แฉ..ความลับ @ เสธ น้ำเงิน4 / 13 กค57
https://www.facebook.com/topsecretthai

วันที่ 13 ก.ค.57
เปิดโปง..รู้ทันมะกัน อสูรกายแห่งแทรกแซง เหตุชายแดนใต้
(ตอน 1)

มีหลายคน สงสัยไหมว่า สถานการณ์ ความรุนแรงใน 3 จังหวัด ชายแดนใต้ของไทย ทำไมไม่ยุติ และมีเหตุรุนแรง อยู่เนืองๆ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ช่วง รัฐบาลนั้นๆ และมีต่างชาติ เข้ามาสนับสนุน เงินทุน อาวุธ และการฝึกฝน กลุ่มก่อการร้าย ชายแดนใต้ ของไทยหรือไม่ และต่อไป สถานการณ์ จะเป็นอย่างไร

เนื้อหา 2 ตอนนี้ จะช่วยไขปริศนา ฉีกหน้า ชาติที่ใช้ความแตกต่าง ทางการนับถือศาสนา วัฒนธรรม มาสร้างเงื่อนไข ความขัดแย้ง ทางการเมือง ที่ต่อเนื่อง มาจากครั้งก่อน ในเรื่องการช่วงชิง แหล่งน้ำมันใน 3 จังหวัด ชายแดนใต้ของไทย

** ดุเรื่องเดิม..สงครามชิงน้ำมันบล็อกที่ 3 ชายแดนภาคใต้ ของไทยที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.220118778178157.1073741940.187529244770444&type=3

จากสถานการณ์การต่อสู้ ในประเทศอิรัก นับตั้งแต่ ต้นเดือน มิถุนายน 57 ที่ผ่านมา นอกจาก ภาพของ ความรุนแรงแล้ว ยังแฝง ความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และคำถาม ที่ชวนสงสัย อีกมากมาย หลายคน สงสัยว่า อะไรเป็นสาเหตุ ที่มาที่ไป ความขัดแย้ง ระหว่าง ฝ่ายมุสลิมสุนนี่ - กับชีอะห์ เหตุใด กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม แห่งอิรัก และซีเรีย (หรือ ISIS ในช่วงแรก) ถึงได้มีศักยภาพ บดขยี้ กองทัพอิรัก ได้ขนาดนี้ และอนาคต ของอิรัก และภูมิภาคนี้ จะเป็นอย่างไร

ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ของกลุ่มติดอาวุธ ISIS ช่วงแรกๆ ตกตะลึง ถึงศักยภาพ ในการรุกคืบ แบบรุกฆาต ยึดครองเมือง สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะ ในภาคเหนือ และอีกหลายเมือง ทางตะวันตก ที่มีพรมแดน ติดกับซีเรีย รวมถึง เมืองสำคัญๆอย่าง โมซุล เมืองใหญ่ เป็นอันดับ 2 ของอิรัก , เมืองฟาลลูจาห์ ที่ใหญ่อันดับ 7 , เมืองไทกริต บ้านเกิดของซัดดัม ฮุสเซ็น , เมืองตัล อาฟาร์ ฯลฯ อีกทั้งยังสามารถ ยึดโรงกลั่นน้ำมัน ขนาดใหญ่ ของประเทศไว้ได้

โดยมีเป้าหมายใหญ่ คือการยึดกรุงแบกแดด ของอิรัก และกองกำลังติดอาวุธนี้ ได้ประชิดแบกแดด แต่ก็ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ ยึดเมืองได้ ยึดเมืองคืน จากกองกำลัง ของอิรัก แต่ก็มีทหารอิรัก จำนวนไม่น้อย แปรพักตร์ไปอยู่ ฝ่ายตรงข้าม อาวุธยุทโธปกรณ์ ของอิรัก จำนวนมาก ถูกกลุ่ม ISIS ยึด จนรัฐบาลอิรัก ต้องดึงความช่วยเหลือ จากมิตรประเทศ และไม่ใช่มิตร ทั้งหลาย

แม้แต่อิหร่าน นิกายชีอะห์ ประเทศคู่แค้น ที่รบกันมาหลายปี ก็ให้ความช่วยเหลือ รัฐบาลอิรัก โดยส่งกองกำลัง ติดอาวุธ มาตรึงกำลัง แนวชายแดน แต่รุกเข้ามา ในเขตแดนอิรัก เพื่อป้องกัน กลุ่มติดอาวุธ นิกายสุนนี่ แต่ที่ชัดเจน คือซีเรีย ที่ส่งเครื่องบินรบ เข้าไปช่วยโจมตี กลุ่มติดอาวุธ ในเมือง อันบาร์มาแล้ว

ที่มา กลุ่มรัฐอิสลาม แห่งอิรักและซีเรีย หรือ Islamic State of Iraq and Syria (ISIS) มีชื่อเรียก ที่หลากหลาย เช่น กลุ่มรัฐอิสลาม แห่งอิรัก และเลแวนท์ (ISIL) , รัฐอิสลาม แห่งอิรัก และซีเรีย , รัฐอิสลาม แห่งอิรัก และอัล-ชาม , รัฐอิสลาม แห่งอิรัก และตะวันออก เปลี่ยนชื่อไปมา หลายครั้ง จนล่าสุด ใช้ชื่อว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS)

โดยมีเป้าหมายคือ ตั้งรัฐอิสลาม ที่ปกครองด้วย กฎหมายอิสลาม ในอิรัก ซีเรีย และดินแดน ที่เรียกว่า เลแวนท์ ซึ่งครอบคลุมถึง เลบานอน อิสราเอล ปาเลสไตน์ จอร์แดน ไซปรัส และทางใต้ของ ตุรกี.. โอ้.. คิดการใหญ่มาก

ปี ค.ศ. 2004 กลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า องค์กรศรัทธา เอกานุภาพ และการญิฮาด ภายใต้การนำของ อาบู มูซาบ อัล ซาร์กาวี ชาวอาหรับ เชื้อสาย จอร์แดน ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการต่อต้าน การยึดครองอิรัก ของสหรัฐฯ เขาเคยเข้าร่วมกับ กลุ่มอันซาร์ อัล อิสลาม หรือ กลุ่มสหายร่วมรบ แห่งอิสลาม ซึ่งเป็นขบวนการ แบ่งแยกดินแดน ของชาวเคิร์ด ในอิรัก

ได้เข้าร่วม เป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่มอัลกออิดะห์ เปลี่ยนชื่อเป็น องค์กรญิฮาด ในประเทศแห่ง สองแม่น้ำ และกลายมาเป็น ที่รู้จักกันในชื่อ อัลเคด้าห์ ในอิรัก แม้ว่าทางกลุ่ม จะไม่เรียกกลุ่มตัวเอง แบบนี้ก็ตาม แต่ก็เป็นที่รู้กัน ทางพฤตินัย

ปี ค.ศ. 2006 กลุ่มนี้ได้เข้าร่วมกับ กลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในอิรัก ภายใต้ร่มใหญ่ ขององค์กร ที่ใช้ชื่อ ร่วมกันว่า “สภาที่ปรึกษา มูญาฮิดีน” ในช่วงนี้เอง เป็นช่วงที่ กลุ่มของ ซาร์กาวี มีการเคลื่อนไหว ต่อสู้อย่างหนัก โดยพุ่งเป้าโจมตี ไม่เฉพาะรัฐบาลอิรัก แต่รวมไปถึง กลุ่มชีอะห์ ที่สนับสนุน รัฐบาลอิรักด้วย ทำให้บิน ลาเดน และ อัยมาน อัล ซาวาฮีรี ไม่เห็นด้วยกับ แนวทางของ ซาร์กาวี ที่จะเปิดศึก ระหว่าง สุนนี่-ชีอะห์ โดยขอให้ยุติเสีย แต่ซาร์กาวี ก็ไม่สนใจ

ต่อมาอเมริกา โจมตีทางอากาศ ส่งผลให้ นายซาร์กาวี เสียชีวิต ต่อมามี นายอาบู อัยยูบ อัล มัสรี ผู้เชี่ยวชาญ ด้านระเบิด ชาวอียิปต์ ขึ้นมาเป็น ผู้นำกลุ่ม มัสรี และสามารถดึง กลุ่มติดอาวุธ อีกหลายกลุ่ม เข้าร่วม จนกระทั่ง ได้ประกาศ การรวมตัวกัน ภายใต้ชื่อใหม่ว่า กลุ่มรัฐอิสลาม แห่งอิรัก (กลุ่ม ISI) ต่อสู้ในอิรัก มาต่อเนื่อง

ปี ค.ศ. 2010 อเมริกา ปฏิบัติการทางทหาร สังหารนาย มัสรี ตาย จากนั้นนาย อบูบักร อัล บักดาดี ได้ขึ้นมา เป็นผู้นำ รุ่นที่ 3 จนถึงปัจจุบัน

ปี ค.ศ. 2013 กลุ่ม ISI ภายใต้การนำของ บักดาดี ได้ขยายแนวรบ เข้าไปใน ประเทศซีเรีย ร่วมกับ ฝ่ายกองกำลัง ฝ่ายต่อต้านอื่นๆ ในซีเรีย โดยหวัง โค่นอำนาจ ประธานาธิบดี อัสซาด ด้วยเป้าหมาย เชิงพื้นที่ ที่กว้างขึ้น ทำให้มีการ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ISIS และได้ตัดขาด ความสัมพันธ ์กับกลุ่ม อัลกออิดะห์ เพราะขัดแย้งกับกลุ่ม อัล นุสรา ฟรอนท์ ในซีเรีย ที่ครั้งหนึ่ง เคยร่วมกันต่อสู้กับ อัสซาด

เพราะนายบักดาดี ประกาศเอาดื้อๆ ว่ากลุ่มอัลนุสรา ได้รวมเข้ากับ ISIS แล้ว แต่ผู้นำกลุ่มอัล นุสรา ฟรอนท์ กลับปฏิเสธ และไม่พอใจ บักดาดีมาก แม้จะมีสมาชิก บางส่วน เข้าร่วมกับ ISIS ก็ตาม ในขณะที่ หัวหน้ากลุ่ม อัล นุสรา ฟรอนท์ พยายามขอให้บักดาดี หยุดความพยายาม ที่จะรวมนุสรา เข้ากับ ISIS แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงประกาศ ตัดสัมพันธ์กับ ISIS และบักดาดี

จนมาถึงปฏิบัติการ สายฟ้าแลบ มีรายงานที่ค่อนข้าง ยืนยันแล้วว่า กลุ่มอัลนุสราในซีเรีย และ อัลกออิดะห์ ได้กลับมาจับมือกับ กลุ่ม ISIS แล้ว และ กลายเป็นกลุ่ม IS ที่ประกาศ เขตปกครองตนเอง โดยกินดินแดน ทั้งอิรัก และ ซีเรีย ใช้กฎหมายอิสลาม

ดูการแทรกแซง อเมริกาในอิรัก ในแคว้นเคิร์ด ที่เป็นดินแดนติดต่อ ระหว่าง อิรัก กับ ตุรกี ได้เกิดเหตุลุกลาม ระหว่าง รัฐบาลกลางอิรัก นิกายชีอะห์ และ แคว้นปกครองตนเอง ชาวเคิร์ดนี้ กระพือขึ้นจาก เหตุความไม่สงบ จากฝีมือ พวกกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (IS) สุหนี่ ที่กำลังทำให้เกิด รอยแตกแยก ทางนิกาย และเชื้อชาติ ของอิรักอย่างหนัก

กระทรวงพลังงานอิรัก ระบุว่า กองกำลังเคิร์ด ได้เข้าควบคุม ศูนย์การผลิตพลังงานใน ไบฮัสซัน และ บ่อน้ำมัน เคอร์คุก ใกล้กับเมือง เคอร์คุก แล้วราว 1 เดือนก่อน ตามคำสั่ง ของอเมริกา หลังจากอิรัก ถอนทหารออกมา เพราะเจอสงคราม 2 ด้าน คือต้องหันไปรบกับ ปฏิบัติการจู่โจม สายฟ้าแลบ ของพวก กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (IS) สุหนี่ ของอเมริกา ที่สามารถยึดพื้นที่ อันกว้างใหญ่ไพศาล ทางเหนือ และตะวันตก ของอิรักไว้

บ่อน้ำมัน ทั้งสองแห่ง ของอิรัก มีความสามารถ ในการผลิตน้ำมัน รวมกัน มากมายถึง 450,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ก็ไม่ได้ เดินเครื่องผลิต แบบเต็มพิกัด มานานแล้ว นับตั้งแต่เดือน มีนาคม 57 หลังจาก ท่อลำเลียง เพื่อการส่งออก เคอร์คุก – เชย์ฮาน ของอิรัก ถูกลอบก่อวินาศกรรม จนเสียหาย แต่รัฐบาลอิรัก ดำเนินการ เพื่อปกป้อง สาธารณูปโภค ด้านพลังงาน และกำลังเดินหน้า เพิ่มกำลังผลิต ในบ่อต่างๆ และเพิ่มการลงทุน ในการผลิต น้ำมันเบนซิน ระดับท้องถิ่น

ส่วนกองกำลัง แคว้นเคิร์ด อ้างว่า พวกเขามีความจำเป็น ต้องเคลื่อนกำลังเข้าไป เพื่อคุ้มครอง บ่อน้ำมัน ไบฮัสซัน และพื้นที่มัคช์มัวร์ อันเป็นที่ตั้งของ บ่อน้ำมันยักษ์ เคอร์คุก เพราะทราบมาว่า กระทรวง พลังงานอิรัก มีแผนปั่นป่วน ท่อลำเลียงหนึ่ง ที่ออกแบบมา เพื่อสูบน้ำมันจาก มัคช์มัวร์ และ เลิกให้ความร่วมมือ กับแคว้นเคิร์ด รื้อทำลาย และตัดขาด การสูบน้ำมัน ของท่อลำเลียงใหม่

โดยไบฮัสซัน และมัคช์มัวร์ เป็นส่วนหนึ่งของ บ่อน้ำมันเคอร์คุก ซึ่งอยู่ภายใต้ การควบคุมของ บริษัทน้ำมัน แห่งรัฐ นอร์ทออย คอมปานี (NOC) แสดงชัดเจนว่า อเมริกา มุ่งส่งกองกำลัง ติดอาวุธ ของตนเอง 2 กลุ่ม คือ กองกำลังเคิร์ด และ กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (IS) เข้าควบคุม แหล่งน้ำมัน ในอิรัก เพื่อให้อเมริกา ได้แหล่งพลังงาน ขนาดใหญ่มา นั่นเอง

ความพยายามจัดตั้ง รัฐบาลใหม่ในอิรัก เพื่อรับมือกับ การก่อกบฏ ของพวกนักรบ กลุ่มต่างๆ ต้องเจอ เหตุแทรกซ้อน จากความตึงเครียด ระหว่าง นายกอิรัก กับเหล่าผู้นำเคิร์ด ภายใต้ข้อตกลง ทางพฤตินัย ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีอิรัก จะเป็นของชาวชีอะห์ ขณะที่ตำแหน่ง ประธานสภา เป็นของชาวสุหนี่ และประธานาธิบดี เป็นของเคิร์ด.. แสบสุดๆ อเมริกา

แต่หลังการประชุมสภา นัดแรกไปแล้ว หลังเสร็จ การเลือกตั้ง กลับมีแต่ ความยุ่งเหยิง เพราะเหล่า สมาชิกรัฐสภา ต่างขาด ความสามัคคี คอยขัดคอ และข่มขู่กัน ท้ายที่สุดแล้ว บางส่วนก็ วอล์คเอาต์ จนต้องเลื่อนประชุม และการประชุมสภา รอบใหม่ ก็เลื่อนออกไป ไม่มีกำหนด

เมื่อสัปดาห์ก่อน นายมัสซุด บาร์ซอนี ประธานแคว้นเคิร์ด บอกกับรัฐสภาว่า ตรียมจัดประชามติ แยกตัวเป็นเอกราช จากอิรัก รวมถึงมีสิทธิ ในการปกครองตนเอง จากอิรัก เติมเชื้อความโกรธ แก่นายกอิรัก มากขึ้น

ความสัมพันธ์ ระหว่างสองฝ่าย ก็เข้าสู่ขั้นเลวร้ายสุด รอบใหม่ เพราะนายกอิรัก ระบุว่า แคว้นเคิร์ด ปล่อยให้พวกนักรบ รัฐอิสลาม และกลุ่มอื่นๆ ใช้เมืองเอกของพวกเขา เป็นฐานทัพ ทำให้ กลุ่มนักการเมือง ชาวเคิร์ด ออกมาตอบโต้ ประกาศว่า จะระงับการเข้าร่วม ในรัฐบาลผสมอิรัก

ส่งผลให้รัฐบาลอิรัก ได้จัดการฝึกอบรม การใช้อาวุธ ให้กับผู้หญิง ในเมืองบัดร์ บริเกด ซึ่งเป็นแหล่ง ที่ตั้งของ กองทัพชีอะห์ กว่าหมื่นคน เป็นเวลา 5 วัน โดยในขณะนี้ มีผู้หญิงกว่า 450 คน เข้ารับการฝึก มีจุดประสงค์ เพื่อเตรียมความพร้อม ในการปกป้องชุมชน หากว่ากลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (IS) ที่หนุนหลัง โดยอเมริกา เข้ามาโจมตี

นายกรัฐมนตรี ประจำเมืองบัดร์ บริเกด ระบุว่า มีผู้หญิง อีกหลายหมื่นคน รอที่จะเข้าร่วม รับการฝึก ใช้อาวุธอยู่ โดยการฝึกดังกล่าว ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ส่งผู้หญิง เข้าไปร่วมรบ ในแนวหน้า เคียงบ่า เคียงไหล่ กับกองทัพ รัฐบาลอิรัก แต่เป็นไปเพื่อ "เตรียมความพร้อม เพื่อช่วยขับไล่ศัตรู และปกป้อง บ้านเกิดเมืองนอน ของตัวเอง"

รัฐบาลได้เห็นถึง ความจำเป็น ที่ต้องให้ผู้หญิง รู้จักใช้อาวุธให้เป็น เนื่องจาก ผู้ชายในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ได้อาสา ไปร่วมรบต่อสู้กับ กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (IS) ของอเมริกา ทำให้เหลือแต่เพียง ผู้หญิงและเด็ก ที่ขาดความชำนาญ ในการรบ

ล่าสุดกองกำลัง ความมั่นคงอิรัก และกลุ่มติดอาวุธ มุสลิมชีอะห์ ที่เข้าข้างรัฐบาล ได้สังหาร นักโทษมุสลิม นิกายสุหนี่ ไปอย่างน้อย 255 ราย ระหว่างหลบหนี การรุกคืบของ กลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (IS) ซึ่งบุกยึดพื้นที่ ตอนเหนือ ของอิรัก เพราะกลุ่มนี้ ประกาศจัดตั้ง รัฐซ้อนรัฐ เป็นรัฐอิสลามขึ้น ในพื้นที่ตอนเหนือ ของอิรัก จดพรมแดนซีเรีย

ส่งผลให้ ฮิวแมนไรต์วอตช์ ที่อยู่เบื้องหลัง โดยอเมริกา ซึ่งมีฐานที่นครนิวยอร์ก ดิ้นๆๆ แถลงว่า “กองกำลัง ความมั่นคงอิรัก และกลุ่มติดอาวุธ ฝ่ายรัฐบาล ประหารชีวิตนักโทษ อย่างน้อยไป 255 ราย อย่างไม่เป็นธรรม ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน เป็นต้นมา มีการจับนักโทษ หลายสิบคน มาจุดไฟเผา ทั้งเป็น และอีก 2 กรณี พวกเขาใช้วิธี โยนระเบิดมือ เข้าไปในห้องขัง”

ฮิวแมนไรต์วอตช์ ของอเมริกา อ้างหลอกชาวโลกต่อว่า “การสังหารหมู่ โดยไม่คำนึงถึง กฎหมาย บ้านเมือง เช่นนี้ อาจเข้าข่าย อาชญากรรมสงคราม หรือ อาชญากรรม ต่อมนุษยชาติ การยิงนักโทษทิ้ง ถือเป็น พฤติกรรมป่าเถื่อน ที่ละเมิดกฎหมาย ระหว่างประเทศ อย่างชัดเจน”

ขณะที่ทั่วโลก รุมประณาม การกระทำ อันโหดร้าย ของกลุ่มติดอาวุธ IS ของอเมริกา เพราะเคย จับทหาร รัฐบาลอิรัก ได้ราว 200 คน แล้ว บังคับ นอนกับพื้น และกราดยิง สังหารหมู่ เอาดื้อๆ แต่..ฮิวแมนไรต์วอตช์ ของอเมริกา กลับแกล้งมึน และเพิกเฉย แต่กลับเห็นด้วย หนุนกลุ่มติดอาวุธนี้ ให้โจมตี ประชาชน เด็ก ผู้หญิง ของประเทศอื่น ว่าเป็นสิ่งที่ ทำไปเพื่อ มนุษยธรรม ว่างั้นเถอะ !!

อยากให้คนไทยเข้าใจว่า ฮิวแมนไรต์วอตช์ คือ กลุ่มปฏิบัติการกลุ่มหนึ่ง ที่รับทุน จากอเมริกา และ ดำเนินนโยบาย ที่สอดคล้องกับ รัฐบาลมะกัน เท่านั้น ดังนั้น การที่กลุ่มนี้ ออกรายงาน อะไรในไทย เช่น การค้ามนุษย์ การปกป้อง พิราบกระป๋อง.. ก็คือ เครื่องจักร ในการแทรกแซง ในประเทศต่างๆ เท่านั้นเอง.. ไม่มีความน่าเชื่อถือใดๆ ทั้งสิ้น !!

ดูการแทรกแซงอเมริกา ในมิตรประเทศ จอร์แดนบ้าง เพราะตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา มากกว่า 1 ปี สำนักงาน ข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ใช้แผ่นดิน จอร์แดน เป็นสถานที่ ฝึกการสู้รบ ให้กับฝ่าย กบฏซีเรีย ตามที่เคยบอก ตอนก่อนว่า โอบามา ประกาศ ทุ่มงบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อติดอาวุธ และฝึกการสู้รบ ให้ฝ่ายกบฏซีเรีย สาย กล๊าง กลาง.. โดยใช้ดินแดนของ จอร์แดน เป็นสถานที่ รองรับการฝึก ฝ่ายกบฏซีเรีย

แต่ประหลาดมาก เมื่อรัฐบาลโอบามา ไม่เคยร้องขอต่อ รัฐบาลจอร์แดน อย่างเป็นทางการ เพื่อขอใช้ แผ่นดิน จอร์แดน เป็นสถานที่รองรับ การฝึกนักรบ ฝ่ายกบฏซีเรีย ขณะที่รัฐบาลจอร์แดน ซึ่งจำใจ ยอมร่วมมือกับ โอบามา ได้แสดงจุดยืน ที่ชัดเจน หลายครั้งว่า ไม่ต้องการ ให้ความรุนแรง จากสงครามในซีเรีย ไหลล้นเข้าสู่ ดินแดนของตน

เพราะหวั่นเกรง การตอบโต้ ที่คาดไม่ถึง จากซีเรีย ซึ่งจะกลายเป็นปัญหา ซ้ำเติมจอร์แดน ที่ต้องรองรับ คลื่นผู้อพยพ จากซีเรีย จำนวนมากกว่า 600,000 คน ขณะนี้รัฐบาล บารัค โอบามา ยังคง “มืดแปดด้าน” และไม่สามารถ ตัดสินใจได้ว่า จะใช้ประเทศใด เป็นฐานรองรับ การฝึกนักรบ ฝ่ายกบฏซีเรีย แทนที่จอร์แดน โดยสหรัฐฯ อาจขอความร่วมมือจาก ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี รวมถึง รัฐเศรษฐีอาหรับ แถบอ่าวเปอร์เซีย เพื่อขอเอา กองกำลังติดอาวุธ ของตน เข้าไปฝึกอาวุธ ในดินแดน ประเทศเหล่านั้น

แผนงบประมาณ กว่า 15,000 ล้านบาท ของโอบามา ต่อสภาคองเกรสส์ ดังกล่าว คงต้องถูกชะลอ ออกไปอีก หลายเดือนจากนี้ ส่งผลให้โอบามา ต้องเลี่ยงไปใช้ กลยุทธ์หัวหมอ โดยวิธีการนำ “งบประมาณฉุกเฉิน” ของกระทรวง กลาโหมสหรัฐฯ หรือ “เพนตากอน” ไปใช้ในภารกิจนี้ก่อน เพื่อจะได้ ไม่ต้องขอ สภาคองเกรสส์... เออ เอากะมันดิ

ดูการแทรกแซงอเมริกา ในซีเรีย เมื่อแนวร่วมแห่งชาติ ซีเรีย (SNC) ซึ่งเป็นการ รวมกลุ่มกัน อย่างหลวมๆ ของกบฏซีเรีย ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด และมีอเมริกา และชาติตะวันตก คอยหนุนหลัง ได้เลือก ฮาดี อัล-บาห์รา หัวหน้าคณะผู้แทน เจรจาสันติภาพ เจนีวา เป็นประธาน คนใหม่แล้ว

ประธานแนวร่วม SNC ซึ่งสำเร็จการศึกษา ด้านวิศวกรรม อุตสาหการ จากสถาบัน ในสหรัฐฯ เขามีสายสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับซาอุฯ และอาศัยอยู่ ในอาณาจักร เศรษฐีน้ำมัน แห่งซีเรีย ขณะที่สหรัฐฯ และ ชาติมหาอำนาจ อื่นๆ แต่งตั้งให้แนวร่วม SNC เป็นองค์กรหลัก ที่เป็นตัวแทน กบฏซีเรีย

แต่กบฏกลุ่มนี้ ก็แทบจะไม่มีอำนาจ ในซีเรีย เพราะกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ การควบคุม ของแนวร่วม SNC ต่างเป็น ผู้แผ่อิทธิพลอิสระ ครอบงำหลายพื้นที่เอง นอกจากนี้ การต่อสู้ แย่งชิง อำนาจกัน ภายในกลุ่ม แนวร่วม SNC เอง ยังบ่อนทำลาย ความพยายามของ กบฏกลุ่มนี้ ในการต่อกรกับ กองกำลัง ที่ภักดีต่อ ประธานาธิบดีซีเรีย เพราะที่เป็นกลุ่มอิสลาม แนวทาง แข็งกร้าว ยิ่งกว่า และมีนักรบ ติดอาวุธ จากต่างชาติ เข้าร่วม เป็นสมาชิก

ไอ้มาม่า เจือก ไปทั่ว แทรกแซง กิจการภายใน ประเทศอื่น ถึงขั้นบ้าอำนาจ แต่งตั้งแนวร่วม SNC เป็นองค์กรหลัก ที่เป็นตัวแทน กบฏซีเรีย ไปสู้กับรัฐบาล ประเทศเขาเองอีกแล้ว.. ไหนบอก อเมริกา และ EU เรียกร้อง ประชาธิปไตยไง ความน่าเชื่อถืออเมริกา ไม่เหลือหลอ ล้มละลาย ทางเครดิต ในประชาคมโลก หมดสิ้น

รัฐบาลมะกันเอง กลับมีคนยิวไซออนิสต์ ครอบงำอีกต่อ.. จึงเป็นได้แค่ ลูกสมุน ของคนยิว เท่านั้น.. ไร้ศักดิ์ศรี มหาอำนาจจริงๆ ...เรื่องกำลังต่อจิ๊กซอ ออกมาแล้ว มาเปิดโปงว่า มันวนเข้ามาเกี่ยวข้อง กับเหตุรุนแรง ของจังหวัด ชายแดนใต้ของไทย ในรูปแบบใด ในตอน 2 ต่อไป...

@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/topsecretthai

 

แฉ..ความลับ
วันที่ 14 ก.ค.57
เปิดโปง..รู้ทันมะกัน อสูรกายแห่งแทรกแซง เหตุชายแดนไต้ (ตอน 2)

จากตอนแรก ที่เปิดโปง การที่ชาติตะวันตก เข้าไปแทรกแซง ชาติอาหรับ โดยหนุน กลุ่มติดอาวุธ กลุ่มย่อยต่างๆ เพื่อให้ต่อสู้กับรัฐบาล ประเทศนั้นๆ เพื่อกอบโกย ผลประโยชน์ กลับไป กระตุ้นความมั่งคั่ง ประเทศตนเอง แล้วใช้ฮิวแมนไรต์วอตช์ มาเป็นประโยชน์ ในการสร้างภาพ ลวงตาชาวโลก แล้วนั้น

** ความเดิมตอนแรกที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.252952958228072.1073742038.187529244770444&type=1

ดูการแทรกแซงอเมริกา ในมิตรประเทศบาห์เรน ที่เป็นเกาะยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม อ่าวเปอร์เซีย กับอิหร่าน และเป็นที่ตั้งของ ฐานทัพเรือที่ 5 แห่งกองทัพสหรัฐฯ ขณะที่อเมริกา เป็นพันธมิตรกับ ราชวงศ์อัล-คาลิฟา แห่งบาห์เรน มาอย่างช้านาน (กษัตริย์ที่นี่ นับถือนิกายสุนีห์)

ประเทศนี้ พยายามฟื้นตัว จากผลกระทบ ของการประท้วง ที่นำโดยชาวชีอะห์ ซึ่งปะทุขึ้น เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2554 ที่แผ่ลามมาจากการ “อาหรับสปริง” ที่หนุนลับๆ โดยอเมริกา ให้ประชาชนลุกฮือ ในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และ เรียกร้องปฏิรูป ประชาธิปไตย ในระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์

กองกำลังทหารบาห์เรน ได้รับการสนับสนุน จากพวกทหาร ที่นำโดย ซาอุดีอาระเบีย สามารถสยบ ปราบปราม ผู้ประท้วง ในอีกราว 1 เดือนถัดมา ทว่า นับตั้งแต่นั้นมา ก็มีการชุมนุม กลุ่มเล็กๆ ตามหมู่บ้าน ของชาวชีอะห์ เป็นพักๆ และเกิดปะทะ กับตำรวจ หลายต่อหลายครั้ง

และแล้วความจุ้น ยุยงให้คน ประเทศต่างๆ สู้รบกัน ก็ปะทุ ขึ้นมาอีกแล้ว ที่บาห์เรน เมื่อกระทรวง การต่างประเทศ บาห์เรน แถลงแสดง ความไม่พอใจ และเดือดปุด เมื่อ นายทอม มาลินาวสกี รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงต่างประเทศ สหรัฐฯ ประจำสำนัก ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และแรงงาน ที่แทรกแซง กิจการภายใน ของบาห์เรน ด้วยการ “ แอบพบปะกับ แกนนำพรรคการเมือง พรรคหนึ่ง “

รัฐบาลบาห์เรน รักษาศักดิ์ศรี พูดชัดเจนว่า “รมช.อเมริกา ไม่เป็นที่ต้อนรับ ของบาห์เรน” เพราะชาตินี้ ปกครองด้วย ชาวสุหนี่ และ รมช.อเมริกา ควรเดินทางออกไป ในทันที.. ภาษาบ้านๆ คือ ตะเพิด และเฉดหัวส่ง ว่างั้นเถอะ

โดยเฉพาะที่จะก่อ ความเสียหายแก่ คู่สนทนาอื่นๆ โดยอ้างถึง กลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน ที่นำโดยพวกชีอะห์ โดย รมช.อเมริกา ได้พบปะกับ กลุ่มเคลื่อนไหว ฝ่ายค้านชีอะห์ อัล-เวฟัก ซึ่งเป็นสมาคมการเมือง ที่ไม่ได้รับอนุญาต จากรัฐบาลบาห์เรน (คล้ายๆ นปช.) รัฐบาลบาห์เรน ย้ำว่า การพบปะของเขา ขัดแย้งกับ ธรรมเนียมทางการทูต และไม่เคารพต่อ ความสัมพันธ์ ระหว่างรัฐ

ต่อมากระทรวง การต่างประเทศ สหรัฐฯ รีบออกมาแถลง แก้เกี้ยวว่า รมช.ของเขา ยังคงอยู่ใน บาห์เรน ที่ตั้งของ ฐานทัพเรือที่ 5 แห่งกองทัพเรือ อเมริกา (ไม่กล้าออกมา นอกฐานทัพ) เพื่อสนับสนุน ความพยายามปฏิรูป ของกษัตริย์ !!.. อเมริกาจะไปล้ม ระบอบกษัตริย์ ที่ประเทศ พันธมิตรตนเอง อีกแล้ว..!!

ในความไร้เสถียรภาพ ของอิรักวันนี้ อาจทำให้หลายคน ที่มองผิวเผินว่า เป็นความล้มเหลว ในนโยบาย ต่างประเทศ ของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง แต่จริงๆ แล้ว มองแบบนั้น ตื้นไป เพราะไม่ใช่ความล้มเหลว ของนโยบาย แต่อเมริกา กลุ่ม EU และยิว ต้องการทำให้คน เข้าใจอย่างนั้น เพราะเขาคิดว่า คนอื่นนั้นโง่ ตามเขาไม่ทัน

สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นการวางแผน มาก่อนล่วงหน้า หลายปี สื่อตะวันตก พยายาม จะเบนความจริง ไม่ให้โลกรู้ว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น โดยพยายาม ทำให้เกิดกระแส ความเข้าใจ ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่สอดรับกับ ผลประโยชน์ ของตะวันตก ตลอดมา กรณีของอิรัก คนจำนวนมาก ถูกทำให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในอิรัก คือ สงครามกลางเมือง

ในอเมริกาเอง มีการเข้ามา มีอิทธิพล ของขบวนการ ไซออนิสต์ (กลุ่มยิวโปรเจค ทางการเมือง) ในโครงสร้างของ รัฐบาลอเมริกา ชัดเจนแล้วว่า เวลานี้ รัฐบาลยิว อิสราเอล ได้ควบคุม กลไกต่างๆ ของรัฐบาลอเมริกา ไว้เรียบร้อย เบ็ดเสร็จแล้ว

เวลานี้ชาวอเมริกัน ส่วนมาก กำลังเริ่มสงสัย ในความตื่นตัว เกี่ยวในเรื่อง “ความคลั่งไคล้ อิสราเอล” ของรัฐบาลอเมริกา และ ได้เรียกร้องไปยัง รัฐบาลอเมริกา ให้ทบทวน เรื่องนี้อีกครั้ง และได้ตั้งคำถาม ไปยังรัฐบาลตนเองว่า “หรือว่าประเทศของเรา ถูกครอบครอง โดยอิสราเอลเสียแล้ว?”

มีองค์กร ชื่อ “คณะกรรมการ อเมริกัน-อิสราเอล เพื่อกิจการสาธารณะ” AIPAC หรือ The American Israel Public Affair Committee ที่จดทะเบียน ถูกต้อง ตามกฎหมาย อเมริกา ทำหน้าที่ ล็อบบี้ทุกเรื่อง เพื่อผลประโยชน์ ของอิสราเอล ในอเมริกา โดยอ้างว่า เป็นการรักษา ผลประโยชน์ ของอเมริกา ในตะวันออกกลาง จึงเปรียบเสมือน อสูรกาย ที่กำลังครอบงำ อเมริกา

คำเรียกขาน ผู้ที่มีอิทธิพล ต่อสื่อต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา คือ “ไซออนิสต์” ซึ่งคือ โปรเจคการเมือง ของเผ่าพันธุ์ยิว ในการครอบครองโลก โดยมียูดาย เป็นแนวทางหนึ่ง ในโปรเจคนั้น จึงต้องทำความเข้าใจ และแยกให้ออก ระหว่าง “ยูดาย” และ “ไซออนิสต์”

ส่วนมากของ ผู้ที่มีอิทธิพล เหนือสื่อต่างๆ ล้วนเป็น ผู้ที่ไร้ศาสนา และพวกเขาคือ ผู้ที่พลีอุทิศ จิตวิญญาณของตน ให้กับรัฐบาล อิสราเอล ซึ่งเป็นรัฐบาล ที่เข้ารุกราน ครอบครอง แผ่นดินปาเลสไตน์ ในขณะนี้ เพื่อดำรงเผ่าพันธ์ สื่อให้ต่างๆ ของโลกตะวันตก เช่น CNN , AFP ฯลฯ ควบคุมโดย AIPAC ทุกกระบวนการ ทำให้ทำงาน รายงานข่าว ไปในทิศทางเดียวกัน

เวลานี้ชาวอเมริกัน ส่วนมาก กำลังขาดความเชื่อมั่น ต่อสื่อสาร มวลชนหลัก ของตนเอง เนื่องจากสื่อต่างๆ เหล่านั้น มีคนของไซออนิสต์ เป็นผู้ควบคุม และบริหารงาน แทบทั้งหมด และในเวลานี้ สื่อต่างๆ เหล่านั้น กำลังโน้มน้าวจิตใจ ของชาวอเมริกัน เพื่อให้มีการเสียสละ อุทิศตน เกี่ยวกับสงคราม ในซีเรีย เช่นเดียวกับ การโน้มน้าว ให้ชาวอเมริกัน เห็นดีเห็นงาม กับการบอยคอต โครงการ พลังงานนิวเคลียร์ เพื่อสันติ ของอิหร่าน

ชาวอเมริกัน ในสังคมต่างๆ เริ่มเบื่อหน่าย เริ่มแสดง อาการรังเกียจ และต่อต้าน องค์กร AIPAC กันแล้ว ในเวลานี้ แม้กระทั่ง ในชุมชนชาวยิว ในอเมริกา ขณะนี้ชาวยิว เริ่มออกมา ต่อต้าน ขบวนการ ไซออนิสต์ กันบ้างแล้ว ร่วมกับ ชาวอเมริกัน ที่ต่อต้าน ไซออนิสต์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ชุมชนดังกล่าว เป็นชุมชนที่ รัฐบาลอิสราเอล ให้ความสำคัญ เป็นอย่างยิ่ง

สงคราม ในตะวันออกกลาง ที่ลึกลงไปกว่านั้น ที่ไม่เปิดเผย คือ กระบวนการ ที่ทำให้เกิด ความยุ่งเหยิง ที่เดินเกมส์ โดยตะวันตกและยิว ทำให้อิรัก ซีเรีย ไร้เสถียรภาพก่อน และแตกออก เป็นเสี่ยงๆ อันเป็นส่วนหนึ่ง ของแผนการทางทหาร ในตะวันออกกลาง ของอเมริกา อังกฤษ และอิสราเอล โดยแผนการนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่ การทำให้เกิด ความไร้เสถียรภาพ ความยุ่งเหยิง ความรุนแรง ที่แผ่ขยายจาก เลบานอน ปาเลสไตน์ และซีเรีย ไปถึงอิรัก อ่าวเปอร์เซีย อิหร่าน และชายแดน อัฟกานิสถาน

แผนการนี้ เป็นโครงการใหม่ ของอเมริกา และอิสราเอล ที่หวังจะใช้ เลบานอน เป็นจุดผลักดัน ให้เกิดการจัดสรร แบ่งเขตพรมแดน ในตะวันออกกลาง กันใหม่ โดยอาศัย กลุ่มกองกำลังต่างๆ สร้างความยุ่งเหยิง รุนแรง สร้างเงื่อนไข ความขัดแย้ง ให้แผ่คลุม ทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งจะเอื้อให้อเมริกา อังกฤษ และอิสราเอล สามารถวาดแผนที่ ตะวันออกกลางใหม่

ตั้งแต่ฝั่งตะวันออก ของทะเล เมดิเตอ์เรเนียน จากเลบานอน และซีเรีย ไปจนถึง อนาโตเลีย อาระเบีย อ่าวเปอร์เซีย รวมถึง ที่ราบสูงอิหร่าน สงคราม ตะวันออกกลาง ที่ขยายวงกว้าง ออกไปเช่นนี้ ในท้ายที่สุด จะส่งผลให้ มีการกำหนด พรมแดน ประเทศกันใหม่ และทำให้เกิด ความได้เปรียบ เชิงยุทธศาสตร์ สำหรับอเมริกา และอิสราเอล ระยะยาว ในที่สุด

อเมริกา และอิสราเอล ใช้ความพยายาม อย่างเป็นระบบ ในการปลุกปั่น ปัญหาความรุนแรง กระตุ้นให้เกิด การแบ่งแยก ในระดับประชาชน ในตะวันออกกลาง ที่มีฐานมาจาก ความแตกต่าง ระหว่าง นิกายทางศาสนา และกลุ่มก้อน ทางวัฒนธรรม ในตะวันออกกลาง และอาหรับเอง หลายๆ รัฐบาล ในตะวันออกกลาง เช่น ซาอุฯ ก็มีท่าที่ สอดรับกับอเมริกา โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ต่อต้านการยึดครอง ของต่างชาติตะวันตก ให้อ่อนกำลังลง เพราะอาหรับอิสลาม ทะเลาะกันเอง แตกแยก มั่วไปหมด

เป็นไปตามยุทธศาสตร์ “แบ่งแยกแล้วพิชิต” การสร้างสงคราม กลางเมือง ในจุดต่างๆ คือ วิธีการที่ดีที่สุด ในการแยก ประเทศหนึ่ง เป็นเสี่ยงๆ เช่น กรณีของ แหลมบอลข่าน และ การใช้ความขัดแย้ง ระหว่างชนกลุ่มน้อย มาทำลาย และแบ่งแยก ยูโกสลาเวีย ออกเป็นเสี่ยงๆ ที่สำเร็จมาแล้ว

วันนี้อิรักเอง ก็อยู่ในแผน ที่กำลังถูกทำให้แตกตัว เหมือนบอลข่าน ด้วยกลยุทธ์ถนัด ของจักรวรรดินิยม ที่ใช้กองกำลัง ติดอาวุธ เป็นเครื่องมือ อเมริกาจึงนิยม คำการต่อสู้ของ กลุ่มติดอาวุธ เหล่านี้ว่า “เป็นการเคลื่อนไหว ของฝ่ายต่อต้าน ที่สนับสนุน ประชาธิปไตย “ บางทีอเมริกา ก็เรียกว่า ผู้ก่อการร้าย เพราะรัฐบาล ตะวันตก มองว่า “เขาต่อสู้กับใคร” มากกว่าดูว่า “เขาเป็นใคร”

เช่น กรณีการต่อสู้ของ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ในซีเรีย ถูกอเมริกาเรียกว่า เป็นนักรบ เพื่ออิสรภาพ และประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ทั้งๆ ที่รัฐบาลซีเรีย มาจากการเลือกตั้ง แต่พอในอิรัก ถูกเรียกว่า เป็นกลุ่มก่อการร้าย ที่ต่อสู้กับ รัฐบาลประชาธิปไตย ที่มาจาก การเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่อเมริกา ก็หนุนหลัง กลุ่มติดอาวุธ IS ตลอดมา และยังหนุน รัฐบาลอิรัก ในช่วงแรกๆ

ส่วนกลุ่ม มูญาฮิดีน และตอลิบัน ที่ขับไล่โซเวียต ในประเทศ อัฟกานิสถาน ในปี ค.ศ.1980 ก็เคยได้รับ การสนับสนุน และยกย่อง จากอเมริกา แต่ตอนนี้ ถูกเรียกว่า ผู้ก่อการร้าย นับตั้งแต่ชัยชนะ ในสงครามโซเวียต อัฟกานิสถาน เรื่อยมา กลุ่มติดอาวุธต่างๆ ภายใต้ร่มของ อัลกออิดะห์ มักจะถูกใช้ เป็นเครื่องมือ ของอเมริกา และนาโต้ เพื่อยับยั้ง กีดกัน การส่งน้ำมัน จากตะวันออกกลาง เข้าสู่จีน ไม่ให้จีนเจริญกว่า และโลกอาหรับ หันไปใช้ เงินหยวน แทนดอลลาห์

อเมริกา กลุ่ม EU และยิว เข้าไปเกี่ยวข้องกับ ปัญหาความขัดแย้ง ในซีเรีย ทั้งกลุ่ม อัลนุสรา ฟรอนท์ ที่ต่อสู้กับรัฐบาล และ IS กลุ่มติดอาวุธพวกนี้ เป็นพันธมิตร ทางทหาร ของตะวันตก ที่คอยสนับสนุน อาวุธ เงินทุน อาหาร เวชภัณฑ์ และคอยควบคุม การคัดเลือกนักรบ ตลอดจน การฝึกซ้อม ในลักษณะ กองกำลังกึ่งทหาร ในอีกประเทศหนึ่ง เพื่อไปปฏิบัติการ อีกประเทศหนึ่ง

กลุ่มติดอาวุธ ที่อเมริกาหนุน เหล่านี้ ย่อมแข็งแกร่งขึ้นมา ในกรณีของอิรัก อเมริกา รู้ว่ากลุ่มติดอาวุธ IS ที่มีฐานในอิรัก และกลุ่มติดอาวุธ อัลนุสรา เป็นภัย คุกคามอิรัก และ รัฐบาลของอิรัก ด้วยเหตุนี้ การเคลื่อนไหวของ กลุ่มติดอาวุธ IS ที่ต้องการสถาปนา รัฐอิสลามนั้น สอดรับกับ เป้าหมาย ของอเมริกา ที่ต้องการ วาดแผนที่อิรัก และซีเรียใหม่

โดยฉีกย่อยออกเป็น 3 เขตปกครอง กล่าวคือ รัฐอิสลามสุนนี่ สาธารณรัฐ อาหรับชีอะห์ และ สาธารณรัฐ เคิร์ดิสถาน โดยสร้างฉาก โดยการสนับสนุน ทางการเงิน และ ติดอาวุธหนัก ให้คู่ต่อกรทั้งคู่ สู้รบกันเอง ชิงอำนาจให้เกิด สงครามกลางเมือง ในเกมส์ ที่ควบคุมรีโมท โดยอเมริกา และนาโต้

ส่วนสื่อ กลุ่มไซออนิสต์ ของยิว มีหน้าที่ สร้างฉากลิเก ทำให้ทั่วโลกเชื่อ หรือเห็น ในมิติเดียวว่า นี้เป็น สงครามกลางเมือง ของการปะทะกัน ระหว่าง สุนนี่-ชีอะห์ ที่อาจขยาย ไปทั่วภูมิภาค เพราะการขยาย ฐานอำนาจ ของรัฐบาลชีอะห์ หลายประเทศ ในตะวันออกกลาง ถือเป็นอีก ปัจจัยหนึ่ง ที่สร้างความกังวล ให้กับ ระบอบ กษัตริย์ซาอุฯ สะเทือนเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยเหตุเช่นนี้ จึงเป็นเงื่อนที่ กำหนดท่าที และนโยบาย ต่างประเทศ ของซาอุฯ ในตะวันออกกลาง ให้อิงอยู่กับ ฝ่ายอเมริกาฯ เสมอมา โดยอ้างว่า ต่อต้าน การขยายอิทธิพล ของอิหร่าน รวมถึง ให้การสนับสนุน ทุนและอาวุธ กลุ่มต่างๆ ที่ต่อสู้กับ รัฐบาลชีอะห์ ที่ชัดเจนคือ ในซีเรีย และอิรัก ที่ผ่านมา ซาอุฯได้ตำหนิ รัฐบาลอิรัก ที่ปล่อยให้อิหร่าน เข้ามามีอิทธิพล ในอิรักมากเกินไป ซึ่งสะท้อนแนวคิด ชัดเจนว่า รัฐบาลซาอุฯ มีความกังวลอย่างมาก ต่อการขยายอิทธิพล ของอิหร่าน และชีอะห์ ในตะวันออกกลาง

ซาอุ ฯ เคยคัดค้าน การถอนทหารอเมริกา ออกจากในอิรัก อย่างแข็งขัน หรือแสดงความผิดหวัง ที่อเมริกา ไม่ใช้กำลังทหาร ของตนเอง เข้าโค่น รัฐบาลซีเรีย แบบสงคราม เต็มรูปแบบ เพราะการโค่นล้ม รัฐบาลซีเรีย เพื่อให้เกิด การเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง ถือเป็นเป้าหมาย ที่ซาอุฯ ให้ความสำคัญ มากกว่า กรณี การขยายอิทธิพล ของชีอะห์ ในอิรักเสียอีก

เพราะซาอุมองว่า ถ้าโค่นรัฐบาลซีเรียได้ ก็จะเป็นการ เตะตัดขา ตัดกำลัง รัฐบาลชีอะห์ ของอิรัก ในทางอ้อม และเป็นการลดทอน อิทธิพลของอิหร่าน ในตะวันออกกลางด้วย ที่สำคัญคือ การที่ซาอุฯ สนับสนุน กลุ่มติดอาวุธ ฝ่ายต่อต้าน รัฐบาลซีเรีย โดยเฉพาะอัล นุสรา หรือ อัลกออิดะห์ ที่ผ่านมา ก็เสมือน การสนับสนุน การต่อสู้ ของฝ่ายต่อต้าน ในอิรักด้วย

เพราะทั้งกลุ่มติดอาวุธ IS และ กลุ่มอัลนุสรา กลุ่มอัลกออิดะห์ ที่เป็นนิกายสุนนี่ ทุกกลุ่ม ได้กลับมาจับมือ และร่วมกัน ต่อสู้แล้ว ซึ่งรัฐบาลชีอะห์ เครือ อิรัก อิหร่าน และซีเรีย ต่างก็ช่วยเหลือกัน อย่างเต็มที่ เช่นกัน แถมกองกำลังเคิร์ด ที่หนุนหลังโดยตุรกี และอเมริกา เข้ายึดบ่อน้ำมัน 2 แห่ง ทางเหนือ ของอิรัก และเข้าควบคุม ปฏิบัติการ ของบริษัทพลังงาน ของรัฐด้วย

โดยเหล่านักการเมือง ชาวเคิร์ด ระงับการเข้าร่วม ในรัฐบาลของ นายกรัฐมนตรี ของอิรัก ดังนั้น ดินแดนนี้ คงแตกเป็นเสี่ยงๆ ขนาดๆ เล็กๆ ท่ามกลาง สถานการณ์ ความไม่สงบ พวกนักรบอิสลาม กลุ่มย่อยต่างๆ ปฏิบัติการจู่โจม และยึดเมืองต่างๆ ทางเหนือ และทางตะวันตก ของประเทศอิรัก

คนไทยควรเรียนรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน ทางปัญญา ในทฤษฎี สงครามกลางเมือง เพื่อวาดแผนที่ใหม่ เพราะจะเห็นว่า ตัวแสดงต่างๆ กำลังขับเคลื่อนไป ในแนวทางเดียวกัน แต่ต่างกัน ที่เป้าหมาย นั่นคือ การทำให้เกิด สงครามกลางเมือง ตามเกม ความยุ่งเหยิง ในยุทธ์ศาสตร์ ที่ต่างกัน โดยอเมริกา ใช้การแบ่งแยก แล้วพิชิต , ส่วนกลุ่ม IS เปิดแนวรบ กับรัฐบาลชีอะห์ ทั้งในซีเรียและอิรัก เพื่อก่อตั้ง รัฐอิสลาม.. แต่จริงๆ แล้ว พวกเขา เป็นแค่เครื่องมือ และ หมากในกระดาน ของอเมริกา และยิว เท่านั้นเอง

ดังนั้น อนาคตของ ตะวันออกกลาง มีความเป็นไป ได้ใน 3 แนวทาง ตามทฤษฎีเกมศูนย์ คือ

1) คงสภาพเดิม อิรัก-และเครือรัฐบาลชีอะห์ ชนะกลุ่มติดอาวุธ ของอเมริกา และยิว สามารถรักษา ฐานอำนาจ และอิทธิพลของตน ในตะวันออกกลางได้

2) รัฐบาลอิรัก ถูกโค่นโดย IS และเปลี่ยน ระบอบการปกครอง ในระยะยาว อาจรวมกับซีเรีย

3) อิรัก-ซีเรีย ถูกฉีกแผ่นดิน ออกเป็นสามส่วน รัฐอิสลามสุนนี่ สาธารณรัฐ อาหรับชีอะห์ และ สาธารณรัฐ เคิร์ดิสถาน.. แนวนี้เป็นไปได้สูง เพราะกลุ่มไซออนิสต์ ที่ชักใย รัฐบาลอเมริกา ปลื้มมาก

ภายใต้ความยุ่งเหยิง และสงครามกลางเมือง ของความขัดแย้ง สุนนี่-ชีอะห์ กับสงคราม ตัวแทน และอิทธิพลของ สื่อกระแสหลัก ไซออนิสต์ สิ่งที่อันตรายที่สุด คือ ปัญหาความขัดแย้ง และกระแส ความเกลียดชัง ระหว่าง นิกายสุนนี่-ชีอะห์ อาจถูกโหมกระพือ อย่างเป็นระบบ ไปทั่ว ในตะวันออกกลาง และส่วนอื่นๆ ของโลก รวมทั้ง 3 จังหวัด ชายแดนไต้ของไทย

ซึ่งกลุ่มติดอาวุธ ชายแดนไต้ของไทย ก็อ้างเรื่อง ความแตกต่าง ทางศาสนา และจะสร้าง รัฐอิสลาม เช่นกัน ซึ่งกลุ่มนี้ ได้รับทุนจากซาอุฯ โดยมีอเมริกา หนุนอย่างลับๆ ร่วมกับทุน จากกลุ่มเผาไทย ในรูปแบบ กองทุนนิรนาม จากต่างประเทศ ส่วนการฝึกอาวุธนั้น กลุ่มติดอาวุธ พวกนี้ ก็เดินทาง ไปฝึกที่ อัฟกานิสถาน และ ตะวันออกกลาง กับกลุ่ม อัลกออีดะห์ และอัลเคด้า อีกขาหนึ่ง

ตอนนี้ใน 3 จังหวัดใต้ ร้าน KFC ปิดกิจการ เพราะไม่ได้รับ เครื่องหมายฮาลาล เกรงจะถูกต่อต้าน และไม่ปลอดภัย เพราะเป็นสัญลักษณ์ ของอเมริกา และตะวันตก ที่กำลังรังแก คนปาเลสไตน์ ในเขตฉนวนกาซา และรังแกคนอาหรับ ในตะวันออกกลาง

ชาวไทยพุทธ ที่กำลังมองปัญหา แบบผิวเผิน ที่เรียกตัวเองว่า "ไทยพุทธ กลุ่มน้อย" ที่กิน KFC อยู่ และไม่พอใจ โดยนัดรวมตัว เรียกร้องกันที่ ยะลา เพื่อจี้ให้ ผู้บริหาร KFC ชี้แจง ต้องการให้ 3 จังหวัดใต้ เป็นสังคม พหุวัฒนธรรม ที่ทุกศาสนา มีสิทธิเสรีภาพ ที่จะมีวิถีชีวิต ตามปกติ

ให้พึงระวังว่า กำลังจะตกเป็นเหยื่อ เครื่องมือสร้างเงื่อนไข การยั่วยุ ให้ฝ่ายมะกัน ที่นำสายลับ มาปฏิบัติการในไทย ถึงราว 4,000 คน และชาติตะวันตก รวมทั้งซาอุฯ ใช้สร้างสถานการณ์ ขยายความขัดแย้ง สั่งให้ผู้ก่อการร้าย ในจังหวัด ชายแดนใต้ ในรีโมทคอนโทรล ก่อเหตุรุนแรง ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้

ถึงแม้ว่าในเมืองไทย จะมีสถาบันเบื้องสูง เป็นศูนย์รวมใจ และไม่อาจ ปลุกกระแส ผู้ร่วมต่อต้าน ได้มาก เหมือนกลุ่ม IS กลุ่มอัลนุสรา กลุ่มอัลกออิดะห์ และ กองกำลังเคิร์ด เหมือนในอิรัก ก็ตาม !!

@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/topsecretthai