แฉ..ความลับ @ เสธ น้ำเงิน 16 ชั่วโมงที่แล้ว
https://th-th.facebook.com/topsecretthai

วันที่ 5 มิ.ย.57 เผย..จากเด็กชายวัย 15 เวลาผ่าน 44 ปี ผูกเชือกแล้วต้องเดิน

ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน และคอลัมภ์นิสต์ อีกหลายท่าน ที่กล่าวถึงบทความของ เสธ น้ำเงิน กัน แห่งเพจ แฉความลับ กันอย่างแพร่หลาย ในช่วงที่ผ่านมา บางท่านถึงกับ ตื่นมาทำภาระกิจ ตอนตี 3 แล้วแวะมาเปิดเพจนี้ดู และยินดีที่บทความ เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้คนไทย เข้าใจสภาพปัญหา ของประเทศเรา ที่ผ่านมา ที่ลับๆล่อๆ ก็ถูกแฉออกมา อย่างล่อนจ้อน

ยังทำให้หลายคน กลายเป็นแดงกลับใจ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง ร่วมมาเป็น “ ผึ้งหลวง ทหารเอกพระราชา “ เข้าโรมรัน ต่อตีกับข้าศึก ภายนอกประเทศ และผู้ที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง ไม่หวังดี อย่างแท้จริง ต่อประเทศของเรา วันนี้จึงจะนำเรื่องราว ประวัติของ เด็กชายคนหนึ่ง เมื่อ 44 ปีที่แล้ว ให้ท่านลองได้พิจารณา ใคร่ครวญ แนวทางการร่วมกัน สร้างชาติไทยของเรา ในระยะต่อจากนี้

นิตยสารชัยพฤกษ์ ของสำนักพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช ปี 2512 ได้สัมภาษณ์ เด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาชื่อ “ ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” วัย 15 ปี ในขณะนั้น มีใจความดังนี้

นักเรียนที่เรียนดี ที่ทาง "ชัยพฤกษ์" จะนำมาลง ในคอลัมน์ "เรียนดี" คราวนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษา ปีที่ 3 ก. ของโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ประวัติการเล่าเรียน ตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 นี้ ไม่เคยได้ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เลย นักเรียนเรียนดี ที่จะแนะนำให้มิตรรู้จัก คราวนี้ คือ ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประยุทธ์ เป็นบุตรของ พ.ท.ประพัฒน์ และนางเข็มเพชร จันทร์โอชา เขาเกิดเมื่อ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497 ขณะนี้ มีอายุได้ 15 ปี นับว่าเรียนได้เร็ว สมกับเป็นคนเรียนเก่ง เขาเป็นบุตรคนโต ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยที่ต้องทำตัวเป็นพี่ที่ดี ในบางครั้ง เขาจึงแลดูขรึม เป็นผู้ใหญ่กว่าวัย

การเรียนชั้นประถมนั้น ประยุทธ์เรียนที่ โรงเรียนสหกิจวิทยา จังหวัดลพบุรี เขาเรียนอยู่ที่นั่น จนจบชั้นประถมปีที่ 7 จึงได้ย้ายไป เรียนต่อที่ โรงเรียน พิบูลวิทยาลัย ในจังหวัดเดียวกัน เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย เพียงปีเดียว จากนั้น ได้เข้ามาเรียนต่อที่ โรงเรียนวัดนวลนรดิศ โดยที่บิดาของประยุทธ์ เป็นนายทหาร จึงย้ายที่ทำการไปตามที่ต่างๆ และครั้งหลังสุดนี้ ไปประจำการอยู่ที่ค่ายธนะรัชต์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เมื่อถูกถามว่า ถ้าสอบได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว จะสอบเข้าเรียนต่อที่ไหน ประยุทธ์บอกว่า เขาตั้งใจจะเรียนต่อที่ โรงเรียนเตรียมทหาร และหวังว่า จะได้เป็น “ทหารบก” ในอนาคต เขาเป็นนักเรียน ที่ใช้เวลาให้หมดไปกับหนังสือ ในวันหยุด จะไม่มีใครเห็นเขาวิ่งเล่น เช่นเด็กรุ่นเดียวกันเลย เขาดูหนังสือ แบบทวน ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ แล้วขึ้นทวนใหม่ ทำเช่นนี้หลายๆ หน ก็จำวิชาที่เรียน และเข้าใจวิชานั้นๆ อย่างถ่องแท้

เมื่อติดขัด ไม่เข้าใจวิชาอะไร เขาก็ถามพี่ๆที่บ้าน ในวันธรรมดา เขาใช้เวลาทวนวิชาเรียน ตอนหลังอาหารเย็น ไปจนถึงสี่ทุ่ม จึงจะเข้านอน ตอนเช้า ไม่มีเวลาดูหนังสือ เพราะต้องรีบไปโรงเรียน ประยุทธ์บอกว่า ดูหนังสือจนถึงสี่ทุ่ม ก็พอแล้ว เพราะเขาดูอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่ต้องรีบร้อนดู ตอนระยะใกล้สอบ

วิชาที่ประยุทธ์ ถนัดเป็นพิเศษ ได้แก่ คณิตศาสตร์ อังกฤษ และวิทยาศาสตร์ นอกจากจะเก่งวิชา เหล่านี้แล้ว ประยุทธ์ ยังชอบเรียนวิชาพวกนี้อีกด้วย เขาให้เหตุผลว่า “ ถ้าจะเรียนอะไรก็ตาม ที่ให้ได้ผล ควรจะมีใจรักในสิ่งนั้นๆ ด้วย” นอกจาก จะเป็นคนที่รักการเรียนเองแล้ว ประยุทธ์ ยังได้รับ การสนับสนุน ในการเรียน จากบิดามารดา นับได้ว่า ประยุทธ์เป็นเด็กโชคดี ที่จะมีโอกาสดำเนินชีวิตผิด ไปได้ยากมาก

ผลการสอบภาคกลาง ประยุทธ์ได้ 85 เปอร์เซ็นต์ กับผู้สัมภาษณ์ ประยุทธ์บอกว่า การสอบทุกครั้งนั้น ถึงแม้ตัวเขา จะได้เตรียมพร้อม มาแต่เนิ่นๆ แต่ก็อดมิได้ ที่จะรู้สึกตื่นเต้น ขณะที่ทำการสอบ มักจะตอบอย่างระมัดระวัง เมื่อทำเสร็จแล้ว จะอ่านทวนว่า ที่ตอบไปนั้น ตอบไปตาม ภูมิความรู้ทั้งหมด ที่ได้เรียนมาหมดหรือเปล่า

ประยุทธ์บอกว่า หนังสือที่ใช้เรียนในห้องเรียน ยังไม่มากพอ ตามความต้องการของเขาเอง เพราะฉะนั้น เขาจึงหาหนังสืออื่นๆ ที่เป็นหนังสือ นอกหลักสูตรไว้อ่าน เพื่อประดับความรู้ หนังสือที่อ่านเป็นประจำ ได้แก่ "ชัยพฤกษ์" ประยุทธ์พูดกับผู้สัมภาษณ์ว่า "ผมอ่านชัยพฤกษ์ เพราะได้ความรู้ มากครับ"

ประยุทธ์ แม้จะเป็นคนขรึม แต่เขาก็เป็นคนมีน้ำใจ เมื่อกลับจากโรงเรียน เขามักจะช่วยพี่น้อง ทำงานบ้านทั่วๆไป เป็นต้นว่า รดน้ำต้นไม้ กวาดลานบ้าน แม้จะต้องทำงานบ้าง เขาก็พอใจ ด้วยเหตุที่ว่า ความสำเร็จในชีวิตข้างหน้านั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนหนังสือ แต่อย่างเดียว ถึงเขาจะมุ่งดูหนังสือมาก แต่ก็ยังมีเวลา สำหรับการบันเทิง

เมื่อรู้สึกเมื่อยล้า จากการดูหนังสือ เขาจะหยุดทันที และหันมาดูอย่างอื่น เป็นการพักผ่อนสมองแทน เช่น ดูทีวี ประยุทธ์ชอบดูหนังญี่ปุ่น และหนัง สารคดีต่างแดน ความหวังของประยุทธ์ อยู่ที่การเป็นทหารบก เพราะได้รับแรงดลใจจากบิดา ซึ่งเป็นนายทหาร

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากวันนั้นสู่วันนี้ 44 ปี..บัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เขาคือ หัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่า เขาเป็นนักวางแผนการดำเนินชีวิต มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว การที่เขาให้เหตุผลการเรียนว่า “ ถ้าจะเรียนอะไรก็ตามที่ให้ได้ผล ควรจะมีใจรัก ในสิ่งนั้นๆ ด้วย” นั่นแสดงถึง เขาเป็นคนมีเหตุมีผล และมีความมุ่งมั่นมาตั้งแต่เด็ก เวลาชีวิต ถูกจัดไว้อย่างมีระเบียบวินัย ตามแบบฉบับลูกทหาร มีความมุ่งมั่น จะเป็นทหารบกให้ได้ เพราะมีแรงบันดาลใจจากบิดา

เขาได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้า คสช. วันที่ 26 พ.ค.57 ให้มาบริหารประเทศ และทำงานทันที โดยไม่เกรงกลัวอำนาจใคร ถึงวันนี้ 11 วันแล้ว ที่เขาทำงานอย่างเป็นทางการ ลองมาดูผลงานบางส่วน เท่าที่พอนึกได้ ที่เขาสั่งการให้ทำ ผ่านเจ้าหน้าที่รัฐ คือ

1. ด้านความจงรักภักดีต่อเบื้องสูง
- จัดการคนหมิ่นเบื้องสูงได้ 300 คน
- ปิดเว็บหมิ่นสถาบันชาติ 240 เว็บไซต์
- อายัดบัญชี พวกล้มเจ้า 16 บัญชี

2. ด้านความมั่นคงประเทศ และความปลอดภัยประชาชน
- เฉดหัวนักการเมืองหน้าด้าน และขี้โกงออกไป
- จัดการผู้มีอิทธิพล 120 คน
- บุกค้นบ้าน เจอปืน รวม 1400 กระบอก
- บุกค้นบ้าน เจอ ระเบิดรวม 900 ลูก
- พบอาวุธก่อนเกิดเหตุ กว่า 500 ชิ้น
- พบระเบิดในที่ต่างๆ ก่อนเกิดเหตุ 200 ลูก
- จัดการกลุ่มวัยรุ่น ที่พกปืน 430 กระบอก
- กำจัดปืนเถื่อน 400 กระบอก
- ตรวจค้นอาวุธที่มา ตามรถ ได้ 300 ชิ้น
- ปิดสถานีโทรทัศน์ สร้างความแตกแยก 20 สถานี
- ปิดสถานีวิทยุเถื่อน 350 แห่ง
- จัดการคดี เก่า 120 คดี
- ตรวจยึดยาบ้า รวมได้กว่า 1 ล้านเม็ด
- ตรวจจับไม้เถื่อน ได้ 5000 ตัน
- ตามจับผู้ก่อการร้าย
- ช่วยชีวิตคน จากกองโจรอั้งยี่แดง.. อันนี้นับไม่ถ้วน

3. ด้านเศรษฐกิจ
- จ่ายเงินจำนำข้าว ให้ชาวนา กว่า 1 แสนคน 3-4 หมื่นล้าน เช็ดดูดให้รัฐบาลเก่า ที่ทำไม่ได้
- ปรับราคายางใหม่
- ตั้งกองทุนใหม่ให้นักเรียน
- ตรึงราคาพลังงาน ที่รัฐบาลเก่า ขึ้นมาทุกเดือน เกือบ 1 ปี
- เมือบ้านเมืองปลอดภัย การค้าการขายดีขึ้น

4. การบริหารราชการ
- ปรับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการ ที่ไม่ดีเข้ากรุ
- กำจัดตำรวจที่ทำงานไม่สนองนโยบาย
- ออกหมายเรียก ผู้กระทำผิด
- อีกมากมายนับไม่ถ้วน

5. สนับสนุนให้กำลังใจ ลูกน้องทหาร
- สร้างไมตรีต่อประชาชน
- ช่วยคนแก่ข้ามถนน
- ช่วยคนถือ เข็นของ
- สร้างทหารคนดี สู่สังคมไทย ในวันหน้า

** ไปดูภาพผลงาน และคำอธิบาย ที่รวบรวมไว้ บางส่วนที่
https://www.facebook.com/thailandcoup

ผลการรัฐประหารของทหาร แทบไม่มีผลเสียใดๆเลย ต่อประชาชนคนดี แต่ในทางกลับกัน ประชาชน กลับได้รับความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ช่วงตลอด 6 เดือน รัฐบาลจากการเลือกตั้ง คอมมิวนิสต์เผาไทย มีระเบิด M79 ตกแทบทุกวัน ในกรุงเทพ เกือบ 100 ลูก , มีการใช้ระเบิดร้ายแรง และอาวุธสงคราม ถล่มศาล ปปช. บ้านบุคคลสำคัญ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล สถานที่สำคัญ ทำร้ายเด็กและผู้หญิง ตายและเจ็บจำนวนมาก โดยจับใครไม่ได้เลย

รัฐบาลเลือกตั้ง คอมมิวนิสต์เผาไทย ยังออกมาขู่ฆ่าประชาชน อย่างเปิดเผย ทางสื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต ฯลฯ เช้า สาย บ่าย ค่ำ ทุกวัน ส่งนักเลงอันธพาล ไปเกะกะระราน เตะพระ และทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ หาเช้า กินค่ำ , มีการลักเล็กขโมยน้อย บ่อน อาชญากรรม เต็มไปหมด เหมือนบ้านป่า เมืองเถื่อน

ภายหลังรัฐประหาร จนถึงวันนี้ 15 วัน ไม่มีระเบิด M79 ตกเลยสักลูกใน กทม. , อาวุธสงครามถูกกวาดล้าง จับได้ทุกวันอย่างมหาศาล เหมือนกองทัพย่อยๆ , พวกนักเลงอันธพาลขี้เบ่ง เงียบกริบ , ขโมย ขโจร นั่งจ๋องไร้เงา , ขี้ยาชิงทรัพย์หายจ้อย , ขี้เมาตีหัวหมา ด่าแม่เจ็ก เงียบฉี่ แอบลี้ภัย ไปกินในบ้าน , ไม่มีขี้เมาเดินกร่าง เอะอะระราน ในซอย เหมือนเคย , ซอยนักเลงกร่าง หายหัวไปเงียบ , เด็กแว้นก็เงียบ , เด็กสก๊อยก็เฉา

อาชญากรรมลดลงฮวบฮาบ , มือปืนรับจ้างหายตัว , ตีวิ่งชิงปล้น แทบไม่ปรากฎ , บ่อน ตู้ม้า ที่เคยครึกโครม เงียบสงัด , ภัยธรรมชาติ ฝนตก พายุ พิโรธรุนแรง บ้านเรือนประชาชนพังพินาศ ไฟไหม้หลายจุด ทั่วประเทศ แผ่นดินไหวรุนแรง ในรอบ 1,000 ปี..เบาบางกว่าเดิม หรือหายเรียบ !! แต่ทองคำอยู่ไต้ดินแต่โบราณ พร้อมใจกันโผล่ออกมา ให้ชาวบ้านเก็บมารวยซะงั้น

คนเฒ่าคนแก่ที่บ้าน หลับสบาย เปิดประตูหลังบ้านรับลมเย็นๆ ขโมยไม่ย่างกราย เหมือนเคย , เปิดประตูทิ้งไว้ ไม่มีของหาย , ไม่มีรัฐบาล จากการเลือกตั้ง มาขู่ฆ่าประชาชน ออกสื่อทุกวัน , ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว จากผลการกระทำของคนชั่ว ถูกปราบราบคาบสิ้น ภายใน 15 วัน อย่างที่จะหาปรากฎการณ์ แบบนี้ ไม่ได้เลย ในรัฐบาลเลือกตั้ง

ไม่น่าเชื่อว่า ก่อนวันรัฐประหาร วันที่ 22 พ.ค.57 คนไทยยังมืดมน เครียด มองหาทางออกประเทศไม่เจอ แต่เพียง 15 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงมือ ทุกอย่าง กลับตาลปัด จากหลังเท้าเป็นหน้ามือ

ช่วงนี้ไม่มี รมต. ส.ส. ผู้ช่วยนักการเมือง จอมกร่างทั้งหลาย ที่รับเงินเดือนจากภาษี เป็นหลักพันคน ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยประชุม ค่าดูงานเมืองนอก ค่านาฬิกาสภา เรือนละ 7 หมื่น ที่เสียไปแล้ว ทำให้ประเทศไทยลดรายจ่ายได้ เดือนละกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท เพราะไม่ต้องจ่ายสิ่งพวกนี้ ให้นักการเมือง ดื้อด้าน หัวหมอ อันธพาลพวกนี้

ดังคำกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ที่ว่า “ผมก้มผูกเชือกรองเท้าแล้ว ผมจะเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว โดยไม่หันกลับมามองข้างหลัง “ จากเวลา 44 ปี ณ วันนั้น ในวัยรุ่น ความมุ่งมั่นเขายังแน่วแน่ ไม่แปรเปลี่ยนใดๆเลย เขาเป็นคนจงรักภักดีเบื้องสูง แบบชนิด ไม่มีนักการเมืองเลือกตั้ง คนใดเทียบได้.. นี่คือหลักประกันว่า เขาคนนี้ ถูกพรหมลิขิตเลือกมาแล้ว ให้มาเปลี่ยนแปลง แบบปฏิรูป บ้านเมืองโดยพลัน ให้ดีขึ้น.. ไม่มีอะไรบังเอิญ

เราเคยลองให้นักการเมือง มาบริหารประเทศของเรา จนเละเทะ ข้าวสารหาย 3 ล้านตัน ขาดทุน จำนำข้าว 5 แสนล้านบาท ชาวนาอดข้าว จนฆ่าตัวตาย เป็นแพ และอีกสารพัด การคดโกง ใช้ชีวิตอยู่กับการถูกรังแก จากนักการเมือง อิทธิพลกร่าง เราถูกปกครองโดยนักเลือกตั้ง ที่อ้างคำว่า ระบอบ ประชาธิปไตย โดยมีเครื่องมือ ในการปกครอง คือ M79 , M16 , R-GD5, RPG ฯลฯ ประชาชนไทยเรา ไม่มีอะไร ต้องเสียไปมากกว่านี้ อีกแล้ว..

แล้วทำไมคนไทย ไม่ลองให้ทหาร นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. เข้ามาปฏิรูป เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองของเรา ดูบ้าง เวลา 15 วัน ยังแซ่บขนาดนี้ ถ้าให้ท่านทำงาน โดยไม่มีการก่อกวน จะแซ่มขนาดไหน อาหารมาเสริพ ยังไม่ลองชิม ก็ติซะแล้ว ว่าดูแล้วไม่อร่อย ลองชิมดูสักพักซิ แล้วจะติดใจ อาจรสชาติดี จนลืมอาหารจานเก่า ไปเลยก็ได้

กรุงโรม ไม่ได้สร้างเสร็จ ภายในข้ามคืน บางปัญหา มันหมักหมม ซุกไต้พรมมาช้านาน ประชาชนต้องใจร่มๆ แล้วสนับสนุน ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ให้นำพาประเทศของเรา ก้าวไปข้างหน้าให้ได้ หนทางข้างหน้า มันไม่ง่าย แต่ถ้าคนไทยร่วมแรงร่วมใจกัน ก็ไม่ยาก เลิกบ่น เลิกด่า แล้วก้มลงผูก เชือกรองเท้า แล้วเดินตามท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ให้ทัน

มีผู้รู้เคยกล่าวไว้ว่า “ ไม่ต้องสนใจว่า จะเป็นแมวพันธ์ไหน ขอให้มันจับหนูกินได้ เป็นพอ“ เป็นรูปแบบ การปกครองประชาธิปไตย แบบภูมิปัญญาไทย ที่มันสร้างความสุขสงบ ให้ประชาชน แบบจับต้องสัมผัสได้จริงๆ ไม่ใช่เพ้อฝัน และที่บริหารประเทศ อยู่ตอนนี้น่ะ คือ ข้าราชการ ที่ทำงานประจำ มีเงินเดือนทุกคนอยู่แล้ว ประชาชนไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเลย ถ้าคิดอย่างพ่อค้า ประเทศเรา มีแต่ได้กับได้ กำไรเนื้อๆ เป็นชิ้นเป็นอัน.. นี่มันกฎอัยการ "สุข" สำหรับประชาชนชัดๆ

เสธ ว่าที่สำคัญที่ซู๊ด เห็นได้ชัดๆ เลย คือ.. ประชาชน ประหยัดค่าซื้อทีวีใหม่ หลายล้านเครื่อง ต่อวัน เพราะไม่มีเป็ดเหลิม ริดสีดวง ปึ้งเหม่ง โผล่หน้ามา ให้เอาเท้าถีบ จนจอทีวีหล่นพัง ..ฮา

“..คนชั่วจะถูกปราบ ราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหาย ไร้ปัญหา ,
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “..

@ เสธ น้ำเงิน
https://th-th.facebook.com/topsecretthai
342,941 คนถูกใจ 76,658 คนกำลังพูดถึงสิ่งนี้

  

 

     

   www.asoke.info