วันที่ 13 มิ.ย.57
เผย..เมื่อแหย่ พญาหมีขาวจนตื่น โลกจะต้องกลับมา ตะลึงอีกครั้ง

ในขณะที่สถานการณ์ ภายในประเทศไทย คสช.ได้ควบคุมสถานการณ์ ในภาพรวมประเทศ ได้เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะไม่พูดถึง สถานการณ์ ความขัดแย้งที่ ยูเครน ก็จะไม่มีบทเรียนใหม่ๆ มาให้คนไทย ได้พิจารณา ถึงภยันตรายร้ายแรง ของการต่อสู้ กันด้วยอาวุธ จนเกิดสงคราม กลางเมือง

หลังจากเครื่องบิน สายการบิน มาเลเซียแอร์ไลน์ MH370 หายไป เมื่อหลายเดือนก่อน ระดมกำลังกัน หลายประเทศ ค้นหากัน จนแล้วจนเล่า หมดเงิน ไปบักโกรก ก็หาซาก เครื่องบินลำนั้น ไม่เจอ แต่มีอยู่ประเทศหนึ่ง ที่มีศักยภาพมาก แต่เขากลับมึน มาตลอด ตั้งแต่เครื่องบินหายไป คือ อเมริกา นั่นเอง ที่แทบไม่แสดงท่าที สนใจเรื่องนี้ใดๆ เลย ทำเพียง ส่งของเด็กเล่น ยานดำน้ำ บลูฟิน มาช่วย แบบเสียไม่ได้ แล้วก็จากไป อย่างรวดเร็ว

ผู้บริหารระดับสูง ของมาเลเซีย ก็รู้ดีว่า งานนี้โดน CIA อเมริกา แอบแทงข้างหลัง เข้าให้แล้ว แต่น้ำท่วมปาก พูดไม่ออก เมื่อช่วง วันที่ 5 และ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีเรื่องประหลาด ทำนองนี้แล้ว เมื่อเครื่องบิน หลายสิบลำ หายไปจาก จอเรดาร์ ของหอควบคุม การจราจร ทางอากาศ ในออสเตรีย เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก และ สโลวะเกีย ช่วงสั้นๆ ก่อความหวั่นกลัว เหตุการณ์ซ้ำรอย เที่ยวบิน MH370

เหตุการณ์ที่ว่านี้ ศูนย์ควบคุมการจราจร ทางอากาศ ในออสเตรีย และเยอรมนี พบว่า ข้อมูลเกี่ยวกับ ตำแหน่ง ทิศทางการบิน ความสูง และความเร็ว ของเครื่องบิน หลายลำ หายไปจาก จอเรดาร์ เอาดื้อๆ แต่ไม่มีอันตราย ร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น ต่อเครื่องบิน เหล่านั้น , ทางด้าน หอควบคุมการบิน ของสาธารณรัฐเช็ก และ สโลวะเกีย ก็ประสบปัญหา กรณีเครื่องบิน หายไปจาก จอเรดาร์ ในวันเดียวกัน..

ศูนย์ควบคุม การสัญจรทางอากาศ ของเยอรมนี บอกว่า เครื่องบินหายไปจาก จอเรดาร์ เป็นเวลา หลายวินาที สัญญาณหายไป เป็นพักๆ ไม่ได้ดับไปเลย เหตุความยุ่งเหยิงนี้ มาจากปัจจัย ภายนอก และกำลัง พยายามหา ต้นตอของมัน

แต่แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิส รัฐวิสาหกิจ ของสโลวัก แถลงว่า การหายไป ของเครื่องบิน บนจอเรดาร์ เกี่ยวข้องกับ การซ้อมรบ ทางทหาร ซึ่งมีขึ้นหลายจุด ในยุโรป กิจกรรมดังกล่าว ทำให้หลายเป้าหมาย หายไปจาก จอเรดาร์ ชั่วคราว แต่เครื่องบินเหล่านั้น ก็ยังสามารถ ติดต่อกับ หอควบคุม ผ่านทางวิทยุสื่อสาร และเดินทางได้ ตามปกติ

และไม่นาน หลังจากพบปัญหา เครื่องบิน หายไปจาก จอเรดาร์ ได้มีการรีบติดต่อ ไปยังฝ่าย ที่ดำเนินการ ซ้อมรบ และได้มีการหยุด ซ้อมรบทันที โดยออสเตรีย รายงานว่า เป็นการฝึกฝน ขององค์การ สนธิสัญญา แอตแลนติกเหนือ (NATO) ซ้อมรบหลายจุด ทั่วยุโรป และ นาโต ก็ไม่ได้ออกมา ปฏิเสธใดๆ

นาโต้ ซ้อมรบลับๆ ล่อๆ อะไร และใช้อุปกรณ์อะไร ประเภทไหน ข้อมูลเกี่ยวกับ ตำแหน่ง ทิศทางการบิน ความสูง และความเร็ว ของเครื่องบิน หลายลำ หายไปจาก จอเรดาร์ ของ 3 ประเทศ พร้อมกัน ในวัน เวลา เดียวกัน เอาดื้อๆ เรื่องบังเอิญ ไม่มีอยู่จริง นี่เป็นผลจาก การกระทำ ของมนุษย์ แสดงว่า อุปกรณ์ที่ว่านี้ ของนาโต้ มันใช่เทคโนโลยี เดียวกับ ที่เอามาใช้กับ MH370 หรือไม่ ? และการซ้อมรบ ไฮเทคครั้งนี้ นาโต้ กำลังเตรียมการ รับมือกับอะไร ?

และแล้วปริศนา ก็เริ่มคลี่ออก เมื่อ 2 วันถัดจาก การซ้อมรบ ของนาโต้ เวลา 16.30 น. เรดาร์กองทัพอเมริกา ได้ตรวจจับ เครื่องบิน ทิ้งระเบิดปริศนา 4 ลำ กำลังมุ่งหน้า เข้าใกล้เขต ป้องกันภัย ทางการอากาศ ของสหรัฐ ใกล้กับหมู่เกาะ อะลูเชียน ไม่ไกลจาก รัฐอลาสก้า ทำให้เครื่องบินรบ F-22 ของกองทัพอากาศ 2 ลำ ต้องบินเข้าสกัด บริเวณเหนือหมู่เกาะ อะลูเชียน

หลังจากนั้น ได้มีการติดตามรอย ของเครื่องบิน ทิ้งระเบิด ปริศนา ดังกล่าว พบว่า มุ่งหน้าไปทาง ตะวันออก และ 2 ลำ ในจำนวนนี้ หันหัวกลับ และมุ่งหน้า ไปทางตะวันตก ตรงดิ่งไปยัง ดินแดน ตะวันออกไกล ของรัสเซีย

อเมริกาคาดว่า เครื่องบินเหล่านี้ ประจำการอยู่ที่ฐานทัพ ใกล้กับเมือง อนาเดียร์ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ของรัสเซีย ส่วนอีก 2 ลำ ที่พบว่า มีศักยภาพ ในการติดตั้ง ระเบิดนิวเคลียร์ด้วย ได้บินโฉบ ไปทาง ตะวันออกเฉียงใต้

และต่อมา เหตุไม่คาดฝัน ก็เกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. เครื่องบินปริศนารัสเซีย ก็แอบบินเข้าสู่ เขตป้องกันภัย ทางอากาศ ทางเหนือ ของสหรัฐ นอกชายฝั่งทางเหนือ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ห่างจากชายฝั่งแค่ 80 กิโลเมตร อีกครั้ง ทำให้อเมริกา ต้องส่งเครื่องบินรบ F-15 จำนวน 2 ลำ ขึ้นไปสกัด เครื่องบินรัสเซีย ก็หันหัวกลับไปอีก และมุ่งหน้า ไปทางตะวันตก

พระเจ้า !! เครื่องบินรัสเซีย บุกมา ห่างจากชายฝั่ง รัฐแคลิฟอร์เนีย แค่ 80 กิโลเมตร โอ้ มายก็อด ระบบป้องกันภัย ของอเมริกา ทำไม ถึงจะหละหลวม เช่นนั้น นี่ถ้าเกิด เครื่องบินรัสเซีย ลำที่ว่า ถูกผู้ก่อการร้าย ควบคุมเครื่องมา และปล่อย ขีปนาวุธนิวเคลียร์สัก 1 ลูก ใส่แคลิฟอร์เนีย ระยะห่างแค่ 80 กิโลเมตร แค่ไม่ถึง 5 วินาที ขีปนาวุธ ก็ลงกลางเมืองแล้ว ไม่ต้องยิงระยะไกล มาจากขั้วโลก ด้วยซ้ำ

นี่มันระบบป้องกันภัย อะไรกันนี่ ถึงรูโหว่มาก ขนาดนี้ คิดดูว่า ถ้าเป็นผู้ก่อการร้าย มุสลิมหัวรุนแรง ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา กับอเมริกา ตั้งหลายประเทศ หรือ เกาหลีเหนือ หากมันบุก เข้าใกล้อเมริกา ขนาดนี้ได้ จะไปสร้าง ขีปนาวุธพิสัยไกล ให้เปลืองทำไม ก็เอาติดตั้ง เครื่องบิน แล้วบินวน มายิงใส่อเมริกา ทุกวัน วันละประเทศ สองประเทศ แค่นี้ก็อ่วมแล้ว..

โอ้..ตายๆ ครั้งนี้ปูติน แห่งรัสเซีย ฉึกหน้าโอบามา ของอเมริกาซะเละ ไม่มีชิ้นดีเลย ถ้าเปรียบเป็น การชกมวย บนสังเวียน แต่กรรมการ เคาะระฆังปุ๊บ ปูติน ก็เตะก้านคอ โอบามาปั๊บ น๊อคนับ 10 ชนะไปเลย ทั้งที่โอบามา แทบจะยังไม่ทัน เงยหน้าขึ้นมอง คู่ชกด้วยซ้ำ.. โอย.. อายๆๆๆ แทน

เท่านั้น ยังไม่สาแก่ใจรัสเซีย ปูติน ยังส่งขบวนรถถัง T-64 จำนวน 3 คัน, เครื่องยิง ขีปนาวุธ MB-21 หรือ “กราด” และยานพาหนะ ทหารประเภทอื่นๆ อาวุธหนัก เข้าไปช่วย กลุ่มกบฏ แบ่งแยกดินแดน ในยูเครนตะวันออก เอาดื้อๆ อีก โดยรถถังรัสเซีย แล่นข้ามพรมแดน เข้าไปในยูเครน เคลื่อนเข้าสู่หลายเมือง ทางตะวันออก ของยูเครน แบบหน้าตาเฉย ไม่สนใจว่าใคร จะเห็นหรือไม่ แล้วก็อ้างว่า เป็นข่าวโคมลอย และสนับสนุน อาวุธหนักทั้งหมด ให้กับกลุ่มติดอาวุธ ในยูเครน

รัฐมนตรีมหาดไทย ยูเครน ที่อเมริกาหนุนหลัง ก็ได้แต่โวย ตีอกชกตัว แต่ก็ทำอะไร รัสเซียไม่ได้ แม้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ยุโรป ขู่ว่า หากปูติน ยังไม่หยุด สนับสนุนอาวุธ ให้กบฏ ในภาคตะวันออก ของยูเครน จะคว่ำบาตรรัสเซีย ให้หนักยิ่งขึ้น แต่ปูติน ก็ชิวๆ ทำเป็นหูอื้อ เดินผิวปาก ไปค้าขาย กับจีนเฉย โดยตอบโต้ ด้วยการยกเลิก ขายก๊าสให้ยุโรป และไปทำสัญญา ขายล่วงหน้า ให้จีน 30 ปีรวด

และข้อตกลงการค้า ระหว่างรัสเซีย กับจีน ต่อไปนี้ ก็ยกเลิก การใช้สกุลเงิน ดอลลาห์ เป็นเงินกลาง ในการค้าขายก ันอีกด้วย.. ช็อคซิ เพราะเวลา กระชั้นชิด ขนาดนี้ ยุโรปจะไปหาซื้อแก็ส จากไหนทัน จึงจำไปต้อง ยอมซื้อของแพง ต่อจากจีน ให้ชอกช้ำหัวอก

ไม่นานต่อจากนั้น ก็มีการประลอง ของใหม่กัน โดยกองกำลัง ของรัฐบาล ยูเครน ปะทะกับกลุ่มกบฏ แบ่งแยกดินแดน ที่เมืองท่า มารีอูโพล ซึ่งเป็นเมืองท่า ใหญ่ที่สุด ของยูเครน ริมทะเล อาซอฟ มีประชากรราว 500,000 คน ราว 6 ชั่วโมง และสามารถ ยึดเมืองท่า คืนจาก กลุ่มกบฏ แบ่งแยกดินแดนได้ และได้นำ ธงชาติยูเครน ขึ้นไปติด สถานที่ราชการ และควบคุม แนวพรมแดน ฝั่งที่ติดกับรัสเซีย ได้เป็นส่วนใหญ่

ยูเครน ลูกน้องอเมริกา แม้จะได้อาวุธดี จากลูกพี่ แต่ยังต้องเผชิญ แรงกดดัน จากรัสเซียซ้ำอีก โดยขู่ว่า จะงดส่ง ก๊าซธรรมชาติให้ หากยังไม่สามารถ ตกลงกัน เรื่องราคาใหม่ได้ อ้าว โดนทั้งขึ้น ทั้งล่องเลย ล่าสุด เมืองลูกันสก์ ซึ่งอยู่ติด พรมแดนรัสเซีย เป็นเมืองหลัก ซึ่งตั้งอยู่ ในภูมิภาคตะวันออก ของยูเครน ก็ถูกโจมตี โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่สนับสนุนรัสเซีย และได้ประกาศ ไม่ขึ้นตรงกับ รัฐบาลกรุงเคียฟ ของยูเครน อีกต่อไป.. น้าน

จากนั้นกลุ่มยังไม่พอ กลุ่มมุสลิมเชเชน ติดอาวุธ ที่ได้รับการฝึกฝน มาอย่างดี จากสาธารณรัฐเชเชน ก็เข้าร่วมต่อสู้ เคียงบ่า กับกลุ่ม แบ่งแยกดินแดน ยูเครน เป็นจำนวน เพิ่มมากขึ้น กลุ่มติดอาวุธ ได้บุกโจมตี สนามบินนานาชาติ เมืองลูกันสก์ 2 วันติดกัน ทันทีที่ เปโตร โปโรเชนโค มหาเศรษฐี ราชาช็อกโกแลต เข้าพิธี สาบานตน รับตำแหน่ง ประธานาธิบดีคนใหม่ ของยูเครน.. ยึดสนามบิน และเมือง ฉีกหน้า ประธานาธิบดีใหม่ ยูเครน ว่างั้นเถอะ

ต่อมาประชาชน ในหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งอยู่นอกเมือง สลาเวียนสค์ ที่อยู่ทางตะวันออก ของยูเครน ต้องตกใจ ตื่นขึ้นกลางดึก วันพฤหัสบดี เพราะกองทัพยูเครน ใช้จรวด รวมไปถึง การทิ้งระเบิดเพลิง ที่ออกแบบ เพื่อให้เกิดเพลิงไหม้ โดยการใช้นาปาม ฟอสฟอรัสขาว หรือสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตราย ปูพรมทางอากาศ หมู่บ้าน เป้าเกือบทั้งหมด ถูกไฟไหม้ ที่พื้นดิน ไม่มีท่าที ที่เปลวไฟ จะดับลงได้ มีเด็กจำนวนมาก ที่ยังไม่สามารถ อพยพออกไปได้

ทั้งนี้การใช้ ระเบิดเพลิง ชนิดนี้ ถูกห้ามโดย องค์การสหประชาชาติ เพราะฟอสฟอรัสขาว เป็นสารที่มีลักษณะ คล้ายขี้ผึ้ง มีสีขาวใส ออกเหลือง มีกลิ่น คล้ายกระเทียม จะทำการ สันดาป อย่างรวดเร็ว กับออกซิเจน ทำให้เกิดประกายไฟ และควันสีขาว และเมื่อได้เจอ กับความชื้น จะทำปฏิกิริยา จนเกิดกรด ฟอสฟอริก เมื่อสัมผัสมนุษย์ มันจะไหม้ ทั้งผิวหนัง และเนื้อทุกส่วน จนเหลือแต่ ซากกระดูก เท่านั้น

เป็นระเบิดที่ทำมา เพื่อให้เกิดปฏิกิริยา กับอ๊อกซิเจน ทำอัตราย กับสิ่งมีชีวิต ที่มีอ๊อกซิเจนในเซลเนื้อเยื่อ โดยตรง ถ้าระเบิด กับอาคารบ้าน เรือนไม่ส่งผลเสียหาย เท่าใดนัก คงมีแต่ แรงอัดระเบิด เท่านั้น ที่ทำให้บ้านเรือน เสียหาย จุดประสงค์หลัก คือทำมาเพื่อ ผลทางการทหาร ทำให้ทหารคนนั้น ไม่สามารถ ทำการรบ ได้อีกต่อไป นิยมใช้มาก ในสงครามเวียดนาม ควบคู่ไปกับ ระเบิดนาปาม และพบว่า อิสราเอล ใช้ระเบิดฟอสฟอรัสขาว ถล่มเขตฉนวนกาซา ไปหลายปีมาแล้ว

จนเหตุวันนี้ ที่เล่นเอา รัฐบาลยูเครน ขี้หดขึ้นหัว เมื่อเครื่องบินลำเลียง ชนิด อิลยูชิน-76 ของกองทัพอากาศ ยูเครน ซึ่งนำทหาร ไปผลัดเปลี่ยน ประจำการ ได้ขนอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ไปด้วยเพียบ และกำลังจะลงจอด ที่สนามบิน เมืองลูกันสก์ ทางภาคตะวันออก ได้ถูกกลุ่ม แบ่งแยกดินแดน สายรัสเซีย ใช้ปืนกล ขนาดลำกล้องใหญ่ ยิงตก ทำให้ทหารยูเครน ที่อยู่บนเครื่อง 49 คน เสียชีวิต เกลี้ยงทั้งหมด

จากที่เล่ามา จะเห็นได้ว่า ประเทศยูเครน ถูกแทรกแซง โดยต่างชาติ มหาอำนาจ คือ อเมริกา ยุโรป และรัสเซีย โดยรัฐบาลเดิม ของยูเครน ก่อนหน้าที่จะล้มไปนั้น หนุนหลังโดยรัสเซีย ที่นี้อเมริกา ก็ไปยุให้แกนนำ ก่อการจลาจล หนุนอาวุธ ให้สู้รบกับรัฐบาล จนประเทศ เละไปหมด แล้วประธาธิบดีเก่า ก็บินหนีไปรัสเซีย แยกแหลมไครเมีย ไปควบรวม เป็นส่วนหนึ่ง ของรัสเซีย

จากนั้นอเมริกา และผองเพื่อน ก็หนุนให้มีการเลือกตั้ง ท่ามกลางความวุ่นวาย ไม่เป็นเอกภาพ ของประเทศ และรัฐบาลใหม่ ประธานาธิบดีคนใหม่ ของยูเครนนี้ ก็คือเด็กในคาถา ของอเมริกา นั่นเอง ที่นี้ทางรัสเซีย ก็เอาคืนบ้าง โดยหนุนอาวุธ ให้กับกลุ่ม ก่อการร้าย เพื่อเอามาสู้กับ รัฐบาลใหม่ ที่เป็นเด็กเส้น ตะวันตก

มันไหมล่ะนั่น เพราะคนในชาติ แตกความสามัคคี กันแท้ๆ ชิงดีชิงเด่นกัน เชื่อคำยุยง ของต่างชาติ อย่างอเมริกา และยุโรป ประเทศก็เลย แตกเป็นเสี่ยง ยับเยิน และดูแล้ว ไม่มีทางจบ แบบสวยงามแน่ ต้องสู้รบกัน ยืดเยื้อแบบนี้ ไปอีกนาน แล้วใครจะได้ประโยชน์.. อเมริกา และยุโรปไง ก็พวกเขาเป็น “พ่อค้าความตาย “ ก็ขายอาวุธ ให้รัฐบาลใหม่ ยูเครน ต่อได้อีกหลายปี

งบการศึกษา พัฒนาประเทศ หยุดระงับไว้ก่อน ต้องเอาไปจัดซื้อ อาวุธทันสมัย จากอเมริกา ยุโรปก่อน เงินที่คนในชาติ ยูเครน หาได้เท่าไร ก็จะไหลออก จนตัวซีด อเมริกาก็แค่ เอากระมัง รองเลือดนั้น เท่านั้น เอ็งสู้กัน ฆ่ากันเข้าไป แล้วมาซื้ออาวุธ จากข้านี้ สู้กันนานๆ นะ อย่าเลิก ส่วนรัสเซียเอง ก็ได้เปรียบ และได้ประโยชน์ หลายอย่าง คือบีบขึ้นราคา ค่าขายแก๊ส ให้ยูเครน เอาตามใจชอบ

เพราะยูเครน เป็นเมืองหนาว จำเป็นต้องใช้ แก๊สมาก ให้ความอบอุ่นร่างกาย ขาดไม่ได้ ถึงบีบขายแพงๆ ก็ต้องซื้อ ไม่งั้น จะไปซื้อที่ไหน ยุโรปก็ไม่มี ตัวเองยังไม่รอด ในขณะที่ขายแก๊ส ก็ขายอาวุธ ให้กับกลุ่มกบฏ แบ่งแยกดินแดนไปด้วย สร้างบุญคุณ เลี้ยงดูไว้ เอาไว้ยันกับ ลูกน้องอเมริกา เป็นรัฐกันชน ไม่ให้กองทัพจากยุโรป บุกเข้าประชิดรัสเซีย ได้ง่ายๆ

บทเรียนยูเครนนี้ คล้ายสถานการณ์ ในประเทศไทย แต่ไทยรอดปากเหยี่ยว ปากกามาได้ แบบเส้นยาแดง ผ่าแปด เมื่อบิ๊กสีเขียว ทำการรัฐประหาร เมื่อ 22 พ.ค.57 ส่งผลให้ หมากที่อเมริกา และผองเพื่อน วางไว้ ว่าจะต้อง ให้เกิดสงคราม กลางเมือง ในไทย ล้มกระดาน ไม่เป็นท่า ชั่วข้ามคืน แผนทุกอย่าง ที่ลงทุนปั้นมา พังคลืน อเมริกา จึงงอนตุ๊บป่อง คสช. อย่างที่เห็น

เขาต้องการให้คนไทย รบพุ่งกัน ให้เลือดกระเซ็น เหมือนยูเครน เขาจะได้ มาขายอาวุธ มาฮุบเอา แหล่งพลังงาน มาเอาทรัพยากรอื่นๆ ของเราไป โดยให้มี นักการเมือง กลุ่มหนึ่ง รวยจนท้องแตก แต่ปล่อยให้คนไทย หิวโซผอมแห้ง สู้รบ ก่อสงครามกลางเมือง กันยืดเยื้อ ยิ่งนาน เขายิ่งชอบ ไปดูซิ อีกหลายจุด ตอนนี้ อิรัก ซีเรีย ฯลฯ เละไหมล่ะ

คนไทยต้องฉลาด และรู้เท่าทันฝรั่ง อย่าให้เขา มาหลอกใช้เรา คนไทยต้องเข้าใจ อย่างถ่องแท้ อย่ามองปัญหา แค่เปลือก ว่าเป็นสีไหน กับสีไหน แต่ปัญหา มันซับซ้อนมาก ขนาดที่ ชาวบ้านชนบท หรือคนที่ เข้าไม่ถึงข่าวสาร ยากจะจินตนาการ ถึงผลร้ายของมัน ที่จะเกิดขึ้น กับชาติไทย ของเรา ตอนนี้คนไทย ต้องรักสงบ ปฏิบัติตามกฎหมาย หันมาสามัคคีกัน และไปทำมาหากิน ตามหน้าที่

คนไหนมีคดีความ มีพยานหลักฐาน ก็ไปสู้คดีกันในศาล ผิดก็ติดคุก ถูกก็รอด ใช้ชีวิตได้ เหมือนประชาชนทั่วไป ส่วนแกนนำ ถ้าไม่ทำผิด กฎหมายบ้านเมือง ไม่โกงบ้านเมือง มาก่อน แล้วจะไปกลัว กินปูนร้อนท้อง ไปทำไม แต่ถ้าเกิดทำผิดสิ อันนี้ถึงจะต้องกลัว บางคน กลัวมากๆ ก็หลบหนีหน้า ไม่กล้ามาเข้า กระบวนการ ยุติธรรม.. ยิ่งน่าสงสัยหนักกว่า คนที่ยอมสู้หน้า

คนไทยโชคดีมากแล้ว ที่เราไม่ต้อง รบกันเอง เหมือนยูเครน รบกันจนเละ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างชาติ หยิบชิ้นปลามัน ไปกินหมด ชัยชนะ ในท่ามกลาง ซากปรักหักพัง ของชาติตนเอง.. แล้วมันจะมี ประโยชน์อะไร รักกันไว้เถิด พี่น้องไทย โชคดีมีมาไม่บ่อย แต่ถ้าเจอ ให้รีบคว้าไว้ อย่าปล่อย ให้หลุดลอยไป !!

เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/topsecrettha

   www.asoke.info