แฉ..ความลับ @ เสธ น้ำเงิน1 / 3 ก.ค.57
https://th-th.facebook.com/topsecretthai

วันที่ 2 ก.ค.57
อนาถ..ชะตากรรม นักแสวงโชค ประชาธิปไตยจอมปลอม

ภายหลังคนแดนไกล โดนศาลฏีกา แผนกคดีอาญา นักการเมือง พิพากษา ให้จำคุกเขา 2 ปี ในกรณี เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการ ทุจริต ต่อหน้าที่ ในคดี ที่ดินรัชดา สมัยเขาเป็น นายกฯ ที่ยื่นร้องเขาโดย วีระ สมความคิด เป็นเวลา 6 ปีแล้ว ที่เขาไม่ได้เหยียบ แผ่นดิน สุวรรณภูมิ อันศักดิ์สิทธิ แห่งนี้อีกเลย

ระเหเร่ร่อน เป็นสัมพเวสีไร้ศาล ไปตามประเทศต่างๆ อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง เพราะกลัว การลอบสังหาร ปองร้าย และรวมถึง เดินทาง มาเลาะเล็ม รอบเมืองไทย เพื่อมาบงการ สมุนบริวาร ให้ปฏิบัติการ ทางการเมืองต่างๆ เขาจะต้องหนีคดี ต่ออีก 9 ปี จึงจะหมด อายุความ ในคดีแรก และหากกลับมาไทย เขาต้องถูกนำตัว ไปปรากฏกาย ต่อศาล ในการพิจารณา คดีนัดแรก ทุกคดี ที่ยังมีคดีความทุจริต สมัยมีอำนาจ รอพิจารณา อีกกว่า 10 คดี

พอยุคหล่อใหญ่ เป็นนายกฯ คนแดนไกล ต้องการช่วงชิง อำนาจในไทย ช่วงนั้น ยังเป็นเพื่อนรัก กับฮุนเซน จึงยุยงฮุนเซน ให้ก่อสงครามกับไทย ในแนวชายแดน โดยฮุนเซน ต้องการกระชับ อำนาจทางทหาร ที่บางกลุ่มกำลัง กระด้างกระเดื่องพอดี จึงใช้กองกำลังทหาร ที่เป็นสายเขมร 3 ฝ่ายเก่า ที่เคยรบกับ ฮุนเซนมาก่อน และยอมมา สวามิภักดิ์ ต่อมาในภายหลัง

ทหารสายนั้น ไม่ใช่ลูกน้องเก่า สายฮุนเซน มาแต่แรก เป็นสายสีหนุ ฮุนเซน จึงส่งลูกชาย นายพลฮุน มาเน็ต ลงพื้นที่ มาดูลู่ทาง สอดแนม พวกเดียวกันเอง เพื่อประเมินกำลัง ทหารเขมรสายนี้ ด้วยตนเอง จากนั้นเขาจึงสั่ง ปะทะกับทหารไทย และสั่งยิงปืนใหญ่ มาตกใส่โรงเรียน และบ้านเรือนราษฎร ฝั่งไทย

การรบกันหลายละลอก ในครั้งนั้น ทำให้ทหารเขมร เสียชีวิตไป จำนวนมาก อย่างเอจอนาถ (แต่เรื่องนี้ ไม่ควรพูดถึงต่อ ให้กระทบ ความสัมพันธ์อันดี ระหว่างกัน ช่วงนี้) ในครั้งนั้น ฮุน เซน ได้ประโยชน์หลายอย่าง คือ แสดงศักยภาพ ความเป็นผู้นำ ให้กลุ่มคลั่งชาติ ในเขมรประจักษ์ คะแนนนิยมเขา ในประเทศ พุ่งขึ้นทันที เหนือกลุ่ม สม รังสี

ผลได้ต่อมา คือ ยืมมือทหารไทย จัดการ ทหารเขมร ที่ไม่ใช่ลูกหม้อ ฮุน เซน ณ จุดปะทะ เพื่อกดหัว ผบ. หน่วยทหารเขมรนี้ไว้ เพราะไม่มีทหารที่ใด อยากปะทะ ให้เสี่ยงชีวิตตนเอง และลูกน้อง การกระด้างกระเดื่อง ของทหารเขมร ชุดนี้ ที่ฮุน เซน ส่งลูกชาย มาสอดแนม จึงต้องหยุดลงไป

ผลได้ถัดมา คือ ซื้อใจเพื่อนซี้ คนแดนไกล ว่าเขาช่วยเพื่อน ตามคำขอ ให้ก่อสงครามย่อย กับไทยแล้วนะ ดังนั้น หากล้ม นายก หล่อใหญ่ได้ ผลประโยชน์ พลังงานในทะเล ต้องมาแบ่งกัน ตามเงื่อนไข เขาต้องได้เปรียบ

พอถึงปี 53 ยุคเผาเมืองรอบ 2 คนแดนไกล ไปติดต่อจ้าง เจ้ายอดศึก แห่งไทยใหญ่ ให้ส่งกองกำลัง มาช่วยก่อสงคราม กลางเมือง แต่โดนเจ้ายอดศึก ปฏิเสธ เขาบอกว่า ให้มาสู้กับทหารไทย เขาไม่เอา เนื่องจากเคารพ ในสถาบัน พระมหากษัตริย์ไทยมาก เนื่องจาก ตอนเด็กๆ เจ้ายอดศึก เคยเข้าเฝ้า สมเด็จพระเทพฯ โดยบังเอิญ เมื่อครั้งเสด็จ ยอดดอย ทุรกันดาร และเขาเคยมานอนป่วย ที่โรงพยาบาล ในเชียงใหม่ อยู่นาน จึงซึมซับ พระราชกรณียกิจ กษัตริย์ไทย

คนแดนไกล จึงเดินทางเข้าเขมร อีกครั้ง เพื่อไปขอ ความช่วยเหลือจาก ฮุนเซน ให้ส่ง กองกำลังรบ ติดอาวุธ มาช่วยรบ กับทหารไทย ก่อสงครามกลางเมือง ในกรุงเทพฯ ให้หน่อย โดยมี เสธ แดง และ กลุ่มแกนนำเสื้อแดง เดินทางไปพบที่เขมร เพื่อสุมหัว วางแผนกัน

ผสานกับกลุ่มติดอาวุธ ของนายพล มนัส ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ของคนแดนไกล จนเป็นที่มาของ สงครามกลางเมือง ในเดือน เม.ย.-พ.ค.53 โดยกลุ่มติดอาวุธ ชายชุดดำ ผสม ไทย-เขมร ชุดนี้จึงยิงมั่ว ใส่คนเสื้อแดง และทหารไทย เพื่อสร้างสถานการณ์ ป้ายสี นายกหล่อใหญ่ จนมีคนตายถึง 98 ราย และทหารไทย พบศพทหารเขมร ตาย 23 ศพ ที่หน้าอนุสาวรีย์ ร.6 ของสวนลุม (มีบันทึก หลักฐาน ทางราชการ และ กรรมาธิการทหาร)

สงครามกลางเมือง ครั้งนั้น เสื้อแดง มีการเผาอาคาร ห้างสรรพสินค้า ในกรุงเทพฯ และศาลากลาง หลายจังหวัด จนราบพนาสูญ ผลการสร้างวาทะกรรม ใส่ร้ายและกดดัน ของกลุ่มเผาไทย ร่วมมือกับอเมริกา เป็นผล เมื่อราว 1 ปีถัดมา นายกหล่อใหญ่ ก็ยุบสภา เลือกตั้งใหม่

การหลอกลวง ประชาชน ด้วยนโยบาย ประชานิยมเผาไทย การทุ่มซื้อเสียง แบบหมด หน้าตัก ส่งผลให้ ส่งปูเน่า ขึ้นเป็นนายกฯ ได้ในเวลา 45 วัน แต่ก็ยังทำให้ คนแดนไกล กลับมาประเทศ แบบเท่ห์ๆ ยังไม่ได้อยู่ดี

จึงเป็นที่มาของ การส่งคนไปเจรจา ยื่นเงื่อนไข ต่อรองกับ วีระ สมความคิด ในคุกเขมรถึง 3 ครั้งว่า หากช่วยให้เขมร ปล่อยตัว ออกจากคุกได้ เขาต้องรับเงื่อนไข ในการล้มคดีความ ที่เขาเป็นผู้ร้อง เกี่ยวกับการทุจริต ของคนแดนไกล และ เหล่าบรรดาสมุน ที่คดีคาอยู่ที่ใน กระบวนการ ยุติธรรม ขั้นตอนต่างๆ และต้องหยุด ขุดคุ้ยต่อ ตลอดไป

ที่สำคัญคือ รัฐบาลปูเน่า ส่งอดีต นายพลใหญ่ และฝ่าย โฆษณาเผาไทย ไปต่อรองเรื่อง พื้นที่พิพาท เขาพระวิหาร ให้วีระยอมรับว่า รุกดินแดนเขมรด้วย เพราะในช่วง รัฐบาลปูเน่า ความสัมพันธ์ของ ทั้งสองประเทศ ดีมาก มีการไปมา หาสู่กัน มีการทำธุรกิจ ร่วมกัน หากวีระ ยอมทำตามเงื่อนไข ทุกอย่างง่ายมาก

แต่วีระ เป็นคนยอมหัก ไม่ยอมงอ เหมือนเรืองไกร ที่ยอมแพ้ต่อ ผลประโยชน์ อันหอมหวล วีระจึงปฏิเสธ เงื่อนไขนั้น ทั้ง 3 ครั้ง เพราะเห็นว่า ชาติจะเสียประโยชน์ และเขาก็ ติดคุกเขมร มาระยะหนึ่งแล้ว จึงขอเสียสละเพื่อชาติ ยอมติดคุกต่อไป ไม่ให้เสียของ โดยมีภรรยาเขา จากเมืองไทย ไปเยี่ยมทุกสัปดาห์

ช่วงนั้น บิ๊กสีเขียว ยังไม่มีอำนาจเต็มที่ จะช่วยวีระ เพราะรัฐบาลเผาไทย มีปูเน่า เป็นนายกฯ จังก้าขัดขวางอยู่ เนื่องจาก คนแดนไกล และพวก ยังไม่ได้ ประโยชน์ใดเลย จากวีระ หากวิ่งเต้นให้เขมร ปล่อยตัวออกมา

จนบิ๊กสีเขียวยึดอำนาจ เป็น คสช. มีอำนาจเต็ม จึงเดินกลศึกเงียบๆ แบบเหนือเมฆ เพราะวิเคราะห์ว่าเขมร ใช้การทหาร นำการเมือง และอาศัยจังหวะทอง เรื่องแรงงานเขมร อพยพกลับบ้าน โดยต่อสายตรง ไปทาง กองทัพบกเขมร คุยกัน แบบทหารคุย ขอกันดื้อๆ ให้ปล่อยตัววีระ

จากนั้น ต่อสายไปทางจีน ให้ช่วยเจรจากับ ฮุนเซน ที่เกรงใจจีนมาก ในอีกทางหนึ่ง โดยกลศึกนี้ ไม่ผ่าน กระทรวงต่างประเทศ ตามแบบแผนปกติ ทางการทูต ในตำราทั่วไป ที่กระทำกัน ถือเป็นพิชัยสงคราม ขั้นเทพมาก และปิดเป็นความลับ มาตลอด มีเพียงการส่ง ผู้ช่วยทูตทหาร ไปบอกวีระ ที่คุกเขมร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.57 สั้นๆ ว่า "ตอนนี้ คสช. กำลังหาทางช่วยอยู่ "

หลังการเจรจาลับ กับฮุนเซน บรรลุผลเรียบร้อย ฮุนเซ็น ก็ออก พรก. อภัยโทษวีระ รอไว้ จากนั้น บิ๊กสีเขียว ก็ส่งคณะ ปลัดกระทรวง การต่างประเทศ ไปเขมรทันที ทำให้ดูเนียนๆ เป็นทางการสักหน่อย ฉากการเข้าพบฮุนเซน แบบการเยือน ระหว่างประเทศ เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 ก.ค.57 โดยคณะจากไทย เปิดฉากเจรจา เรื่องแรงงานเขมร ฮุน เซ็น นั่งพยักหน้าหงึกๆ อยู่พัก เห็นว่าฝ่ายไทย ไม่เริ่มคุย เรื่องวีระเสียที จึงบอกว่า มาคุย ตรงประเด็นเลย มาขอปล่อยตัววีระ ใช่ไหม?

ฝ่ายไทย จึงเริ่มเปิดประเด็น เรื่องวีระ โดยนำหนังสือ ขอบคุณ ชมเชยเขมร ในมิตรไมตรี ของประเทศเพื่อนบ้าน ที่เข้าใจสถานการณ์ การเมืองในไทย ลงนามโดย บิ๊กสีเขียว คสช. มาให้ฮุนเซน ทำให้เขายิ้มแก้มปริ เขิน ที่ได้รับคำชมกัน เป็นทางการ หนังสือจากไทย เสียขณะนี้

ฮุนเซ็น จึงล้วงมือไปใน กระเป๋าเสื้อนอก หยิบกระดาษ 1 แผ่นเป็น พรก. อภัยโทษ ให้วีระ แล้วถาม ปลัดกระทรวง การต่างประเทศไทย ว่าจะรับตัวไป วันนี้หรือพรุ่งนี้ ฝ่ายไทย จึงบอกว่า ขอรับตัววันนี้เลย จากนั้น คำสั่งปล่อยตัววีระ ถูกส่งไปคุก เปรยซอว์ ของเขมร อย่างรวดเร็ว

สภาพในห้องขัง ในคุกเปรยซอว์ มีห้องน้ำ รวมอยู่ด้วย ที่นอน เป็นพื้นปูนยกสูง ปูเสื่อ ผ้าห่ม หมอน จึงมีทั้งจิ้งจก ตุ๊กแก หนู มด ยุง แมลงสาบ ตัวเลือด พญาธิไส้เดือน ตัวใหญ่ๆ ไต่มาจากห้องส้วม เวลานอน วีระต้องคอยปัด ตอนแรก เขาเกือบตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย เพราะไม่สบาย เป็นโรคปวดข้อ รูมาตอยด์ แต่ไม่สามารถ พบแพทย์ ไม่ได้กินยา หลายเดือน

สำหรับเขา เรือนจำยังไม่ให้อ่าน หรือเขียนหนังสือ ห้ามพูดคุย กับคนอื่น เป็นปีๆ เขาจึงคิดว่า คงอยากให้เขาตาย เลยเอามาทรมาน และบีบให้เขา รับเงื่อนไข การต่อรอง ดังนั้น เขาต้องสู้ และต้องรักษาชีวิต กลับเมืองไทยให้ได้ ต้องเอาชนะให้ได้ ต้องอดทน ทำให้เขา เข้มแข็งขึ้น

วันปล่อยตัว ผู้คุม มาเรียกตัววีระ ที่ห้องขัง ว่าจะปล่อยตัว ตอนนี้เลย สร้างความงุนงง ให้วีระ มาก และไม่คิดว่าจะจริง แต่พอเขา ถูกปล่อยตัว เดินออกมา เพื่อนนักโทษ ก็ส่งเสียงเชียร์ อวยพรเขา ให้กลับมา มีตำแหน่งสำคัญ ในไทย โดยมีคณะทูตไทย และภรรยา รอรับตัวเขา สู่อิสระภาพ นำตัวกลับเมืองไทย ในวันรุ่งขึ้นทันที

เมื่อมาถึงเมืองไทย เขาได้รับ การต้อนรับอบอุ่น เยี่ยง "วีรบุรุษ สมความคิด" ตามชื่อของเขา แต่ด้วยเขามีคดี ปิดสนามบิน ค้างเก่ามา สมัยพันธมิตร ตรวจคนเข้าเมือง จึงส่งมอบตัวเขา ให้กองปราบปราม ตามขั้นตอน กฎหมาย โดยมีทนาย นิติธร ยื่นหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ประกันตัว และตำรวจ ก็พิจารณา ให้ประกันตัวทันที

จากนั้น เขาจึงเดินทางไป สันติอโศก เพื่อกราบไหว้ ครูบาอาจารย์ ที่เคารพนับถือ ตามธรรมเนียมไทย และกลับบ้าน ไปหาแม่ ที่จากกันมานาน แล้วพบหน้า ครอบครัว อยู่กันพร้อมหน้า อย่างมีความสุข เขามีคิวนัดสัมภาษณ์ กับสื่อมวลชน จำนวนหลายแห่ง และคิวเข้าพบ ขอบคุณ บิ๊กสีเขียว คสช. ด้วยตัวเองด้วย

แต่คุณวีระ เขาใจเย็นพอ ที่ช่วงนี้ เขาจะไม่เปิดเผยว่า ในสมัยปูเน่า ส่งใครไปเจรจา ช่วยพี่ชาย คนแดนไกลถึง 3 ครั้ง และเงื่อนไขนั้น มีรายละเอียด อย่างไร เพราะเขาอ่าน กลศึก ของบิ๊ก คสช.ขาด ว่าการช่วยเขา กลับมาครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นพยานให้ ปปช. และศาล ในคดีเก่าๆ ที่เขายื่นร้องค้างไว้ ให้เดินหน้าได้ นั่นเอง

การเปิดเผย อะไรเสียหมด จะเสียการใหญ่ ภายหน้า โดยใช่เหตุ เขาคิดถูกแล้ว ที่ยังปิด จุดสำคัญนี้ไว้ เพราะมันจะเป็นหลักฐาน มัดคนไปเจรจา ให้ดิ้นไม่หลุด ตามกลยุทธ์ เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ แต่ทำอย่างมั่นคง ของพยัคฆสีเขียว

นักพิชัยสงครามที่ดี "การรบที่ดีที่สุด คือ การไม่รบ" ดังนั้น กลุ่มคนที่ กำลังยุยง ให้คุณวีระรบ เปิดเผย ความลับปริศนา การเจรจาดำมืด กับแก็งค์แบล็คเมล์ ในครั้งนั้น คือกำลังยุ ให้คุณวีระ ทำเสียของ ซึ่งคิดว่า คุณวีระ เขาจะใจนิ่งพอ และรู้ว่า เวลาข้างหน้า ช่วงใด จึงจะเปิดเผยได้

น่าคิด ที่คนแดนไกล ถูกศาลไทย พิพากษาจำคุก เพียง 2 ปี แต่เขาหนีไปแล้ว ถึง 6 ปี เวลาหนีเขามากกว่า จำคุกเสียอีก และเขาจ้องทำลาย ชาติตนเอง ตลอดมา แม้เขา ยังไม่ติดคุกจริงๆ แต่มันคือ "คุกเวรกรรม" ที่ส่งผลให้เขา ก็ไม่มีโอกาสกลับมา อย่างเท่ห์ๆ มา เหยียบแผ่นดิน สุวรรณภูมิแห่งนี้ และสูดอากาศ ที่บริสุทธิ์ ในไทยอีก จนถึงบัดนี้

แม้ตอนนี้ เขาพยายามต่อสาย ให้เพื่อนนักธุรกิจที่จีน ช่วยพาเขาเข้าพบ ผู้นำของจีน เพื่อล็อบบี้ ให้อย่าช่วยเหลือ คสช. โดยม ีข้อแลกเปลี่ยน คือ ถ้าเลือกตั้ง ในอีกปีกว่า แล้วเผาไทย ทุ่มซื้อเสียง จนชนะเลือกตั้ง ได้เป็นรัฐบาลอีก เขาจะช่วยให้จีน ได้งานก่อสร้าง ทำระบบโครงสร้าง พื้นฐานในไทย

เฮ้อ.. ช่างไม่ประมาณตัว เสียเลย ผู้นำจีนท่านนี้ เขาตงฉินนัก เรื่องทุจริตนี่ เขาถือเป็น นโยบาย ชาติเขาทีเดียว ขืนทะลึ่ง โผล่ไปปักกิ่ง เจอจับตัวส่งกลับ มารับโทษ ในไทยแน่ ขนาดรองผู้นำ ระดับสูงสุด ของเขา เพิ่งถูกจับได้ว่า ทุจริตไปราว 52,000 ล้านบาท และแก่มากแล้ว แถมเป็นมะเร็งอีก รัฐบาลจีน ยังฟันเลย ปลดหมดทุกตำแหน่ง และจำคุก ลูกหลาน ญาติพี่น้อง เข้าปิ้งหมด คดีนี้ ทำเอาคนจีน ทั้งประเทศ ช็อคมาแล้ว

คนแดนไกล จึงมีแผน จะกลับไปอยู่ เกาะมาเฟีย มอนเตรเนโกร เพราะไปประเทศอื่น เขากลัว การถูกลอบสังหาร และ กลัวประเทศนั้นๆ จะจับเขา เป็นผู้ต้องหา ส่งกลับไทย ในฐานะ ผู้ร้ายข้ามแดน ขนาดนั่งอยู่ตามภาพ ยังเปิดแผนที่โลก ครุ่นคิดว่า จะไปหลบ อยู่ซอกไหนของโลก จะปลอดภัย เพราะแผ่นดิน บนโลกใบนี้ แคบลงทุกวัน สำหรับเขา

และใช่ว่า การกลับไป มอนเตรเนโกร จะปลอดภัยกับเขา 100% เพราะเขายังมีโจทย์ เรื่องที่เขาก่อไว้ เมื่อครั้ง มอนเตรเนโก ยึดตู้คอนเทนเนอร์ สมบัติฮุนเซน แล้วเขาโทร ไปเคลียร์ อีท่าไหนไม่รู้ รัฐบาลมาเฟีย ยึดตู้นี้ ไปหมดเลย แถมส่งทหาร มาคุมเชิง บ้านพักเขาอีก ครั้นจะไปที่ดูไบ ทางการที่นั่น ก็เกรงอัลกออีดะห์ ที่ขู่ไว้ว่า จะถล่มเขา แก้แค้นอีก

การข่าวยังพบว่า เขาติดต่อโดยตรง มายังอดีต รมต.เผาไทย ให้บอก ส.ส.สมุนว่า อย่าปลดเชือก ที่ร้อยจมูกไว้ แล้วแหกคอก ไปอยู่ที่อื่น โดยเขาหลอกว่า ไปดูหมอดูพม่า มาแล้ว ว่า คสช. จะอยู่ได้ 5 เดือน ...เฮ่ย..โดนหมอดูพม่า บอกไม่หมด หลอกแดกต่ออีก ชั้นหนึ่งแล้ว เพราะ 5 เดือนนี่นับ คือ นับจากวันรัฐประหาร แล้วตั้งรัฐบาลใหม่ เดือน ต.ค.57 โน่นไง !!

เฮ้อ.. ถ้าส่งตัวกลับมาไทย ลูกน้องที่เป็น อธิบดีกรมคุก ก็เพิ่งถูกเด้ง ไปเป็นผู้ตรวจฯ คนแดนไกล คงไม่เหมาะไปอยู่คุก น่าจะถูก ส่งตัวไปที่ โรงพยาบาล ศรีธัญญา มากกว่า.. เพราะเกิน จะเยียวยาจริงๆ

แต่ในทางกลับกัน วีระ ที่ เป็นคนจิตใจดี เสียสละเพื่อชาติ แม้ศาลเขมร จะพิพากษา จำคุกเขา 8 ปี แต่เขาติดคุกจริง 3 ปี 6 เดือน 3 วัน เขาก็ได้กลับ ได้มาเหยียบ แผ่นดินเกิด และการมา ก็แบบเท่ห์ๆ แบบฮีโร่ เสียด้วย ช่างต่างกัน ฟ้ากับเหว ในผลกรรม ที่ได้รับ ระหว่าง คนทำไม่ดีต่อชาติ กับอีกคน ที่ทำดีต่อชาติ

มาดูตัวอย่างอีกคน นายไม่ฉลาด เสื้อแดง ที่อดอาหาร ประท้วงที่ คสช. มาช่วยวิกฤติชาติ ขจัดนักการเมืองโกง ออกไป แล้ว คืนความสุข ประชาชน เขาอดข้าว แต่กินน้ำผึ้ง ทุกวัน ขนาดที่นั่งอยู่ ยังมีขวดน้ำผึ้ง วางไว้ใกล้ตัว ตลอดเวลา จนเบาหวานถามหา ร่างกาย อ่อนเพลีย อวัยวะภายในตับ ไต เสื่อมสภาพหมด อาการทรุดหนัก

หมอที่ไปตรวจเขา ตอนนี้ คือ หมอเหวง... ป๊าดดิโถ !! เคยแต่ก่อม็อบ พูดโกหก ตลอดเวลา จนหมดสิ้น จรรยาบรรณ วิชาชีพแพทย์ ไปตั้งนานแล้ว มาตรวจได้หรือเนี่ย ทำท่าเอาหูฟัง ไปแปะๆ ตามตัวนายไม่ฉลาด เสียงที่ได้ยินคือ ตูมๆๆ เปรี้ยงๆๆ ซะละมั้ง !! ..เคลียร์กับ นกแสก เรื่องไปมีเมียน้อย แล้วหรือเนี่ย ถึงออกมาได้

นายไม่ฉลาดนี่ ตอนนี้อาการไม่ดีนัก โอกาสเดินทาง ไปประท้วงยมบาล แบบเท่ห์ๆ มีสูงมาก เพราะร่างกายมนุษย์ ไม่ได้ออกแบบ มาให้กินของหวาน ได้นานขนาดนั้น จำเป็นต้อง ได้อาหารอื่นบ้าง เช่น มาม่า กินตอนตี 2-3 ปลอดคน เหมือนที่ นายไม่ฉลาด เคยทำทุกครั้ง

ส่วนอีกคน ก็เป็ดเหลิม ล่าสุด เขาไปงานศพอดีต ส.ส.แดง พีระพันธ์ ที่จู่ๆ ก็หัวใจวาย ตายฉับพลัน เมื่อปูเน่าไปเยี่ยม เป็ดเหลิมก็ดูสภาพ ไม่สู้ดี ตาเหม่อลอย มองไปบนท้องฟ้า ตลอดเวลา ไม่อยากจะพูดจา กับใคร ใบหน้าคล้ำหมอง

ไม่ยอม ให้สัมภาษณ์นักข่าว เหมือนเคย ว่าวันนี้ M79 จะลงที่ไหน เพราะเขาเคย จะรู้ล่วงหน้า ทุกครั้ง ก่อนที่ M79 จะลง และเขาก็ไม่เปิด การแถลงข่าว เหมือนเคย ว่าง่ามหนังสติ๊ก อาวุธสงคราม ชนิดเก็บเสียง วิถีโค้งพิสัยใกล้ ที่เขาเคยจับได้จาก กปปส. จำนวน 10 อัน และตั้งโต๊ะ แถลงข่าวใหญ่ จนครึกโครม ไปทั่วโลก

จนบัดนี้ เขาก็ยังไม่ยอม เปิดเผยว่า ง่ามหนังสติ๊กนั้น มันเติบโตขึ้น จนพัฒนา กลายเป็น ขีปนาวุธสกั๊ด หรือ โทมาฮอร์ค ที่ร้ายแรง หรือยัง เพื่อที่นักวิทยาศาสตร์ไทย จะได้นำไป เป็นต้นแบบ ผลิตอาวุธสงคราม มาสู้กับมหาอำนาจได้ อันจะเป็นการปฏิวัติ วงการอาวุธ ร้ายแรง ที่อเมริกา ต้องวิ่งแจ้นมาขอ ลิขสิทธิ์จากไทย นำไปผลิต อาวุธลับ ให้กลุ่มติดอาวุธ ไอซิล ใช้โจมตี รัฐบาลอิรัก อยู่ตอนนี้

ในยุคยึดอำนาจนี้ จะเห็นข้อเปรียบเทียบ ได้ชัดเจน ว่าคนดี จะมีที่ยืนในสังคม อย่างสง่าผ่าเผย และภาคภูมิใจ ส่วนนักแสวงโชค ทางการเมืองตัวเอ้ ที่อ้าง ประชาธิปไตย ลวงโลก 18 มงกุฎ กลับมีชะตากรรม ที่แทบจะไม่มีแม้แต่ แผ่นดินจะยืนอยู่ บนโลกกว้าง ใบนี้ !!

แต่เขายังมีทางเลือก ตามภาพบริเวณสีฟ้า ที่จ้องมองอยู่ พื้นที่เหลืออยู่ แห่งนั้น คือ มหาสมุทร เพราะมีพื้นที่ถึง 3 ใน 4 ของโลกนั่นเอง ...แต่ปัญหา ที่ทำให้เขา ต้องกุมขมับ คือ มันดันเป็นน้ำเค็ม ของทะเล !!

แต่ปลักทุย ต้องเป็นน้ำจืด.. ทำอย่างไร จะหลอกให้พวก มีจมูกสนตะพาย ห้อยกระดึง กรุ๋งกริ๋ง เดินมาลงทะเล เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ ทั้งชีวิต จมดิ่งไปกับเขา โดยไม่รู้ตัว !!

@ เสธ น้ำเงิน1
https://www.facebook.com/topsecretthai