฝนตนให้เกิดความเจริญในการปฏิบัติธรรมไปด้วยและให้เกิดความเจริญในการกอบกู้สังคมประเทศชาติไปด้วย..ซึ่งขึ้นอยู่กับการที่เราจะได้จัดสรรความสมดุลทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ไม่ปล่อยอารมณ์ จิตใจของเราหลุดไปกับเรื่องราวของบ้านเมือง จนไม่มีเวลาทบทวนพิจารณาธรรม ก็จะทำให้เราสูญเสียทั้งประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน

    ท่านคิดว่างานนี้จะจบกันอย่างไรโอกาสที่จะแพ้หรือชนะ อย่างไหนจะมามากกว่ากัน?… จริงๆแล้วถ้าพันธมิตรฯ ยังคงยืนอยู่บนหลักการว่า เราจะชูธงคุณธรรมนำหน้า และก็มีความเชื่อในพุทธพจน์ เท่าที่ได้ตอกย้ำกันมาตลอดว่า ธรรมะต้องชนะอธรรม ถึงอย่างไรฝ่ายธรรมะก็ต้องชนะกันอยู่แล้ว

    เราจะเห็นได้ว่าพลังของมหาประชาชนที่ ออกมาสู้ ต่างมากันด้วย ใจ เราไม่ได้มีอำนาจมืด อำนาจสว่างจากที่ไหนมาช่วยหนุนทั้งไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมกลลองอะไรมาต่อสู้ มีแต่ใจที่บริสุทธิ์ กล้าหาญ เสียสละให้กับ ประเทศชาติ และทุนคนก็ทุมเทแบบเอาชีวิตเข้าแลก สู้ทนแดดทนฝน ทนร้อน ทนหนาวอย่างทรหดอดทน ใจของประชาชนที่กล้าหาญเสียสละอย่างนี้เริ่มต้นก็ต้นก็ชนะแล้ว อยู่หนึ่งวันก็ชนะหนึ่งวัน อยู่สองวันก็ชนะสองวันอยู่หนึ่งเดือนก็ชนะหนึงเดือนอยู่หนึ่งปีก็ชนะหนึ่งปี เป็นแต่เพียงว่าจะรักษาชัยชนะ หรือสภาพที่ดีงามที่พวกเราได้มาทำร่วมกันอยู่นี้ให้มันยั่งยืนยาวนานต่อไปได้อย่างไร

    ถ้าเราคิดทำเพียงแค่ชั่วคราว สภาพของความไม่ถูกต้องความไม่ชอบธรรม ก็อาจจะกลับคืนมาใหม่ได้ ฉะนั้นเราจะต้องชัดเจนในเป้าหมายว่า แพ้-ชนะ อยู่ที่ไหน?.. -คงไม่ต้องไปห่วงกังวัลว่าเราจะได้แผ่นดินบริเวณรอบเขาพระวิหารคืนมาไหม หรือรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ เมื่อไหร่จะออกกันไปเสียที?.. มันเหมือนกับการักษาโรคมะเร็งทุกวันนี้ การรักษาที่ได้ผล แพทย์ทางเลือกเขาจะไป เน้นเรื่องการสร้างภูมิต้านทานของชีวิต โดยการให้คนป่วยพยายามที่จะสร้างภูมิต้านทานร่างกายของตนให้ดีขึ้น ต้องมาพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้ดีเพียงพอ ออกำลังกายให้ดีให้เพียงพอ กินอาหารที่ดี ทำอารมณ์ที่ดี มีการขับถ่าย มีการเอาพิษออก ได้ดี ภูมิต้านทานชีวิตที่ดีจะสามารถจัดการกับมะเร็งลงไปได้

    ในการต่อสู้กับรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติในครั้งนี้ก็เหมือนกัน หัวใจหลักก็คงอยู่ที่ว่า เราจะสร้างภูมิต้านทานของสังคม หรือสิ่งที่เป็นความชอบธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างยั่งยืนถาวรได้อย่างไร -ซึ่งจุดเริ่มต้นที่สำคัญอยู่ที่จิตวิญญาณ หากสามารถที่จะปลูกฝังจิตวิญญาณ ให้เกิดสัมมาทิฏฐิ เกิดความรู้ เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เกิดสัมมาปฏิบัติ และเกิดสัมมาปฏิเวธ หรือผลที่เกิดจากการปฏิบัติที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นได้ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในมุมของศาสนา ก็มีความเข้าใจที่ถูต้องสมบูรณ์จากการที่กองทัพธรรมไปปักหลักเป็นผู้ให้บริการอยู่ในที่ชุมนุม

    และก็มีพ่อท่านไปให้สัมมาทิฐิให้ปัญญา ได้เทศน์ในวันออกพรรษา ได้เน้นให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ศาสนาและการเมืองเป็นเรื่องที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเพราะว่าการเมืองก็เป็นเรื่องอาสาช่วยสังคมเพื่อมวลมนุษยชาติศาสนาก็เป็นเรื่องเพื่อมวลมนุษยชาติ อย่างปราศจากตัวตนหรือกิเลสที่จะเอาเข้ามาให้แก่ตน ซึ่งการปลูกฝังตรงนี้ก็ดูว่ามีผู้ที่สามารถเข้าใจได้ นับตั้งแต่ปี๒๕๔๙

    ที่พ่อท่านได้นำกองทัพธรรมเข้ามาร่วมชุมนุม ได้มีนักคิดนักเขียนของฝรั่งต่างชาติ เขาได้พูดถึงเรื่องพุทธอุดมการณ์ จากบทความที่..เขาตีพิมพ์เขาได้นำเสนอบทบาทของกองทัพธรรม ซึ่งเป็นขบวนการธรรมของสันติอโศกนั้นสามารถจำลองรูปแบบของสังคมอันมีวิสัยทัศน์ที่รุ่มรวยในเชิงวิญญาณ และเป็นไทยทั้งดุ้นมาเป็นทางเลือกให้แก่สังคม

    ชนิดที่เรียกได้ว่าสามารถต่อกรกับวิสัยทัศน์ทุนนิยมสมัยใหม่หรือเราเรียกทุกวันนี้ว่าทุนสามานย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณได้แบบเรียงประเด็นเขาก็สัมผัสเห็นได้ว่า พุทธอุดมการณ์ ของสันติอโศก กำลังเข้ามานำเสนอทางออกในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสังคมไทย นี่เป็นมุมมองของนักคิดนักเขียนของต่างชาติ..ส่วนนักคิดนักเขียนของไทยในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ บทความของคุณสิริอัญญาเขาก็ได้นำเสนอในหัวข้อเรื่องสันติอโศกสรรเสริญซึ่งในมุมมองแนวคิดของเถรวาท

    เขาจะมองว่าศาสนากับการเมืองเป็นเรื่องแยกส่วนกัน ศาสนาจะเป็นเรื่องแยกตัวออกไปจากสังคม แต่บทบาทของสมณะ และกองทัพธรรมที่ออกมาร่วมสุขร่วมสุขร่วมทุกข์ อยู่ในการชุมนุมครั้งนี้ เขาก็เข้าใจได้ในทันทีเลยว่า สิ่งนี้เป็นการดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้าเมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้วว่า ที่ส่งสาวกไปประกาศสัจจธรรมเมื่อครั้งแรกที่ส่งพระอาริยสงฆ์ หรือพระอรหันต์ไปประกาศพระพุทธศาสนาด้วย ดำรัสว่า ให้ไปประกาศธรรมวินัยให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

    เพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากในโลก และเขาก็ได้ยกบาทของกองทัพธรรมของญาติธรรมและของสมณะที่ออกมาช่วยเกื้อกูล เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ ว่าเป็นการดำเนินรอยตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง เขาจึงขอสรรสริญ บทบาทของสันติอโศกว่าสมณะของเราเป็นสมณศากยบุตร เป็นพุทธบริษัทที่น่าเคารพน่าสรรเสริญ ทำให้เห็นว่าสิ่งนี้ก็เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นสัมมาปัญญา ในงานนี้เหมือนพ่อได้ไปเปิดโลกพระพุทธศาสนา ถ้าจิตวิญญาณของคนเกิดสัมมาทิฏฐิ เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกิดการปฏิบัติที่ถูกต้อง สัมมาปฏิบัติที่ถูกต้อง สัมมาปฏิบัติ

    อันนี้แหละจะเป็นชัยชนะที่ยังยืนถาวร ที่โลกุตระของศาสนาพุทธ ได้หยั่งลงในจิตวิญญาณของสังคมไทย ถ้าจะถามว่าชัยชนะนั้นจะเป็นแบบไหนชัยชนะที่เราจะไปขับไล่ไสส่งรัฐบาลก็ดีไปยึดเขาพระวิหารคืนก็ดี ตรงนี้เป็นกฏแห่งกรรม ที่ไม่มีมนุษย์คนไหน จะสามารถให้คำตอบในเรื่องนี้ได้แต่กฏแห่งกรรมที่เป็นส่วนแห่งโลกตระ ซึ่งเกิดจากการมีความเห็นที่ถูกต้องมีการปฏิบัติที่ถูกต้องมีการพัฒนาจิตวิญญาณ มีการให้ปัญญาแก่ประชาชานที่ถูกต้อง

    อันนี้จะเป็นการชนะกันด้วยใจที่ใสสะอาด ซึ่งจุดเริ่มต้นของพี่น้องประชาชนชาวพันธมิตรเราก็ชนะกันมาด้วยจิตวิญญาณที่มาทุมเทเสียสละให้แก่ประเทศชาติอยู่แล้ว และเราก็ได้มีการปฏิบัติฝึกฝนอบรมกันมาจนเกือบจะร่วมสามเดือน ดังนั้นถ้ามีความเห็นที่ถูกต้อง มีการปฏิบัติที่ถูกต้อง เกิดขึ้นอีก มีการได้เรียนรู้กิเลส ลดละกิเลส จนสามารถที่จะหยั่งลงสู่โลกุตระได้ อันนี้คือชัยชนะของศาสนาของสังคมประเทศชาติที่ยั่งยืนถาวรอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ จากกข่าวอโศกรายปักษ์



    พล.ต.จำลอง ศรีเมือง


     ไปด้านบน  | กลับไป  

    Copyright © 2006-2008 Bunniyom Thailand. All rights reserved.

    Terms of service us at E-mail: spirit_bunniyom