โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
ขอเสนอเรื่อง
การวางแผนจัดตั้ง
หมู่บ้านยุทธศาสตร์ในค่ายทหาร

อำนวยการสร้างโดย
พันเอกบุญเยี่ยม สาริมาน

ขอขอบพระคุณ
ท่านพระโพธิรักษ์ แห่งสันติอโศก
ท่านพระติกขวีโร แห่งปฐมอโศก
พันตรีอวิรุทธ์ มิ่งขวัญ นายทหารฝ่ายการขนส่ง
สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง และ
คุณสุเมธ ดีรัตนา หัวหน้าประชาสัมพันธ์ ปฐมอโศก


เรื่องนี้เป็นเพียงแนวความคิด ที่ยังไม่ปรากฏ ว่ามีใครเคยคิดมาก่อน ดังนั้น จึงยังไม่มีตัวอย่าง หมู่บ้านยุทธศาสตร์ ในค่ายทหารจริงๆ มาให้ท่านชม ประเทศไทยในครั้งโบราณ เราฝึกคนให้มีคุณภาพได้นั้น มีวิธีเดียว คือส่งลูกหลานไปอยู่วัด ศึกษาวิชาความรู้ เกือบทุกแขนงจากพระ สมัยนั้นพระแต่ละองค์ แต่ละวัด ท่านมีคุณค่า มีคุณภาพของชีวิตมาก จึงทำให้คนไทย สามารถพึ่งพาตัวเองได้ มาจนถึงปัจจุบัน

พระท่านฝึกคน ให้ตื่นตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง แต่ในค่ายทหารปัจจุบัน เราเป่าแตรปลุกตี ๕ ครึ่ง ยุคนี้คุณภาพของพระ ที่จะฝึกคนให้มีคุณภาพ เหมือนสมัยก่อนนั้น หาได้ยาก เราจึงใช้โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือส่งคนไปศึกษา ต่างประเทศ แล้วกลับมาฝึกสอนคนไทย แต่แทนที่จะได้คนไทย ที่มีคุณภาพดี กลับตรงกันข้าม นับวันจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ปัจจุบัน ผมได้ศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับแหล่งที่จะฝึกคน ให้มีคุณภาพ พบแล้ว คือที่ปฐมอโศก

ที่ปฐมอโศกนี้มีท่านพระโพธิรักษ์ เป็นผู้อำนวยการใหญ่ ของโครงการ ชาวอโศกเรียกท่านว่า พ่อท่าน มีความหมายว่า ชาวอโศกทุกคนเป็นพี่น้องกัน เสมือนเกิดกับ พ่อเดียว แม่เดียวกัน รักใคร่ สามัคคี กลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งกันและกัน ปฏิบัติธรรมเหมือนกัน ถือศีลอย่างน้อยก็ศีล ๕ รับประทานอาหารมังสวิรัติ แต่งกายกินอยู่เรียบง่าย ประหยัด ขยันขันแข็ง กล้าจน กล้าท้าทายสังคม กระผม พันเอกบุญเยี่ยม สาริมาน มาจากโรงเรียน เสนาธิการทหารบก กระผมได้มาเยี่ยม ที่ปฐมอโศกนี่ ก็มีความประทับใจ ที่เห็นการปฏิบัติ ของพระคุณเจ้าทุกองค์ เป็นที่น่าเลื่อมใส แล้วก็ทำให้เกิด หมู่บ้านของประชาชน ที่มีศีลธรรม ทำงานกันอย่าง ขยันขันแข็ง ผมก็คิดว่า อาจจะเป็นตัวอย่างของ แผ่นดินทอง แผ่นดินธรรม แล้วก็อาจจะเอาไปใช้ประโยชน์ ในทางทหารในค่ายใหญ่ๆ ดึงในสิ่งที่สามารถ จะนำไปปฏิบัติได้ ผมก็จึงมา อยากจะให้ท่านได้อธิบาย วิธีการฝึกคน ฝึกพระ ก่อนที่จะมาบวชให้เป็นพระที่ดี เป็นมาตรฐาน แล้วก็สอนคน ให้เป็นคนดีได้นี่ ตั้งแต่เริ่มต้นโดย ขอให้พระคุณเจ้าท่าน แนะนำชื่อของท่านด้วย

พระติกขวีโร : อาตมาฉายาพระติกขวีโร ก็เป็นผู้ที่ได้รับสมมติ ให้มาเป็นผู้ดูแล อยู่ที่พุทธสถานปฐมอโศก ถ้าเรียกตามทั่วๆไป จะเรียกว่าเป็นเจ้าอาวาสก็ได้ แต่ว่าเจ้าอาวาส ของเราที่นี่ ไม่ได้อยู่กันเป็นหลัก หมุนเวียน สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ปีหนึ่งก็เปลี่ยนกัน ปีละครั้ง แต่เราก็ไม่ได้ใช้เรียกกัน เป็นเจ้าอาวาส ส่วนใหญ่เราเรียกกัน เป็นภันเตใหญ่ ภันเตใหญ่นี่หมายความว่า เป็นพระผู้มีอายุพรรษา มากกว่าองค์อื่นๆ ตอนนี้อาตมาก็มาอยู่ ดูแลที่นี่ คราวนี้ถามถึงว่า ในการที่จะเกิดมี พุทธสถานขึ้นมา มีชาวบ้าน ญาติธรรม มาปฏิบัติธรรม ด้วยนี่นะ เราใช้หลักอะไร ในการที่จะพัฒนากัน หลักในการพัฒนาที่นี่ นี่เราเริ่มด้วยการเน้น ถึงเรื่องของศีล ศีลเป็นเรื่องที่ จะให้แต่ละคนๆนี่ ได้พัฒนาตัวเอง จะมาเป็นพระ ก็ต้องฝึกปฏิบัติศีลมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นญาติธรรม เป็นญาติโยมที่จะมาอยู่ หมู่บ้านรอบๆวัดนี่ ก็จะต้องมาปฏิบัติศีล ด้วยกันทุกคน แต่ว่าปฏิบัติกัน ตามแต่ละฐานะ ของแต่ละบุคคล อย่างฆราวาส ก็ถือศีล ๕ ถือศีล ๘ เป็นสามเณรมาถือศีล ๑๐ แล้วก็เป็นพระถือศีล โอวาทปาติโมกข์

แต่ทีนี้ถึงว่าจะมาเป็นพระนี่ ก็ต้องฝึก อย่างที่บอกแล้วละ เพราะว่าพระของเราที่นี่ ไม่ได้ปุ๊บปั๊บอยากจะบวช ก็บวชกันเลย ต้องฝึกปฏิบัติมาก่อน ก่อนจะมาบวชเป็นพระนี่ จะต้องมาเป็น ผู้ปฏิบัติธรรม มาเป็นอารามิก เป็นคนวัด เป็นคนวัดปีหนึ่ง มาเป็นผู้ปฏิบัติหรือเรา เรียกง่ายๆว่า "ปะ" ๔ เดือน แล้วก็มาเป็น "นาค" อีก ๔ เดือน มาเป็นเณรอีก ๔ เดือน แล้วถึงจะให้ ขึ้นมาเป็นพระ ซึ่งในฐานะของปะ นาค เณร จะต้องเป็นฐานะที่ได้รับ การอนุมัติ จากสังฆสภา คือว่า หมู่สงฆ์ทั้งหมดนี่ ให้อนุมัติโดยเอกฉันท์ ไม่มีใครคัดค้าน ถึงจะให้เลื่อนมาเป็นนาค มาเป็นเณร มาเป็นพระได้ ฉะนั้นการบวชที่นี่ก็ เราอาจจะบวชกันจริงๆหน่อย ผู้ที่จะบวช จะต้องมีความตั้งใจจริงว่า ที่จะตัดสินใจเลือกเดินทางนี้ จะมาตายกับ ทางพระศาสนานี้ ถึงจะเรียกว่า ให้บวชขึ้นมา เป็นพระได้ แล้วก่อนที่จะบวช ก็จะต้องเรียกว่า มีตัดญาติ พี่น้อง คือญาติพี่น้องอะไรมี ก็ต้องตัดให้บริบูรณ์ หรือแม้ว่า เคยแต่งงาน จดทะเบียนสมรสแล้วนี่ ก็ต้องไปหย่าขาดมา ให้เรียบร้อย มีทรัพย์สมบัติ มีเงินทองอะไร ก็ต้องโอนให้หมดแหละ ทั้งสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์อะไรนี่ หรือมีบำเหน็จบำนาญ อะไรนี่ ถ้ามาบวชแล้ว ก็ต้องไปจัดการโอน ไม่มีเป็นกรรมสิทธิ์ของเราเลย ถึงจะเรียกว่า ให้หมดเนื้อ หมดตัว เป็นผู้หมดเนื้อหมดตัว ถึงจะให้เรียกว่า ขึ้นมาเป็นพระที่สมบูรณ์ของเราได้ อันนี้ในหลัก การคัดความเป็นพระ เราก็คัดโดย ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า

พ.อ.บุญเยี่ยม : เอาคุณภาพใช่มั้ยครับ

พระติกขวีโร : เราเอาคุณภาพ เราไม่เน้นปริมาณ ซึ่งก็เรียกว่า จะมาเป็นพระชาวอโศกนี่ อย่างน้อย จะต้องฝึก ผ่านขั้นตอนต่างๆ อย่างต่ำ ๒ ปี ถึงจะเรียกว่า ได้ขึ้นมาเป็นพระ เพื่อที่ว่ามาเป็นพระแล้ว มาเป็นบุคคลที่เขา เคารพกราบไหว้ เรานี่ มันจะได้... ไม่ใช่ไหว้วันนี้ พอสึกออกไป ก็กลับไปกินเหล้าอย่างเก่า อย่างนี้มันก็เหมือนกับ เล่นลิเก ละคร อะไรกัน แต่ที่นี่บวชจริง บวชแล้วก็มุ่งหมายที่จะทำดี รักษาธรรมวินัย รักษาศีล ของพระพุทธเจ้า ให้เจริญงอกงาม แก่พระศาสนา

พ.อ.บุญเยี่ยม : ปฏิบัติให้เหมือน แนวทางในสมัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย

พระติกขวีโร : ยึดในศีลในวินัย ตามวินัย ตามคำสอน ของพระพุทธเจ้า พวกเราบวชกัน เพื่อที่จะอุทิศชีวิต ที่จะรักษาคำสอน ของพระพุทธเจ้าเอาไว้ และเราก็ได้ พิสูจน์กันว่า เมื่อเราได้มาทำอย่างนี้แล้ว ก็ได้เผยแพร่ คำสอนออกไป ก็มีประชาชนรับได้ แล้วก็เมื่อประชาชนรับได้ เขาก็ลองเอาคำสอน ของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะ เอาศีลนี่ ไปปฏิบัติกันดู แล้วก็เห็นได้ว่า เมื่อประชาชน ญาติโยม เขาเอาศีลไปปฏิบัติแล้ว ปัญหาในครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง พ่อแม่ลูกอะไรนี่ก็หมดไป ครอบครัวแต่ละคน ก็เจริญขึ้น ความเป็นพี่ เป็นน้อง ความมีน้ำใจ ความช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกัน ก็เกิดขึ้น ก็รู้สึกว่า ศีลของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้นะ ในยุคที่สังคมโหดร้าย ที่มีแต่ความเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ นี่รู้สึกว่า ธรรมะเป็นสิ่งที่ จำเป็นอย่างมากเหลือเกิน ในสังคมทุกวันนี้


พันเอกบุญเยี่ยม สาริมาน บรรยาย
ประชาชนที่ได้รับการฝึกอบรมจิตใจ จากพระที่มีคุณภาพ ซึ่งท่านเน้นในเรื่องว่า ท่านพูด ท่านสอนอย่างไร ท่านทำได้อย่างนั้น คนที่ได้รับการฝึกจากท่าน ก็พยายามที่จะทำ อย่างท่านให้ได้ โครงการนี้ เพิ่งเริ่มมา ประมาณปีครึ่งเท่านั้น ยังไม่เสร็จบริบูรณ์ ท่านพระโพธิรักษ์ ท่านปฏิเสธทุกหน่วยงาน ที่จะมาขอถ่ายทำ ปฐมอโศกนี้ เพราะท่านถือว่า คุณภาพยังไม่ดีพอ ท่านปฏิเสธ แต่ว่าผมมาจาก โรงเรียบนเสนาธิการทหารบก ผมจะนำเรื่องนี้ ไปเผยแพร่ ไปให้แนวความคิด ต่อนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ในกองทัพบก ที่มาศึกษา ในวิทยาลัยการทัพบก ได้เห็นภาพว่า เมื่อเขาเป็นผู้บังคับบัญชา เป็นผู้บัญชาการค่ายต่างๆ เขาจะสามารถที่จะพัฒนา หรือวางแผนการ จัดตั้งหมู่บ้านยุทธศาสตร์ ซึ่งคล้ายกับ หมู่บ้านปลอดอบาย ที่ปฐมอโศกนี้ได้หรือไม่ ค่ายทหาร ยังมีที่รกร้างว่างเปล่า อีกมากมาย หากเราวางแผนจัดสร้างหมู่บ้าน แผ่นดินทอง แผ่นดินธรรมขึ้น ในค่ายทหาร จะทำให้ทหารของเรา ลดละอบายมุขได้ เป็นอันดับแรก แล้วขั้นต่อไป เราก็คิดที่จะให้ทหาร มีฐานะทางเศรษฐกิจ มีการครองชีพดีขึ้น เราคิดผิดที่ได้ปลูก แฟลต ปลูกห้องแถว ให้นายทหาร และนายสิบ อยู่อาศัย ปลูกโรงนอนรวม ให้ทหารอยู่รวมกัน ทหาร นายทหาร นายสิบ ไม่มีที่ที่จะทำกิน ต้องอาศัย แต่เงินเดือน และเบี้ยเลี้ยงเท่านั้น เราลองมาศึกษาดูตัวอย่าง หมู่บ้านปฐมอโศก นี้ว่ามีอะไรดีบ้าง แล้วเรา ก็นำมาประยุกต์ มาปรับปรุง มาจัดตั้งเป็น หมู่บ้านยุทธศาสตร์ ภายในค่ายทหารบกของเรา ทุกแห่งที่เรา สามารถจะทำได้ ผู้บังคับหน่วย เป็นผู้นำที่สำคัญที่สุด ในแต่ละค่าย ถ้าผู้บังคับหน่วย ยังติดอบายมุข จะวางแผน ทำโครงการนี้ ไม่มีทางสำเร็จ เช่น เอาที่ว่างเปล่า ให้ชาวบ้านเขาเช่า ปลูกข้าว ปลูกอ้อย แล้วก็นำเงิน มาแบ่งกับลูกน้องไปเลี้ยงสุรา เล่นการพนันกัน บางคนเอารายได้นี้ ไปมีภรรยาน้อยได้อีก แต่ถ้าจะละอบายให้ได้ เงินเดือนก็สามารถที่จะพอใช้ และเหลือใช้ รายได้จากสถานีวิทยุ เขาก็เอามาแบ่งกัน เป็นค่าสุรา ประจำเดือน ในขณะที่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องเป็นหนี้ เป็นสินเขาทุกเดือน เขาใช้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชา ทำแต่งาน ไม่เคยฝึกจิตใจ ให้เขาขยันขันแข็ง

เรากำลังพาท่าน เข้าชมบ้านของ พลตรีจำลอง ศรีเมือง ซึ่งได้รับเลือก เป็นผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร คนปัจจุบัน บ้านหลังนี้ สร้างด้วยเงิน ๒ หมื่นบาท ปลูกอย่างเรียบง่าย ชั้นล่าง ท่านจะเห็นว่า เป็นทั้งห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร ห้องส้วม สามารถที่จะมีชั้นบนได้ ท่านดูชั้นบน มีเฉพาะเตียงนอน การขึ้นชั้นบน ก็ใช้ไต่บันไดลิง นี่เป็นการแสดงว่า ถ้าจะเข้าห้องส้วม ก็มีม่านมาปิด ฝาทุกด้าน สามารถที่จะค้ำออกไปได้ ทำด้วยเสื่อลำแพน ตัวฝาและฝ้าบางแห่ง ก็ใช้ไม้ระกำ แต่หลังคาของบ้านหลังนี้ ใช้กระเบื้อง เพื่อความทนทาน ท่านดู ใช้บันไดลิงขึ้นไป ไม่มีการสะสม มีตะเกียงรั้ว แล้วก็บ้านหลังนี้ ใช้ไฟดวงเล็กๆ อันใช้พลังงานจาก แสงอาทิตย์เรียกว่า โซล่าเซล บริเวณรอบบ้าน ของพลตรีจำลองนี้ ก็ไม่เกิน ๕๐ ตารางวา ต้นไม้ทุกต้น ที่ท่านปลูกนั้น เป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์ หาไม้ประดับไม่ได้เลย เป็นต้นไม้ที่สามารถที่จะกินใบ กินเมล็ด กินฝักมันได้ น้ำก็ตักจากลำธาร ใกล้ๆบ้านนั้นเอง เวลาไม่อยู่ ไปทำราชการ หลายวันกว่าจะกลับมา เพื่อนบ้านข้างๆ เขาจะมารดน้ำให้เสร็จ เจ้าของบ้าน จะอนุญาตไว้ล่วงหน้าเลย

ถ้าสมมติมะเขือเทศสุกแดง กินได้แล้ว มาเด็ดเอาไปได้เลย โดยเจ้าของบ้าน จะอนุญาตไว้ก่อนเลย เหมือนกับ เป็นญาติพี่น้องกัน ทรายที่มาถมบริเวณบ้าน พลตรีจำลองได้ขน ด้วยตัวของตัวเอง บอกว่ามีอยู่วัน ขนถึง ๓ ทุ่ม นี้ก็เป็นแบบบ้านต่างๆ ซึ่งแต่ละบ้าน ก็ประกวดประขันกันว่า บ้านใครจะสร้าง ด้วยการลงทุนน้อย แต่ว่าน่าอยู่ ใช้วัสดุที่เรียบง่าย แล้วใครแข่งกันทำสวนครัว ใครจะปลูกพืชผัก ในที่น้อยๆ แต่ได้ผลมากกว่ากัน แม้แต่บริเวณลำธาร ที่ผ่านบ้านใคร ใครจะช่วยประดับประดา ประคับประคอง ให้คลองนั้นสะอาด ก็จะเป็นตัวอย่างแก่บ้านอื่น ที่จะนำไปใช้ ปรับปรุงคลอง ที่ผ่านในบริเวณบ้านของตน เราจะเห็นได้ว่า หมู่บ้านดังกล่าวนี้ แทบทุกบ้าน ที่มีอุดมคติอย่างดี เขาสามารถที่จะเพิ่มผลผลิต ภายในแต่ละบ้าน เขาสามารถที่จะนำไป ขายภายนอก ด้วยราคาที่เขาเรียกว่า ราคาอริยะ หรือ เขาเรียกว่า กำไรอริยะ คือลงทุน ๑๐ บาท ขาย ๙ บาท เขาก็สามารถที่จะอยู่ได้ เพราะว่าเขาอยู่โดย ไม่ต้องใช้เงินทอง

แต่ถ้ามาประยุกต์ใช้ในทางทหาร เห็นมั้ย เราทำของส่วนรวม แทนที่เราจะไป ขายข้างนอก เราก็มาขายทหาร ทหารของเรา ก็จะต้องซื้ออาหารสดอยู่แล้ว เมื่อเรามีหมู่บ้านยุทธศาสตร์ สามารถผลิตได้เอง หมู่บ้านยุทธศาสตร์ ก็สามารถที่ผลิตผลอันนี้ มาขายกับหน่วยทหาร ด้วยราคาถูก หมู่บ้านดังกล่าว ก็จะกลายเป็น แผ่นดินทองแผ่นดินธรรม เกิดขึ้นได้ในค่ายทหาร เห็นมั้ยครับ บ้านอย่างนี้ ตั้งแต่พลทหาร นายสิบ นายทหาร สามารถอยู่ได้อย่างสะดวก สบาย มีห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก อันนี้ก็เป็นคุ้มมิสกวัน คล้ายๆ กับเป็นชื่อ ของหมู่บ้าน แต่ละคุ้ม ก็จะมีหมู่บ้านของเขา มีหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านจะไม่เห็นที่ไหนอีกแล้ว ในประเทศไทย ที่จะได้พบหมู่บ้าน ประเภทนี้ ได้เห็นคนไทย ที่มีคุณภาพชีวิตที่สูง น่าเลื่อมใส เหมือนกับ พระและคนในหมู่บ้าน ของชมรม หรือว่าของ ชาวปฐมอโศก ซึ่งมีทั้งพระ นักบวชหญิง และประชาชน ที่ได้รับการฝึกอบรมธรรมะ มาอย่างดี พระท่านอยู่อย่างจน แต่มีจิตใจที่ร่ำรวย รวยอะไร รวยธรรมะ ประชาชนในหมู่บ้าน ไม่มีการสะสม เขาทำเหมือนกับพระจริงๆ มีชีวิตที่ลดละ ขยัน กล้าจน ทนเสียดสี หนีสะสม นิยมสร้างสรร อยู่กันอย่างง่าย งดงาม สำรวม สุขุม อ่อนโยน และเบิกบาน ในสังคมนี้ มีบุคคลหลายประเภท มีตั้งแต่ข้าราชการ หลายระดับชั้น นายแพทย์ พ่อค้า คนธรรมดา ชาวบ้าน ชาวสวน มารวมกัน อยู่อย่างฉันพี่น้อง เขาอยู่ในระบบ ธรรมาธิปไตย มีภราดรภาพ เสรีภาพ สมรรถภาพ และอิสรภาพในการคิด ในการสร้างสรร

ในค่ายทหารของเรา เกี่ยวกับศาลายานี้ คงจะไม่มีปัญหา เพราะเรามีโรงพยาบาล หรือหน่วยเสนารักษ์ แต่ของโครงการนี้ เขาไม่ได้ใช้งบประมาณอะไร จากรัฐบาลเลย เขาร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมแรงกันสร้างขึ้นมา อุทิศกันขึ้นมา นายแพทย์ พยาบาลต่างๆ ใครมีอะไรเหลือ ก็เอามาไว้ที่นี่ คนเจ็บไข้ได้ป่วย สามารถที่จะมา ปรึกษานายแพทย์ หรือ ถ้านายแพทย์ไม่อยู่ พยาบาลไม่อยู่ ก็มาหยิบเอายา ที่เขาเขียนสลากเอาไว้ เอาไปใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ทั้งสิ้นนะครับ อันนี้ก็เป็นหนึ่ง ในปัจจัยสี่ ที่เขามีครบ ในหมู่บ้านนี้ ทุกคน ต้องทำงาน ก็จะต้องมีเจ็บไข้ได้ป่วย ตามหลักของไตรลักษณ์ เขาสอนให้ ทำงานกันตลอด แต่งานทุกชนิด เขาได้สัมผัสกับธรรมะ ทุกทวาร อยู่ตลอดเวลา ในหนทางปฏิบัติ ที่จะให้บรรลุมรรค ๘ จึงได้ผลผลิต ที่เด่นกว่าที่อื่น ผลผลิตที่เห็นได้ชัดประการหนึ่ง ที่เขาฝึกคน ให้มีทั้งศีลที่บริสุทธิ์ มีปัญญา ช่วยแก้ปัญหาทั้งของตัวเอง และสังคมได้ โดย เสียสละส่วนตัว ทั้งเวลาและเงินทอง ตัวอย่างที่เราได้เห็นเด่นชัดก็คือ พลตรีจำลอง ศรีเมือง ซึ่งเป็นบุคคลที่เขาได้ รับการฝึกอบรม มาจากสำนักนี้ ซึ่งพลตรีจำลองเอง ก็ได้เขียนไว้ในเรื่อง ทางสามแพร่ง ว่าเขาได้ไปค้นคว้า ไปศึกษามาหลายแห่งแล้ว ก็พบสำนักนี้ หรือว่าสถานที่แห่งนี้ ที่สามารถ ที่จะพัฒนาตัวของเขา ให้มีอุดมการณ์ อย่างที่เขาได้เขียน เอาไว้ในหนังสือ ทางสามแพร่ง ว่า เราจะทำสิ่งที่ บุคคลอื่นทำได้ยาก เราจะอดทนต่อสิ่งที่ บุคคลอื่นอดทนได้ยาก เราจะสละสิ่งที่ บุคคลอื่นสละได้ยาก เราจะเอาชนะสิ่งที่ บุคคลอื่นเอาชนะได้ยาก

นี่แหละครับ บุคคลที่เขาเรียกว่า เป็นลูกพ่อท่านนั้น เขาพิมพ์ออกมา เป็นแบบเดียวกัน เป็นส่วนหนึ่งของ เบื้องหลังที่ว่า เงินซื้อคนไม่ได้ ธรรมะเท่านั้น ที่จะชนะอธรรม ชนะทุกสิ่งทุกอย่าง สังคมนี้เขาแอนตี้ เทคโนโลยี่ ที่เกินความจำเป็น ท่านจะไม่เห็นโทรทัศน์ ในหมู่บ้านแห่งนี้ ท่านจะไม่เห็นเตารีด ในหมู่บ้านแห่งนี้ ท่านจะเห็น ฆราวาสแต่งชุดม่อฮ่อม

อย่างประชาสัมพันธ์ ของปฐมอโศกนี้ ท่านมีเงินเดือน เป็นเงินหมื่นในอดีต แต่ท่านพาเราชม ด้วยเท้าเปล่าครับ เราหาอาหารมื้อกลางวัน จะรับประทานมังสวิรัติ เขาบอกแถวนี้หายาก เราไปถึงที่นี่ ก็เป็นเวลา อาหารเพล เรียบร้อยแล้ว เลยถามหาอาหารมังสวิรัติ ว่ามีที่ไหนขายบ้าง ท่านอาจารย์ติกขวีโร ท่านก็ได้แจ้งไปทางโรงครัว ให้ช่วยเตรียมให้เรา ทุกอย่างก็เรียบร้อย เราไปรับประทานอาหารมังสวิรัติ ที่สำนักแห่งนี้ ด้วยจิตใจที่อิ่มเอิบ แล้วเราก็มีกำลัง ที่จะทำงาน ตั้งแต่เที่ยงจนถึง ๔ โมงเย็น

เราจะเห็นได้ว่า คุณภาพของคนที่สำนักนี้ เปรียบเทียบกับสำนักอื่น ท่านสามารถที่จะใช้ ดุลพินิจของท่าน ตัดสินได้ ด้วยตัวของท่านเอง

ในกองทัพไทยเรา หากมีผู้บังคับหน่วย ตั้งแต่ระดับ ผู้บังคับการกรมขึ้นไป ที่มีอุดมการณ์อย่างนี้ หมู่บ้านยุทธศาสตร์ ก็จะเกิดขึ้น ในค่ายทหารของเราทุกค่าย กองทัพบก จะมีกองกำลัง ยุทธศาสตร์มหาศาล ที่สามารถผลิต สิ่งอุปกรณ์ทุกสาย ทุกประเภท ภายในค่าย สามารถสนับสนุน หน่วยรบ ได้อย่างเหลือเฟือ โดยไม่ต้อง พึ่งพาอาศัยมิตรประเทศ หรือ งบประมาณของรัฐบาล อย่างมากมาย เรากำลังรอดูวันนั้นกันอยู่ ทุกลมหายใจ แม้ความหวัง ที่จะได้พบได้เห็น มันอาจจะเลือนลางไป สักปานใดก็ตาม

ท่านเคยมีแนวความคิดอย่างนี้ และได้เคยไปสัมผัสกับ ปฐมอโศก ที่ผมได้นำภาพ มาให้ท่านเห็นอยู่ในปัจจุบัน หรือยังครับ จากสะพานกรุงธน ผมจับเวลา (เข็มไมล์) ๕๔ กิโลเมตร ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเท่านั้น สถานที่นี้ก็เป็น ส ห ก ร ซึ่งเขานำของ ที่แต่ละบ้านได้ผลิตเหลือใช้ หรือว่าคนที่ มีจิตศรัทธา จากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เขาเอามากองไว้ บ้านใครต้องการ ก็มาหยิบเอาไป โดยตีราคา ด้วยตัวของตัวเองว่า ราคาของชิ้นนี้ เป็นเงินเท่าไหร่ แต่ถ้าเงินยังขาดแคลน ยังไม่มี หยิบของเอาไปใช้ก่อน โดยไม่ต้องบอกใคร ไม่ต้องลงบัญชี แต่เมื่อท่านมีเงินเมื่อไหร่ ก็เอามาให้ เอามาวางไว้กับเจ้าหน้าที่ มาบอกกับเขาไว้ แต่ถ้าหยิบเอาไปแล้ว ไม่มีการเอาของมาไว้ ที่นี่ก็จะเป็น ส ห ก ร อยู่ไม่ได้นาน มีที่ไหนบ้างมั้ยครับว่า ที่ท่านได้เคยพบ ส ห ก ร ณ์ แบบนี้ ผมเป็นผู้ที่ไปเที่ยวงาน ตอนที่เขาจัดปีใหม่ บางทีผมเห็น สินค้าบางอย่าง เช่น กระติกน้ำที่ทำด้วยกะลา เขาบอกว่า ขายไม่ได้หรอกครับ ที่นี่สำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกนี่ เอาของจาก ส ห ก ร นี้ไปไม่ได้เลยจริงๆ จะให้ราคาเท่าไหร่ เขาก็ไม่ขาย เขาไม่ขายจริงๆ ครับ แล้ว ส ห ก ร ณ์ ของเราล่ะครับ ตั้งมากี่แห่ง ไม่ช้าไม่นานก็เจ๊ง มีการโกง มีการกินกัน ผลิตผลจากการผลิตคนให้ดี ให้ได้เสียก่อน คนจะไปอยู่ที่ไหน คนดีจะไปอยู่ที่ไหน ที่นั่นจะเจริญ จะพัฒนา จะมีแต่ความก้าวหน้า จะมีแต่ประสิทธิภาพของงาน ให้เราได้เห็นอยู่ ตลอดเวลา นี่แหละครับ หมู่บ้านที่ใช้เวลาเพียงปีครึ่ง มีที่ไหนบ้างครับ ที่สามารถ ที่จะผลิตผลงาน ได้อย่างที่เรา ได้เห็นด้วยภาพ ด้วยตาของท่านเอง แต่ถ้าจะให้แน่ๆ ท่านลองไปดู ด้วยตาของท่านเอง ตามที่ผม ได้ให้ข้อมูลท่านไว้ อย่างละเอียดลออแล้ว มันไม่มีที่ไหนมาก พุทธสถานปฐมอโศก ซึ่งเป็นกองอำนวยการ หรือ เป็นผู้ควบคุมโครงการนี้ แหละครับ

กองทัพธรรมย่อมชนะกองทัพอธรรม
สวัสดีครับ


 

ถอดจากเสียงในแถบบันทึกภาพ
ซึ่งถ่ายทำที่พุทธสถานปฐมอโศก เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๙
บรรยายโดย พันเอกบุญเยี่ยม สาริมาน

ถอดความและพิมพ์โดย ป.ป. ๒๙ มิถุนายน ๒๕๓๓