@ เสธ น้ำเงิน4 แฉ..ความลับ
http://www.facebook.com/topsecretthai

วันที่ 8 มิ.ย.57
แฉ..ตลุยโกดังข้าวลำปาง พบโยงใย บริษัทนายหน้า จำนำข้าวจอมปลอม คนสนิทชายดูไบ

สายข่าวทหาร มทบ.32 ได้รับรายงานว่า โกดังเก็บข้าวแห่งหนึ่งใน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้ลักลอบ นำแรงงาน ต่างด้าว จำนวนมาก หมุนเวียนมาทำงาน โดยผิดกฎหมาย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ หน่วยไหน เข้าตรวจจับ เนื่องจาก เป็นโกดังของ ลูกของข้าราชการ ระดับสูง ในพื้นที่

ทหารโดย กกล.รส.มทบ.32 ได้นำกำลัง ชป.นทล. จำนวน 2 ชป. พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร จ.ลำป่าง, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ห้างฉัตร จู่โจมเข้าตรวจโกดัง เก็บข้าวสาร บริษัท พีเอเอส (2556) จำกัด เลขที่ 999 ม.1 ต.เวียงตาล ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ของนายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง อายุประมาณ 25 ปี เป็นบุตรชาย ของนายวรวุฒิ เมืองตั้ง ปลัดอำเภอห้างฉัตร

ซึ่งขณะนี้ นายวรวุฒิ ได้ถูกพักราชการ จากกรณี ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด เมื่อเดือน ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา จากคดีทุจริต สอบเข้าโรงเรียน นายอำเภอ , โดย นายพีระวัฒน์ ปรากฏชื่อ เป็นหุ้นส่วน ในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีทรัพย์สินกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะได้ส่งเรื่อง ให้ทำการตรวจสอบ ขยายผลต่อไป

ขณะเข้าตรวจสอบ บริเวณ ภายในบริษัท พบมีโกดังเก็บข้าว 5 โกดัง มีรถบรรทุกพ่วง จอดรอ ขนถ่ายข้าวสาร 17 คัน เจ้าหน้าที่ จึงได้แสดงตัว เข้าตรวจค้น โกดังข้าว หมายเลข A4 ซึ่งติดกับบ้านพัก ของคนงาน พบว่าแรงงาน จำนวนมาก กำลังแบกข้าว ลงจากรถบรรทุก เพื่อนำไปเก็บไว้ ในโกดัง หมายเลข A4

เมื่อตรวจสอบ จึงพบว่า แรงงานทั้งหมด เป็นต่างด้าว บางส่วน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้วิ่งหนีไป คนละทิศละทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ไล่ติดตาม ควบคุมตัว มาสอบสวน ได้ทั้งหมด 22 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 6 คน (เด็กหญิง 1 คน, ทารกหญิง 1 คน) มีเอกสารทำงาน อนุญาตให้ทำงาน ในพื้นที่ จ.พิจิตร จำนวน 9 คน ไม่มีใบอนุญาต 5 คน และอ้างว่า กำลังอยู่ระหว่าง ดำเนินการ ขอต่อ ใบอนุญาตทำงาน อีก 6 คน รวมเด็กหญิงอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวทั้งหมด ไปสอบสวน ตามขั้นตอนกฎหมาย

นายพีระวัฒน์ เมืองตั้ง ยังเกี่ยวข้องกับ ขบวนการ โกงจำนำข้าว บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ในสมัย รัฐบาลปู่เน่า โดยในช่วง ก่อนหน้าที่ บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด จะปรากฎรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 บริษัท คาล เอเชียฯ ได้แจ้งเปลี่ยน โครงสร้าง ผู้ถือหุ้น บริษัทใหม่ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 มีจำนวน 3 ราย

ตรวจสอบพบว่า นางสาว สุธิดา จันทะเอ หนึ่งในรายชื่อ ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ ของบริษัท คาล เอเซียฯ แท้จริงแล้ว เป็นคนใกล้ชิด นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร คนในครอบครัว ของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด คนไกล้ชิด ชายดูไบ

ผู้ถือหุ้นอีก 2 รายที่เหลือของ บริษัท คาล เอเซียฯ จากการตรวจสอบข้อมูล จากกรมพัฒนาธุรกิจ ระบุว่า รายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท คาล เอเชียฯ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 มีจำนวน 3 ราย ประกอบไปด้วย

1. นาย พีระวัฒน์ เมืองตั้ง ถืออยู่จำนวน 9,998 หุ้น มูลค่า 999,800 บาท
2. นาง วิไลลักษณ์ สุระมนต์ ถืออยู่ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท
3. นางสาว สุธิดา จันทะเอ ถืออยู่ 1 หุ้น 100 บาท

ตรวจสอบพบว่า นายพีระวัฒน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่สุด ของบริษัท คาล เอเชียฯ ระบุข้อมูลอาชีพว่า เป็นนักธุรกิจ แจ้งที่อยู่ เลขที่ 999 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแป้ง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ตรงกับที่อยู่ ทหารจู่โจม จับได้วันนี้

ขณะที่ นางวิไลลักษณ์ สุระมนต์ ระบุว่า มีอาชีพค้าขาย แจ้งที่อยู่เลขที่ 47/25 ซอยเสรีไทย 43 แยก 3 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. , ส่วนนางสาวสุธิดา จันทะเอ ระบุว่า มีอาชีพค้าขาย แจ้งที่อยู่เลขที่ 141/21 หมู่ที่ 5 ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ นายพีระวัฒน์ นอกจาก จะปรากฏรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด ของบริษัท คาล เอเชียฯ แล้ว ยังมีตำแหน่ง เป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจ กระทำการ แทนบริษัท เพียงคนเดียวด้วย

ยิ่งสาวเรื่อง การโกงจำนำข้าว ยิ่งลึกลงไปถึง ผู้เกี่ยวข้องกับ ชายดูไบ ครอบครัว และแก็งค์อั้งยี่ คอมมิวนิสต์ เผาไทย เรื่อยๆ ผลการตรวจสอบ โครงการจำนำข้าว รัฐบาลเก่า เจ๊งไปกว่า 5 แสนล้านบาท เงินเท่านี้ ประเทศเรา ถ้าไม่เสียไป สามารถนำมาสร้าง รถไฟรางคู่ ได้ทั้งประเทศ สบายๆ นี่เป็นการ ล้างผลาญชาติ โดยรัฐบาลเผาไทย จอมโกงมหาวินาศ ชัดๆ

และยังมีข้าวสาร หายไปอีกราว 3 ล้านตัน ( มีแต่เฉพาะตัวเลข ทางบัญชีเท่านั้น ) หรือคิดเป็น ข้าวเปลือกหาย 7.5 ล้านตัน (ข้าวเปลือก 10 ตัน = ข้าวสารคัด 4 ตัน ที่เหลือจะเป็นแกลบ รำ และข้าวปลายหัก , ที่ว่า 4.6-6.6 ตัน เป็นแค่ทฤษฎี ในสมัยก่อน ที่ในความเป็นจริง ทำไม่ได้ เพราะสมัยปูเน่า เป็นข้าวเปลือก ที่ไม่ได้อายุ ก็รีบเกี่ยว มาขายให้ทัน กำหนดเวลา ประกาศจำนำ และชาวนารีบทำ เอาปริมาณไว้ก่อน เลยละเลยคุณภาพ )

มีผู้รู้ลองคำนวณว่า ข้าวสาร 3 ล้านตัน มากมายขนาดไหน? ถ้าเอารถบิ๊กอัพ บรรทุกข้าว 1 คันต่อ ตัน โดยจอดเรียง ต่อแถวกัน 250 คัน ต่อ 1 กม. ยาวจากเชียงราย ถึง ปัตตานี มีระยะทาง ประมาณ 2,000 กม. เพราะฉะนั้น ต้องเรียงรถจาก เชียงราย ไปกลับ ปัตตานี ถึง 6 เที่ยว จึงจะหมดข้าว 3 ล้านตัน (250 ตันต่อ 1 กม. X 2,000 กม.= 500,000 ตัน x 6เที่ยว = 3,000,000 ตัน)

คิดดูว่า มันแดกกัน บ้าระห่ำจริงๆ มากที่สุด ตั้งแต่มีประเทศมา ก็ว่าได้ ประชาธิปไตย จากการเลือกตั้ง ที่ทุจริต คอรัปชั่น แบบนี้แหละ ที่อเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย เรียกร้อง และคนเสื้อแดง ถวิลหา รวมทั้ง ขบวนการล้มเจ้า กลุ่มนิติเรด , ม็อบนกพิราบกระป๋อง ต้องการ พวกเขาแสดงออกว่า มันสะใจดี ที่ตนเอง ได้มีส่วน ทำลายประเทศไทย ให้ย่อยยับ ด้วยมือพวกเขา

ช่วงนี้ทหาร เร่งไปตรวจสอบ โกดังข้าว หลายพื้นที่ ล่าสุดวันก่อน โกดังข้าวสาร ที่รัฐบาลเก่า ฝากไว้ที่ อ.เมือง กำแพงเพชร พังคลืนลงมาซะงั้น เพราะกระสอบล่างๆ มันเป็นข้าวผุๆ เป็นแป้งข้าวหมาก มันจึงทนรับน้ำหนัก กระสอบบนๆ ไม่ไหว พังถล่มลงมา , แต่การยึดทรัพย์ นักการเมือง ในประเทศไทย ต้องมีคำสั่งศาล เท่านั้น จึงจะมีผล ให้ทำได้จริง ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา หลังปี 2475 การยึดทรัพย์ จากนักการเมือง จึงผ่านระบบ ศาลยุติธรรม ไม่ได้เกิดจากอำนาจ คณะรัฐประหาร

โครงการจำนำ แบบเดิมนี้ คสช. คงไม่ทำต่อ แน่นอน เพราะมันทุจริตกัน ทุกขั้นตอน และต้องใช้เงิน มากมาย มหาศาล จนประเทศส่วนรวม จะเจ๊ง ระบบที่จะนำมาใช้ แทนการจำนำข้าว คือ “ การประกันภัย ข้าวนาปี” ซึ่งราคาที่ ชาวนาจะได้รับ แทบไม่แตกต่างจาก วิธีจำนำแบบเดิม แต่รัฐบาล จ่ายเงินเพิ่ม ให้ชาวนา เฉพาะส่วนต่าง ที่ไปขายให้พ่อค้า และไม่เท่าราคา ประกันขั้นต่ำ เท่านั้น

ไม่เป็นการแทรกแซง ตลาดเสรี ทำให้กลไกตลาด โดยเอกชน เดินหน้าไปได้ ซึ่งในปี 2558 ประเทศไทย จะกลับมาครอง อันดับ 1 ในตลาดค้าข้าว อีกครั้ง โดยไทยจะมีการ ส่งออกข้าว ประมาณ 10 ล้านตัน (สมัยปูเน่า ราว 6 ล้านตัน ) ชนะอินเดีย และเวียดนาม ที่จะเหลือเพียง ไม่เกิน 7 ล้านตัน , อันจะส่งผลให้ ตลาดค้าข้าว ของไทย ภายในประเทศ กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

ช่องทางการแจ้ง เบาะแส เรื่อง เกี่ยวข้องกับ ความมั่นคง ให้ คสช.
1. ศูนย์ประชาสัมพันธ์ คสช.ทภ.1 โทร 02-280-6847
2. แจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ คสช. และ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ คสช. (Call Center) โทร. 094-128-6273-9 และ 094-234-9312-4
3. E-mail (คสช.) : [email protected]
4. แจ้งเบาะแส, ข้อมูล ข่าวสาร ด้านความมั่นคง .คสช โทร 02-297-7947 , E-mail : [email protected]

** ติดตามข่าวสำคัญ เกี่ยวกับความมั่นคง ตลอดวันได้ที่ https://www.facebook.com/thailandcoup

@ เสธ น้ำเงิน4
http://www.facebook.com/topsecretthai

   www.asoke.info