แฉ..ความลับ @ เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/topsecretthai

วันที่ 1 ก.ค.57 หัวหน้า คสช.จัดให้ คืนความสุข วีระ สมความคิด เขมรปล่อยตัว กลับไทยแล้ว

เมื่อราวเกือบ 4 ปีที่แล้ว ชาวบ้านมาร้องเรียนทาง ส.ส.ปชป. และทางพระโพธิรักษ์ว่า ถูกทหารกัมพูชา เข้ามายึดที่นา มาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว เมื่อร้องเรียนไปยัง หน่วยราชการต่างๆ ก็ไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ส.ส.ปชป. และนายวีระ สมความคิด จึงเดินทางไปดู ที่เกิดเหตุ

โดยจอดอยู่ที่ ถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบ แนวชายแดน ท้ายหมู่บ้าน หนองจาน ห่างจุดตรวจ ชายแดนที่ 48 ของกองร้อย ตชด.126 ประมาณ 50 เมตร เมื่อเข้าไปในพื้นที่นา ของชาวบ้าน มาถึงสวนผลไม้ ใกล้กับค่ายทหาร ของกองกำลังกัมพูชา ทันใดนั้น มีทหาร กัมพูชา 8-9 คน ซึ่งมี พ.อ.ซายสุวรรณเรศ เป็น ผบ.พัน พร้อมอาวุธ ครบมือ ล้อมกรอบ และจับกุมทั้ง 7 คน และยึดอุปกรณ์สื่อสาร กล้องถ่ายรูป และบัตรทุกชนิด

โดยทางทหารกัมพูชา ไม่ยินยอมให้ทั้ง 7 คน ออกจากพื้นที่ แม้ทางตำรวจ ตระเวนชายแดน อรัญประเทศ จะเข้าเจรจา กับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายกัมพูชา แต่ก็ไม่เป็นผล ต่อมาในช่วงเที่ยง พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร.2 รอ. (ในสมัยนั้น) และ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (ในสมัยนั้น) ได้ประสานเจรจา พูดคุยกับ พล.ท.บุน เซ็ง ผบ. ภูมิภาคที่ 5 เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่ เข้าไปพูดคุย

โดยทาง พล.ต.วลิต และ พ.ต.อ.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้กำกับตำรวจ ตระเวนชายแดนที่ 12 ได้เดินทางไป เจรจากับ พ.อ.ชาย สุวรรณเรศ ผู้บังคับทหาร ป้องกันชายแดน ของเขมร เพื่อขอตัวคนไทยกลับ แต่การเจรจา ไม่สัมฤทธิผล ทำให้คนไทยทั้ง 7 คน ถูกส่งตัวไปที่ อ.ศรีโสภณ จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ทันที

สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ กัมพูชา ส่งตัวคนไทย ซึ่งถูกจับกุม ไปยังเรือนจำ ของกัมพูชา อ้างว่าทั้งหมด พยายามตรวจสอบ การจัดทำหลักเขตแดน กัมพูชา-ไทย ที่ จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา แล้วมีการดำเนินคดี ตามกฎหมาย ข้อหาบุรุก แผ่นดินกัมพูชา โดยแบบผิดกฎหมาย ไม่มีพาสปอร์ต และได้ทำการ ต่อต้านทหาร ในกัมพูชา

ต่อมา นายกอภิสิทธิ์ ในสมัยนั้น มอบหมายให้ นายกษิต รมต. ต่างประเทศ เดินทางไปกัมพูชา เพื่อเข้าพบกับ นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ต่างประเทศกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ แต่การเจรจา ไม่เป็นผล เขมรอ้างว่า อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ปล่อยตัวไม่ได้

ต่อมา ได้ตั้งข้อกล่าวหา คนไทยทั้ง 7 คน 2 ข้อหา คือ เข้าเมืองผิดกฎหมาย มีบทลงโทษจำคุก 3-6 เดือน และบุกรุกพื้นที่ทหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต มีบทลงโทษ จำคุก 6 เดือนถึง 1 ปี ทั้งหมด ต้องถูกควบคุมตัว ในเรือนจำ เป็นเวลาเดือนกว่า และ ทยอยปล่อยตัวมา 5 คน

ต่อมาวันที่ 11 มกราคม 2554 กัมพูชา แจ้งข้อหาเพิ่มเติม กับกับนายวีระ และ น.ส.ราตรี ฐานพยายาม ประมวลข่าวสาร ซึ่งอาจก่อ ให้เกิดอันตราย ต่อการป้องกันประเทศ ตามมาตรา 27 และมาตรา 446 เนื่องจากฝ่ายกัมพูชา ตรวจพบ เครื่องบันทึกเสียง และกล้อง สปายแคม และต่อมา น.ส.ราตรี ก็พ้นโทษก่อน

แต่ นายวีระ คดีถึงที่สุด มีคำพิพากษา ให้จำคุก 8 ปี ยังติดคุกต่อมา เนื่องจาก คนแดนไกลเผาไทย ที่ช่วงนั้น สนิทแนบแน่น เป็นเพื่อนรัก กับฮุนเซ็น เหลือเกินร้องขอ เพื่อแก้แค้นนายวีระ ที่ทำเขาต้องระเห็จ จากเมืองไทย กลายเป็นคน ร่อนเร่พเนจร จนถึงปัจจุบัน

ถ้าใครลืมไปแล้วว่า คนแดนไกล ที่ต้องระเห็จ ระเห เร่ร่อน อยู่ทุกวันนี้ เป็นฝีมือใคร ก็คุณวีระ นี่แหละ ที่เป็นคนร้อง เรื่องทุจริต ที่ดินรัชดา กับ ปปช. จนต่อมา คตส. ก็มีมติสั่งฟ้อง จนศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง ตัดสินจำคุก คนแดนไกล และเผ่นป่าราบ หนีออกนอกประเทศ สมัยพวกตัวเอง เป็นนายกฯ มาจนถึงทุกวันนี้

และคุณวีระ ยังมีร้องคนแดนไกล อีกหลายคดี จน คตส. ฟ้องไปที่ศาล คดีคาศาลจนบัดนี้ อยู่รวมกับคดีอื่นๆ อีกกว่า 10 คดี แต่คนแดนไกล ไม่มาปรากฏตัวต่อศาล ในนัดแรกแต่ละคดี ทำให้คดีหยุดนิ่ง พิจารณาต่อไม่ได้ แต่ยังไม่จำหน่าย ออกจากสารบบ.. เมื่อไรที่ ประเทศปลายทาง ที่คนแดนไกลอาศัย ยอมส่งตัว ผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาไทย คดีที่รออยู่ที่ศาลจะ Auto Run ทันที

นี่แหละที่ผ่านมา ที่รัฐบาลปูเน่าเผาไทย ไม่ช่วยวีระ อย่างจริงๆ จังๆ ก็เพราะยื่นเงื่อนไขให้วีระ แบบประหลาดว่า ถ้าช่วยออกมาได้แล้ว ต้องหยุดการเคลื่อนไหว ขุดคุ้ยทางการเมือง เรื่องเน่าๆ แต่วีระไม่ยอม ปูเน่าเผาไทย ชักใยโดย คนแดนไกล จึงแกล้งวีระ ติดคุกต่อ

และแล้ววันที่ 1 ก.ค.57 สิ่งที่เหลือเชื่อ ก็เกิดขึ้น เมื่อ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ประเทศกัมพูชา ได้สั่งปล่อยตัว นายวีระ สมความคิด แล้ว และสมเด็จ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์กัมพูชา พระราชทาน อภัยโทษ ต่อนายวีระ

ตามรายงานของ สมเด็จฮุนเซน ซึ่งคาดว่า จะเดินทางกลับถึงไทย ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ โดยเดินทางมา เที่ยวบิน PG 932 ถึงไทยในเวลา 11.25 น. และแถลงข่าว ในช่วงบ่าย 2 ก.ค.57

ทางการกัมพูชา ยืนยันว่า การเสนอพระราชทาน อภัยโทษครั้งนี้ “ ได้รับติดต่อ เจรจาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ หัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ “ โดยยื่นเงื่อนไขว่า จะดูแลแรงงาน และนักโทษชาวกัมพูชา เป็นการตอบแทน

การปล่อยตัว นายวีระ สมความคิด เกิดขึ้นภายหลัง การประชุม ระหว่าง สมเด็จฮุนเซน และคณะ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวง การต่างประเทศ ที่เดินทาง เยือนกัมพูชา โดยได้มีการหยิบยก กรณี นายวีระ สมความคิด ซึ่งรับโทษอยู่ที่เรือนจำ ในกรุงพนมเปญ มาเป็นเวลากว่า 3 ปี 6 เดือนแล้วนั้น ขึ้นมาหารือ ซึ่งตามกฎหมาย ของกัมพูชา จะต้องรับโทษ 5 ปี จึงจะมีสิทธิ ขออภัยโทษได้

นายสีหศักดิ์ ได้หารือตามแนวทาง ที่ได้รับมอบหมายไปจาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่ขอให้ฝ่ายกัมพูชา พิจารณาปล่อยตัว นายวีระ โดยคำนึงถึง ข้อเท็จจริง และด้านมนุษยธรรม รวมทั้ง ความสัมพันธ์ ของทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายไทย ไม่ประสงค์ จะแทรกแซง กระบวนการยุติธรรม ของกัมพูชา

สมเด็จฮุนเซน ได้นั่งรับฟังคำอธิบาย จากนั้นก็ได้หยิบกระดาษ ขึ้นมาหนึ่งแผ่น คือ พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ให้กับนาย วีระ โดยลงวันที่ 1 ก.ค.2557 พร้อมกับถามว่า จะรับตัวนายวีระ กลับวันใด คือ วันนี้ หรือ วันพรุ่งนี้ นายสีหศักดิ์ จึงเรียนว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ลงวันที่ 1 ก.ค.57 จึงขอให้ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สถานเอกอัครราชทูตไทย เดินทางไปรับตัว นายวีระ ในวันเดียวกันนี้ ทันที

เบื้องลึก ฉากหลังเรื่องนี้ เกิดจากคุณพิศอำไพ ภรรยา วีระ สมความคิด ทำหนังสือ ขอความช่วยเหลือ ในการนำตัว นายวีระ สมความคิด กลับเมืองไทย ถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ และมีการมอบ นายทหารอีกคน ประสานงานลับๆ กับเขมร โดยบิ๊กสีเขียว ขอให้ตั่วเฮียจีน เป็นตัวกลางเจรจา แบบเงียบๆ

พอเรื่องเรียบร้อย ตกลงกันหลังฉาก เรียบร้อยแล้ว เขมรก็ออก พรก.อภัยโทษ ให้คุณวีระทันที จากนั้น ไทยก็ได้ส่ง คณะปลัดกระทรวง การต่างประเทศ เดินทางไปเยือนเขมร เพื่อแสดงถึง การให้เกียรติ และมิตรไมตรี อย่างเป็นทางการ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน จนเป็นที่มา การปล่อยตัว ในครั้งนี้ แบบเซียน อ้าปากค้าง !!

เป็นไง กลศึกอัจฉริยะข้งเบ้ง เส้นผมบังภูเขา ปล่อยตัววีระ ของบิ๊กสีเขียว บทจะง่าย มันก็แสนง่ายดาย เพียงอาศัย จังหวะเวลา ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่ต้องใช้อาวุธ ไม่ต้องต่อสู้กัน ไม่ต้องคุยโม้มาก เปลืองน้ำลาย เหม็นขี้ฟัน เหมือนนักการเมือง ไม่ต้องลงนามสัญญา มีข้อพันธะประเทศ ผูกพัน MOU ใดๆ..

ขนาดคนแดนไกล ที่ว่าแน่หนักหนา เป็นเพื่อนสนิทฮุนเซน และมีหลานเขย เป็นคนกัมพูชา ก็ยังทำไม่ได้เลย , ปูเน่าก็ไร้ฝีมือ , ชายม่านรูด ยิ่งหมดปัญญา , ปึ้งเหม่งก็บ้อท่า , เป็ดเหลิมขี้คุย ที่เคยบินไปก็เจ้ง , แป๊ะลิ้ม จอมด่าทุกคน ที่คิดไม่เหมือนตน ก็เหงิบ , นักแสวงโชค ทางการเมือง ที่ดีแต่จ้อเอาหน้า ทุกคนหน้าแตกหมด

ถ้าใครจำได้ เมื่อไม่กี่วันมานี้ เสธ ก็เคยบอกแล้ว เรื่องแรงงานเขมร ไทยมีแต่ได้กับได้ 5 ประการ ด้วยกัน และบอกแล้วว่า งานนี้เห็นธาตุแท้ สม รังสี ที่อเมริกาหนุนหลัง และว่าฮุนเซ็น จะต้องชิง โกยคะแนนนิยม จากงานนี้แน่ๆ ตรงเป๊ะ !!

** ดูไขปริศนา..ข่าวลือแรงงานเขมร ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.246743462182355.1073742024.187529244770444&type=1

แรงงานเขมร ที่อพยพกลับไปมาก ขนาดราว 2 แสนคนนั้น จริงๆ แล้ว จะมีผู้ได้รับ ผลกระทบ มากถึง 1 ล้านคน ( แรงงาน 1 คนมีญาติ ประมาณ 5 คน ) มันเสี่ยงที่จะถูก สม รังสี ปลุกปั่น ให้ก่อการประท้วง เหมือนกรณี คนงานโรงงานทอผ้า จนประทะกับ ทางการเขมร อย่างหนัก จนเกือบลุกลาม กลายเป็นสงคราม กลางเมืองมาแล้ว

ขืนปล่อยทอดเวลาไปนาน แรงงานพม่าก็จะมาเสียบแทนแรงงานเขมร จนเข้าสู่ AEC ในปี 2558 และการที่ แรงงานเขมร กลับประเทศ จำนวนมาก ก็จะตกงานรวดเดียว พร้อมกัน ในเวลาใกล้เคียงกัน ขนาดนั้น พนมเปญเดือดแน่ ไม่นานเท่าไร ก็เกิดจลาจล และจะทำให้ เสียคะแนนเสียงฮุนเซน ไปเป็นล้านคน แพ้เลือกตั้ง สมัยหน้ากับ สม รังสี หลุดลุ่ยแน่ๆ

ผลจากเสื้อแดง ขายชาติ ปล่อยข่าวลือ เพื่อหวังให้ ไทยกับเขมร ผิดใจกัน และจะเอานักรบ เขมรรับจ้าง ที่ตกค้าง แฝงตัวกลับไปเขมร แบบเนียนๆ ไปกับแรงงาน ในครั้งนั้น ส่งผลให้รายได้ จากค่าแรงงานเขมร ไม่ไหลเข้า ประเทศเขาทันที เหมือนปิดเขื่อนปุบปับ แรงดันภายใน ก็จะสูง อย่างรวดเร็ว

คิดดูว่าคนงาน 2 แสนคน รายได้ต่อเดือน มันจะหายไปเท่าไร?? มันมากมหาศาล สำหรับ ประเทศเขมร ที่เขามีเงินเดือน จบปริญญาตรี คิดเป็นเงินไทย แค่ราว 1,500 บาท ต่อเดือนเท่านั้น และต้องพึ่งพา รายได้ จากการขาย แรงงานในไทย หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจเขา อย่างมาก

บิ๊กสีเขียว หัวหน้า คสช. เห็นช่องแสงสว่างๆ เล็กๆ จังหวะนี้ เลยติดต่อ ขอให้พี่ใหญ่จีน ช่วยเป็นตัวกลาง เจรจากับเขมร และ ให้กระทรวง การต่างประเทศ ไปเจรจาต่อยอด บอกจะดูแล แรงงาน และนักโทษชาวกัมพูชา เป็นการตอบแทน ฮุนเซน ก็หัวร่อร่า ยิ้มแก้มปริ ดีใจจนเนื้อเต้น รีบลดค่าทำ หนังสือเดินทาง ชาวเขมร จากเดิมราคา 4 พันกว่าบาท เหลือแค่ 120 บาทต่อคน เท่านั้นเอง เรียกว่า ดีใจสุดๆ เพราะรอดตายแล้ว รีบปล่อยตัว วีระ คืนมาทันที

ไทย และ เขมร Win-Win ทั้ง 2 ประเทศเลยงานนี้ ในไทยได้ใจ สายเสื้อเหลือง ไปเต็มๆ , ได้สยบนักรบ ชุดดำเขมร ในอนาคต ไม่ให้กลับมา , นอกประเทศ ได้ใจฮุนเซน ไปเนื้อๆ จนกดดัน พวกแกนนำแดง ที่หนีคดีจากไทย ที่ไปหลบอยู่ในเขมร ตาเหลือก เผ่นกลับออกมา จนเกลี้ยงเลย เช่น เจ้เพ็ญ มือปืน 10 ล้านกระบอก ดีเจอ้อม ไวพจน์ โกตี๋ ตั้ง อาชีวะ ฯลฯ และโอกาส จะเกิดการสู้รบ แนวชายแดน กันเหมือนเคย ก็จะน้อยลงไป อีกมาก

ส่วนคนแดนไกล ที่ทะเลาะ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด กับฮุนเซน ต่อไปก็เสียวสันหลัง ไม่กล้าเข้าไปเขมร เพราะกลัว โดนจับตัว ส่งมาไทย.. เป็นสัมภเวสี เร่ร่อนต่อไป และพื้นที่ เคลื่อนไหวในโลก ก็จะแคบลงเรื่อยๆ ตลอดเวลา

ไม่มีมิตรแท้ และศรัตรูที่ถาวร.. มีแต่ผลประโยชน์ ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น ที่เที่ยงแท้ แน่นอน คนโบราณว่า คนพูดมาก จะไม่ทำ.. ส่วนคนทำจะไม่พูด.. เป็นจริงเสมอ กลศึกพิชัยสงคราม เลือกใช้คน และยุทธวิธี ไม่ต้องเปิดเผย บอกขุนศึก และพลรบทุกเรื่อง ให้เสียการใหญ่ !!

พวกที่กำลังโวยวายตอนนี้ เพราะเรื่องบางอย่างที่ไม่ได้ดั่งใจ ดูตัวอย่างนี้ไว้..ยืนหยัดในเป้าหมาย แต่ยืดหยุ่นวิธีการ มันชนะ แบบเร้าใจ กันเห็นๆ ง่ายๆ กันแบบนี้แหละ !!

หยุดโวยวายมันทุกเรื่อง คอยเฝ้าจับตามองอยู่เงียบๆ สักพัก..ปัญหามันสะสมมากว่า 9 ปี ให้โอกาส คสช.เขาได้จัดทัพ วางคนของเขา ลงไปจุดต่างๆ ตามแนวคิด ปฏิรูปประเทศ คืนความสุขให้คนไทย

ถ้าอยากโวยวายนัก คนฉลาดก็ควรรอ ให้ตรงจังหวะ ช่วงแผนระยะที่ 3 หลังเดือน ต.ค.57 โน่น โดยเสนอความคิด ข้อมูล ให้กับสมาชิก สภานิติบัญญัติ แห่งชาติ และสภาปฏิรูป แห่งชาติ.. ช่วงนี้เพลาๆ ให้คนตั้งใจทำงาน หายใจ หายคอบ้าง !!

@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/topsecretthai

   www.asoke.info