560824_เรียนอิสระ ที่สวนลุมฯ โดยพ่อครู
เรื่อง  ตอบปัญหานศ.ธรรมศาสตร์เรื่องการเมืองกับสันติอโศก

            พ่อครูว่า วันนี้มีคุณชวอร คำวงษ์ มาสัมภาษณ์ ถามปัญหา ซึ่งก็เข้ากับบรรยากาศ จึงให้มาถาม บนเวทีเลย

           ชวอร... คำถามแรก อะไรคือแนวคิดหลัก ของสำนักสันติอโศก และอะไร คือการเมือง การปกครอง ในอุดมคติของ สำนักสันติอโศก?

            พ่อครูว่า... เรื่องศาสนากับการเมือง ศาสนาต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างไร? ... คือศานาพุทธ ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ศาสนาก็เกี่ยวข้องกับการเมือง มีหลัก ทศพิธราชธรรม ไทยเราเป็นประเทศที่ นับถือศานาพุทธ มาตั้งแต่ ก่อนมีประเทศไทย ต่อมา ก็มีประเทศไทย ก็ใช้หลักธรรมภิบาล ไทยเรามีพุทธศานา เป็นรากของประเทศเลย มาแต่เดิม ซึ่งรธน.ฉบับปัจจุบัน ก็บัญญัติชัดเจนว่า มีศาสนาเป็นสถาบันหนึ่ง ในการปกครอง มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งศาสนากับธรรมะ ไม่ได้แยกกัน แล้วอยากรู้ว่า สำนักสันติอโศก มีหลักธรรม เฉพาะของตนเอง อะไรคือแนวคิดหลัก ของสันติอโศก แล้วอะไร... ก็ขอตอบว่า หลักแนวคิดของสันติอโศก ชัดๆคือ พ้นทุกข์ อาริยสัจ ซึ่งก็รู้กันหมด แต่ความเข้าใจ และทิฏฐิก็ต่างกัน สำนักไหน อธิบายพุทธศาสนา ก็ยืนยันว่า พาไปพ้นทุกข์อาริยสัจ แต่ใครล่ะ จะสัมมาทิฏฐิแท้ เมื่อถามสันติอโศก ก็ยืนยันว่า หลักแท้คือ พ้นทุกข์อาริยสัจจ์ แต่ใครจะแท้ อันนี้สิ ก็เป็นสิทธิ ของแต่ละคน ที่จะฟัง แล้วตัดสินเอาเอง ใครจะเข้าท่าเข้าที ก็แล้วแต่ ใครจะตัดสิน

            แล้วการเมืองการปกครอง ของสำนักสันติอโศก ตอบได้ว่าคือ หลัก “สาราณียธรรม๖ พุทธพจน์๗” แล้วจะอธิบายต่อไป ในรายละเอียด แล้วถ้าใคร เห็นดี เห็นชอบด้วย ก็ออกมา นี่ไม่ใช่คำสั่งนะ แต่ทำไมต้องพูดว่า “ต้องออกมา” มันเหมือน คำสั่งในตัว เพราะอะไร จะได้ขยายความต่อไป

            เพราะตอนนี้ กำลังอยู่ในกาละอันจำเป็น และสำคัญ ที่จะต้องออกมา แล้วออกมาทำไม ออกมาเพื่อ แสดงความเป็น ประชาธิปไตย ทำไมต้องว่าอย่างนั้น เพราะประชาธิปไตย คือการออกมาแสดงตัว ของประชาชน ประชาชน ๑ คน คืออำนาจ ๑ อำนาจ ตัวเป็นๆ ๑ คน ๑๐๐ คน ล้านคนออกมา คือประชาธิปไตย ขั้นที่ ๑ เป็นเสียง ประชาชน ลำดับหนึ่ง อำนาจเป็นของประชาชน ไทยเรามีระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มาตราที่ ๒ และมาตราที่ ๓ มีพระมหากษัตริย์ ทรงใช้อำนาจนั้น ผ่านสามสถาบัน คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องออกมา ประชาธิปไตย คือประชาชน บวกกับอธิปไตย ที่บอกว่า ได้คะแนนเสียง เลือกตั้งนั้น มันประชาธิปไตย ระดับ ๕ มันอีกไกล แต่นี่ประชาชน ออกมา เป็นระดับ หนึ่งเลย ออกมาเรียบร้อยสงบ ออกมาแสดง ความประสงค์ว่า จะโค่นล้ม ระบอบทักษิณ นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง ก็ออกมาสิ แล้วนี่คือ ความเป็นอำนาจอธิปไตย ไม่ต้องมาทำอะไร มานั่งสงบ ออกมาให้มาก จะดูสิว่า พลังอำนาจประชาชน ที่ต้องการเช่นนี้ ตัวแทน หรือนายกฯ จะทำอย่างไร ตัวแทนคือสส. จะไปตั้ง นายกฯอีกที นายกฯมีอำนาจรองจาก สส. อีกที เมื่อประชาชน มาทวงอำนาจว่า “นายกฯออกไป” ดูสิ ว่านายกฯจะทำอย่างไร ไม่ต้องเอามีดพร้า กระทะขวานมา ถ้าไทยทำได้ จะเป็นประชาธิปไตย สวยกว่าที่อียิปต์ ซีเรีย เป็นประชาธิปไตยอาริยะ มาช่วยกันทำสิ ถ้าอยากให้มี
            เป็นประชาธิปไตย ของประเทศเจริญพัฒนา จะทำได้ไหม....ได้ ไม่ต้องบอกว่า ไปทำร้ายใคร แต่ออกมา ทำความเรียบร้อย แสดงความสงบ งดงาม     

            อุดมคติการเมือง ของสันติอโศก คือ สาราณียธรรม ๖ และพุทธจน์ ๘
            คือ เมตตากายกรรม - วจี - มโนกรรม สาธารณโภคี ชุมชนอโศก เป็นสาธารณโภคี ทุกชุมชน แม้ที่นี่ ก็กำลังมีชุมชนดูไป เกิดแล้วที่นี่ ไม่ต้องไปตัดหาง ป.ปลานะ ใช้ภาษาอังกฤษว่า  Go on and see out และก็มีศีลสามัญตา เป็นหลักเกณฑ์ ระเบียบวินัย มาอยู่ที่นี่ เรามีแต่มังสวิรัตินะ ไม่มีอบายมุข มีศีล ๕ เป็นหลักเกณฑ์หลัก ของสังคมนะ และก็มี ทิฏฐิสามัญตา คือทฤษฏีหลัก ตรงกัน สู่ สงบ สันติ เรียบร้อย ง่ายงาม แล้วเมื่อเกิด สาราณียธรรม ๖ เพราะจิตจะมี คุณธรรม ๗ ประการ คือ....

            สาราณียะ คือระลึกถึงกัน ปิยกรณะคือรักกัน คุรุกรณะ คือเคารพกัน สังคหะ คือช่วยเหลือกัน อวิวาทะ คือไม่ทะเลาะกัน สามัคคียะ และสุดท้ายคือ เอกีภาวะ จิตวิญญาณที่มี คุณธรรม ๗

            สาธารณโภคี ยังไม่มีประวัติศาสตร์ ที่เคยบันทึก แต่ว่าประวัติ อจินไตยก็มี แต่ไม่ได้บันทึกไว้ แต่พ่อครูรู้ว่ามี จึงถือว่าเป็นของใหม่ ที่จะเกิดได้ในยุคนี้ ตอนนี้ อโศกเกิดได้แล้ว และถ้าประเทศไทยเกิด จะเหนือชั้นกว่าคอมมูน เพราะคอมมูน เสียภาษี ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าสาธารณโภคี เสียภาษี หนึ่งร้อย เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในคอมมูน เขาให้ เพราะถูกบังคับ จึงไปไม่รอด แต่อันนี้จะไปรอด เพราะจิตได้รับ การลดละกิเลส เข้าใจ ไว้ใจกัน เชื่อมั่นใจกันว่า สาธารณโภคีจริง ไม่มีหลอกลวงซ่อนอะไร หรือ มีกิเลส ก็ยอมรับ และลดละไป อย่างอนาคามี ก็ไม่มีหวงแหนแล้ว

            ชวอร.... มีคนจำนวนหนึ่งเข้าใจว่า สำนักสันติอโศก สนับสนุน เผด็จการทหาร หรือใช้หลักศาสนา เพื่อประโยชน์ทางด้านการเมือง เหมือนสมัยกรณี พระเทพกิตติปัญญาคุณ ท่านสมณะ คิดเกี่ยวกับ การเข้าใจผิดนี้อย่างไร

            พ่อครูว่า.... อันนี้ยืนยันได้ว่า ถ้าใครเข้าใจอย่างนี้ เป็นการเข้าใจผิด ขอยืนยันว่า ศานาพุทธ ให้อิสรเสรีภาพ สูงสุดเลย และมีความเสมอภาคกัน อย่างเท่าเทียมกัน พระพุทธเจ้า อยู่ในยุคโน้น เป็นยุคทาส คนไม่รู้จัก สิทธิมนุษยชนเลย ทาสเหมือน สัตว์เลี้ยง ของนายทาส พระพุทธเจ้า ไม่สามารถทำได้ทั่วไป แต่ว่าท่านทำได้ในกลุ่ม ว่าท่านประกาศธรรมนูญ คือศีลหลักเกณฑ์ ใครต้องการมาปฏิบัติ ก็มาเข้ารีตท่าน ไม่ว่าจะเป็น แคว้นนี้ หรือแคว้นไหน ท่านก็ไปประกาศ ธรรมนูญของท่าน พอมา นับถือแล้ว พระเจ้าแผ่นดิน ก็ยกคนของท่านให้เลย ชาวอโศก เดินตามรอย พระพุทธเจ้า ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย

            ชวอร... เหตุใดประเทศเรา และนักการเมือง จึงขาดธรรมมะ เป็นเรื่องของ ความทุรศีล ส่วนบุคคล หรือเป็นเพราะ ระบบการเมือง กฎหมาย?

            พ่อครูว่า... ต้องขออภัยอย่างมากเลย เพราะธรรมะในพุทธศาสนา เพี้ยนจาก สัมมาทิฏฐิ ของพระพุทธเจ้า เมื่อผู้ที่ดูแล ด้านจริยธรรม ของประเทศ เป็นหนึ่งในสาม สถาบันหลัก ผู้อบรมดูแลธรรมะ รุ่นแล้วรุ่นเล่า เปลี่ยนไป มีมิจฉาทิฏฐิ ต้องขออภัยเลยว่า อย่างนั้นเพี้ยน กราบขออภัย ทางด้านเถรสมาคม กระแสหลักเลย ท่านสอน อย่างท่านเข้าใจ ซึ่งเพี้ยนไปแล้ว อบรมคน ให้ไปเป็น นักการเมือง มันจึงเป็นเช่นนี้ไง พ่อครูเห็นว่าผิด ก็เลยเสนอ สิ่งที่ถูกต้อง พ่อครูมีเจตนา ไม่ได้มาอยากใหญ่ มาอวดรู้ แต่มีเจตนานำเสนอ สิ่งที่ถูกต้อง พ่อครูเคยเป็นภิกษุ ในมหาเถรสมาคม ก็ปฏิบัติ ขัดแย้งกับ มหาเถรสมาคม แล้วทางมหาเถรสมาคม ก็ตัดมือตัดไม้พ่อครู ไม่ให้ทำได้ จนสุดท้าย ก็ต้องแยกมา เป็นนานาสังวาส แล้วก็ทำมา ๔๐ กว่าปี แล้วได้ผลดังนี้ มีสาราณียธรรม พุทธพจน์ดังนี้ จึงเป็นผลจริง จึงเกิดการบริหารแบบนี้ เอาไหมล่ะ แทนที่จะบริหารแบบโน้น เอาไหมล่ะ... ไม่เอา?

            มันเป็นเพราะ เหตุทิฏฐิที่เพี้ยนไป พูดแล้วเหมือน อวดใหญ่โต แต่เป็น สัจจะความจริง ที่ต้องศึกษา พ่อครูไม่มีสิทธิ บังคับใครให้เชื่อ ซึ่งนักการเมืองปัจจุบัน ทุศีลกันมาก โกหกกัน โกงกัน แต่ละวันๆ แล้วก็จะให้ นักการเมืองเหล่านี้ มาออกกฏหมายอีก

            ชวอร...ว่า จะให้ยกตัวอย่างว่า ผิดเพี้ยนอย่างไร

            พ่อครูว่า หลักพระพุทธเจ้า คือไตรสิกขา ศีลคือทฤษฏี ที่ให้ปฏิบัติ อธิศีล - อธิจิต - อธิปัญญา สมาธิของพระพุทธเจ้า ต้องสัมมาทิฏฐิ ปฏิบัติแล้วเป็น สัมมาสมาธิ แต่ถ้ามิจฉาทิฏฐิ ก็มีมิจฉาสมาธิ มิจฉาวิมุติ ก็ไม่ได้ผล เป็นอย่างที่มันเป็น ไม่ได้เป็นไปตาม พระพุทธเจ้า ที่ให้เกิด สาราณียธรรม ๖ พุทธพจน์ ๗ จึงอยู่กันอย่าง ไม่มีเมตตา ห้ำหั่นฆ่าฟันกัน เอารัดเอาเปรียบกัน ไม่เหมือนสังคมเรา อย่างสังคมเล็กๆ ที่เราทำนี่ ใครจะมาช่วยทำกัน มาทำอย่างที่พ่อครูพาทำ จึงได้ผลอย่างนี้ แต่อย่าง ที่ท่านทำมา ผลที่ได้ มันต่างกันไปอย่างไร แล้วเลือกอย่างไร จะเอาอย่างนี้ก็มา จะเอาอย่างโน้น ก็แล้วไป

            ชวอร.... ท่านสมณะคิดว่า หลักการประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง จำเป็นสำหรับ ประเทศของเราหรือไม่ ? เป็นไปได้หรือไม่ หากเราจะปกครอง โดยเผด็จการ ที่มีคุณธรรม และซื่อสัตย์สุจริต? หลักธรรมทาง ศาสนาพุทธอย่างเดียว สามารถปกครองประเทศ ได้หรือไม่?

            พ่อครูว่า... ตอนนี้ประเทศเรา อะไรเป็นหลักธรรม ก็คือความเพี้ยนไปจาก พระพุทธเจ้าแล้ว ขอถามก่อนตอบ ให้คิดสัก ๑๐ วินาทีค่อยตอบ ถามว่า ประเทศไทย ทุกวันนี้ มีคอรัปชั่นไหม.. มี ... ถ้าอย่างนั้น ประเทศไทย ที่สอนกันมา มีหลักธรรมะ แล้วของจริง ที่ปรากฏ มี phenomenol อย่างไร แล้วมันแตกแยกไหม จะให้พ่อครู ทำอย่างไร ถ้าอยากได้หลักธรรม ที่จะไม่แตกแยก ไม่คอรับชั่น ก็คือที่อธิบาย อย่างนี้แหละ ศีล สมาธิ ปัญญา แต่ว่าคำอธิบายต่างกัน ผลก็ได้ต่างกัน ทุกอย่าง เกิดมาแต่เหตุ เพราะเขาเข้าใจศีล สมาธิอย่างนี้ ก็เกิดผลอย่างนี้     

            เช่น สมาธิของทาง มหาเถรสมาคม คือต้องไปนั่งหลับตา ทำสมาธิ เป็นอุปนิสา ปริขาราอย่างนี้ แต่พ่อครูว่า พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนอย่างนี้ พระพุทธเจ้าสอน มรรค ๗ องค์ ให้ทำ แล้วจะเกิด มรรคองค์ที่ ๘ คือ สัมมาสมาธิ ไม่ใช่ไปนั่งหลับตา คือมี สัมมาทิฏฐิ – สังกัปปะ – วาจา – กัมมันตะ – อาชีวะ  มีสติและวิริยะห้อมล้อม สั่งสมเป็น สัมมาสมาธิ จะได้ผล อย่างชาวอโศก ทำให้เกิด สมาธิอย่างลืมตา เขาเข้าใจไม่ได้ แต่พ่อครู ก็ยังโชคดี ที่มีพระไตรปิฏก รับรองอันนี้อยู่ มหาจัตตารีสกสูตร

            พ่อครูพาทำอย่างนี้ จึงได้คนมาทำงาน กับสังคมเช่นนี้ ไม่ใช่ไปนั่งหลับตามืด หนีเข้า ป่าเขาถ้ำ ธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นอาริยะ เป็นโลกุตระ พูดกันได้ อธิบายกันได้ เป็นธรรมะที่รู้จักทุกข์ ตั้งแต่ไปหลงอบายมุข ที่เห็นทุกข์ว่าเป็นสุข ซึ่งเป็นสุขเท็จ แล้วมาหลงกาม หลงโลกธรรม จนกระทั่ง สูงไปถึง รูปภพ อรูปภพอีก
            สุขมันไม่มี สุขเป็นเท็จ เป็นอัลลิกะ พวกเราเข้าใจ จึงมาล้างทุกข์ ล้างสุข มาเป็นชาวโลกุตระ

            ชวอร... หลักธรรมของพุทธอย่างเดียว สามารถปกครองประเทศ ได้หรือไม

            พ่อครูว่า ได้แน่นอนที่สุด ขอให้สัมมาทิฏฐิ การเลือกตั้งตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะเป็นการเลือกตั้ง ที่เหลวเป๋วหมด เราเคยทำโหวตโน คือ ไม่เอาแล้วเลือกตั้ง เรากำลังเสนอ Neo politic ว่ามาชุมนุม มาแสดงสิทธิ ชุมนุมประท้วง เป็น Neo protest แล้วมาต่อให้เป็น ประชาธิปไตยใหม่ Neo politic ทำไมเรียกใหม่ เพราะไม่เคยมี ประชาธิปไตย ในไทยเลย มาตั้งแต่ เปลี่ยนแปลง การปกครอง ๘๐ กว่าปี ที่จริงไม่ใหม่ เป็นของพระพุทธเจ้า ประกาศมา ตั้งแต่สองพันกว่าปีแล้ว ถ้าไทยเราใช้ อย่างพระพุทธเจ้า ก็ใช้ได้แน่นอน

            เป็นเผด็จการ ที่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ทำได้เลย ขอถามอย่างหนึ่ง …. พระพุทธเจ้า เผด็จการไหม? ... คนส่วนใหญ่ตอบว่า ไม่ ...พ่อครูตอบว่าผิด พระพุทธเจ้า นี่ยอดเผด็จการ อะไรเป็นหลักฐานคือ ท่านออกกฎหมายเอง หมดเลย ทั้งศีลและวินัย คือทั้ง Principle law คือ ศีลธรรมนูญ ส่วน Common law คือวินัย

            ท่านบัญญัติแล้ว เปรี๊ยะเลย ไม่มีใครบังอาจแก้ แต่ว่าท่านทำ อย่างมีภูมิธรรม ที่สุดเลย ทุกคนยอม ไม่มีการสงสัย ระแวงเลย แต่ว่ายุคนี้ หาคนอย่าง พระพุทธเจ้า ไม่ได้ หรือหาได้ คนก็ไม่ไว้ใจ และประชาชน ก็ดื้อแสนดื้อ ต่อให้เผด็จการอย่างไร ดีอย่างไร คนก็ไม่ยอม จึงค่อยถ้อยที ถ้อยอาศัย เผด็จการไม่ได้

            ขออภัยที่จะต้องพูด ประเทศไทย เรามีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ไทยเรามี รัฐาธิปัตย์ คือพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นจอมทัพ ทรงใช้อำนาจแทนประชาชน ในรธน. มาตรา ๒ มาตรา ๓ ท่านทรงสุดยอดอดกลั้น พ่อครูว่า ปางนี้ ท่านมาบำเพ็ญ เตมีย์ใบ้ กับพระมหาชนก ท่านมีพระราชอำนาจ รัฐาธิปัตย์ ที่รธน.ยกให้ ส่วนสากล ก็ยอมรับ Supreme law สากลยอมรับ แต่ท่านไม่ถืออำนาจนั้น ท่านไม่ยอมเผด็จการ ซึ่งท่านสามารถทำได้ อย่างสากลเลย แต่ว่าท่านก็ไม่ใช้ อำนาจนั้น นี่คือ สุดยอดผู้บริหาร ที่ไม่เผด็จการ แต่ยังไม่มีผู้รู้ ที่จะออกกฎหมาย หรือบัญญัติ ศีลวินัยเอง แล้วท่าน ก็กำชับว่า อย่าแก้ อย่าเปลี่ยนแปลง อย่าละเมิด ให้นับถืออันนี้ว่า เป็นศาสดา ให้นับถือ ศีล สมาธิ ปัญญา หรือธรรมวินัย เป็นศาสดา ไม่ให้นับถือบุคคล ให้นับถือ ธรรมวินัย เป็นศาสดา เป็นรัฐาธิปัตย์ พระพุทธเจ้า ทำมาแล้ว แต่ยุคนี้ยาก ก็ทำตาม ที่พอเป็นไป
            อย่าง ประเทศที่มี ประชาธิปไตยสองขา คือประชาธิปไตย ที่มีทั้งกายและใจ มีทั้งรูปและนาม มีทั้งบวกและลบ ไม่เอียง จึงเป็นการบริหารปกครอง เป็นการเมืองที่ สมบูรณ์แบบ ถ้าเป็นประชาธิปไตยขาเดียวไม่มีจิตวิญญาณเป็นหลัก จิตวิญญาณนั้น ลึกมาก พ่อครูไม่สามารถ มองได้ลึกพอ

            อย่างประชาธิปไตยขาเดียว คือไม่มีกษัตริย์ แต่ถ้าจะมีกษัตริย์ ต้องเป็นกษัตริย์ ที่ดีพอ มีคุณธรรมพอ แต่ถ้าไม่มีคุณธรรม ก็จะมีวิบากมาก แต่ถ้ามีคุณธรรมพอ ก็จะบริหารได้ดีมากเลย แม้แต่ประชาธิปไตย ก็ตาม ถ้าผู้บริหารมีคุณธรรม เป็นประชาธิปไตย ขาเดียวก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ไทยเรา เดี๋ยวก็เปลี่ยนคนๆ อันนี้ไม่สืบทอด จิตวิญญาณ การสืบทอดสะสมประเพณี ทางจิตวิญญาณ เป็นนามธรรมลึกซึ้ง ซับซ้อนมาก ถ้าสามารถทำให้ นามและรูป เป็นไปด้วยดี จะบริหารได้ดีกว่าอีก ยังหวังว่า ไทยเรา เป็นประชาธิปไตยสองขา

            ตอนนี้ ก็ขอพูดสัจธรรมว่า ไทยเราสามารถบริหาร โดยมีพระเจ้าอยู่หัว ที่โลกยอมรับ มากที่สุดในโลกนี้ ไม่ว่าจะกี่ประเทศก็ตาม สิ่งที่ดีที่ประเสริฐ ที่ไทยเรามี ทำไมไม่รักษา ต้องรักษาและสืบทอดให้ดี

            ถ้าประชาชน มีคุณธรรม สามารถช่วยพระมหากษัตริย์ได้ ถ้าประชาชนไทย ไม่มีพระมหากษัตริย์ จะเละกว่านี้อีก ถ้าไม่มีจิตวิญญาณถ่วงไว้ ซึ่งอำนาจรัฐ ในขณะนี้ มีสองขั้ว

            ขั้วหนึ่งคือ จะให้ไปเป็นประชาธิปไตยขาเดียว อีกขั้วหนึ่ง จะให้เป็น ประชาธิปไตยสองขา มีพระมหากษัตริย์ แล้วฝ่ายไหน จะมากกว่ากันจริงๆ ... คนก็ตอบว่า แบบมีพระมหากษัตริย์ ที่จะเอาแบบคนจน เศรษฐกิจพอเพียง แล้วที่ว่า จะให้หกปี คนจนหมดประเทศ นี่ขี้โม้นะ

            ชวอร....ถ้าหากฝูงชนก่อนการเลือกตั้ง ขัดแย้งกับธรรมะ อะไรสำคัญกว่ากัน

            พ่อครูว่า การเลือกตั้งนั้น ก็ใช้ไม่ได้ ธรรมะต้องสำคัญกว่าสิ ตอนนี้ การเลือกตั้ง มันล้มเหลว อย่างมากเลย ไม่ได้ใส่ความนะ เป็นของจริงปรากฏเห็นๆ การเลือกตั้งอย่างนี้ พอทีเถอะ พักไว้ก่อน

            ถ้าสามารถระงับ การเลือกตั้ง แบบที่มันเป็นอยู่นี้ ตอนนี้แพร่ไปถึง อบต.เลย จะระบาด ไปหมดเลย ตั้งแต่บนถึงล่าง แล้วจะรวบอำนาจ เป็นเผด็จการรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล และระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล มันเละยิ่งกว่าโจ๊ก มันใช้ไม่ได้ ถ้าเลือกตั้ง โดยไม่มีประชาชน ที่เข้าใจการเลือกตั้ง จะแย่

            การเลือกตั้ง คือเลือกคนไปทำงาน แทนประชาชน ทุกระดับ ต้องเลือก อย่างบริสุทธิ์ ประเทศอื่นทำสำเร็จ แต่ไทยเรานี่ เลือกตั้งซื้อเสียง เมืองไทยเรา มีขายเสียง คนก็งงว่า มันซื้อขายได้ ขายถูกหรือแพงอย่างไร ประเทศอื่นก็งง ใครจะหาว่า พ่อครูนี่ เป็นนักบวช แล้วมาพูดเรื่อง ประชาธิปไตย การเมืองให้เขาพูดไปเลย พ่อครู จะทำงานการเมือง แก่ประเทศไทย เป็น Neo politic

            มาช่วยกัน แล้วค่อยๆศึกษา ทำไปเรื่อยๆ ให้เป็นประชาธิปไตย ไปเรื่อยๆ ให้เวลา ๑๐ ปีเอาไหม ๕ ปีเอาไหม แล้วปีเดียวเอาไหม? ….เอา

            ชวอร.... ลักษณะรัฐบาลที่ดี ควรจะเป็นรัฐบาลอย่างไร? ปกครองโดย ผู้ปกครอง คนเดียว รัฐสภา? ท่านเห็นอย่างไร หากเราจะเป็นรัฐทางศาสนา แบบประเทศ มุสลิม เช่น ประเทศอิหร่าน ซึ่งอาจจะมีศาลศาสนา ที่มีนักบวช เป็นผู้พิพากษา มีสภาผู้อาวุโส ซึ่งเป็นนักบวช เป็นองค์กร การเมืองใหญ่ ซึ่งสำคัญกว่า นักการเมือง ... ซึ่งพ่อครู ได้ตอบไปแล้ว
            แล้วท่านมีความรู้สึกอย่างไร ต่อระบอบรัฐสภา

            พ่อครูว่า... เรื่องรัฐสภา ถ้าผู้ไปทำงานในสภาฯ พระพุทธเจ้าตรัสไว้เลยว่า ต้องเป็นบัณฑิต สุจริตซื่อสัตย์ ถ้าผู้ไปทำงานไม่ซื่อสัตย์ ไม่เป็นบัณฑิต ก็ไม่ถือว่า เป็นสภาฯ แบบพระพุทธเจ้า บัณฑิตไม่ใช่ว่า เรียนจบที่ไหน แล้วไปโกงกิน อันนี้ไม่ใช่สภาฯ เป็นสะพัง จะเกิดสภาได้ ต้องสอนให้คน รู้จักเลือกคน ไปทำงานในสภา แต่ถ้าประชาชน ยังไม่มีปัญญาเลือก ก็ไม่มีรัฐสภา

            ประเทศหมายถึง รัฐชาติ กับรัฐบาล คนไทยยังแยกไม่ออก คือ รัฐบาล คือ ประชาชน เลือกคนไปทำงาน ไปอนุบาลแทน จะเอาคนไปทั้งหมดไม่ได้ แต่ว่า ไปเข้าใจว่า รัฐบาลคือรัฐชาติ แม้แต่ไปเลือกนายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาลแล้ว มาทำงาน แทนประชาชน ก็นึกว่าเป็น เจ้าของอำนาจ ของรัฐชาติ จึงมีคนคุณธาริต ออกมาบอกว่า นายกฯ ขณะนี้เป็น ประมุขของประเทศ ซึ่งโดนโห่เลย ผู้ทำงานระดับอธิบดี กรมสืบสวน คดีพิเศษ ยังเข้าใจ ประมุขของรัฐบาล และรัฐชาติ ไม่ได้เลย ประเทศก็เอวัง ด้วยประการฉะนี้

            อำนาจของหัวหน้ารัฐบาล กับอำนาจของหัวหน้ารัฐชาติ  ในหลวง มีอำนาจมากกว่า แต่ว่าทุกวันนี้ รัฐบาลเบ่งมากเลย จะเสนออะไร ก็ให้ในหลวงเซ็นมาๆ ไม่เกรงใจเลย ท่านก็แสนที่จะสุดทน เหตุเพราะ ประชาชนไม่เข้าใจ ไม่ต้านกั้นว่า อันนี้ มากไปแล้วนะ นายกฯ ไม่มาช่วยกันประท้วงว่า อย่างนี้เสนอไม่ได้นะ ระคายพระยุคลบาท มาออกมาประท้วง มาทำ Neo politic จะได้ประท้วงว่า ประชาชนนี่ มีอำนาจ มากกว่านายกฯ แต่ว่า นี่ไปปู้ยี้ปู้ยำประเทศ

            ผู้มีปัญญารู้ว่า คุณทำอะไร แล้วมันล้มละลายมากแล้ว ประเทศไทย ถ้าไม่ออกมา กอบกู้ประเทศไทย ก็บรรลัยแน่เลย

            ถ้ารัฐบาลดี ก็บริหารอย่าง ในหลวงตรัส เศรษฐกิจพอเพียง โครงการ พระราชดำรัส สี่พันกว่าโครงการ เขาไม่รู้ แต่ว่าไปสร้าง โครงการบ้าบอ ผลาญประเทศ ทุกวันนี้ ความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง เป็นอย่างไร ก็ไม่รู้ สนองพระราชดำริไม่ได้ ยิ่งท่านตรัสว่า ต้องมาจน มาเอาแบบคนจน ยิ่งไม่รู้เรื่อง หูหนวกตาบอด ฟังไม่รู้เรื่อง ท่านก็บอกว่า แบบคนจน ก็ไม่เข้าใจ เศรษฐกิจพอเพียง ก็ไม่เข้าใจ ท่านก็เลยบอกว่า our loss is our gain แล้วอยู่ได้ไหม ชาวอโศก มาพิสูจน์ว่าได้ เริ่ม ๑ ก.ย.นี้ จะเริ่มทำ ตลาดอาริยะ ขายสินค้าขาดทุน ตามในหลวง แล้วสองอาทิตย์ทำที เราไม่ได้ทำ เพราะอยากดัง แต่เราทำ เพราะเรารู้ว่า เราทำแล้วก้าวหน้า

            ชวอร ว่า... ลักษณะรัฐบาลที่ดี ควรจะเป็นรัฐบาลอย่างไร? ปกครองโดย ผู้ปกครองคนเดียว รัฐสภา? ท่านเห็นอย่างไร หากเราจะเป็น รัฐทางศาสนา แบบประเทศ มุสลิม เช่น ประเทศอิหร่าน ซึ่งอาจจะมีศาลศาสนา ที่มีนักบวช เป็นผู้พิพากษา มีสภาผู้อาวุโส ซึ่งเป็นนักบวช เป็นองค์กรการเมืองใหญ่ ซึ่งสำคัญกว่า นักการเมือง

            พ่อครูว่า.. ถ้าเป็นนักบวชแท้ ไม่ต้องการอำนาจ ทำงานรับใช้ มวลมนุษยชาติ อันนี้มันสูงสุด ของพุทธ ส่วนของมุสลิม มันก็จำเป็นเห็นใจ อย่างมุสลิม ถ้าทำได้ ก็เป็น วิธีการทางโลก ที่ใช้ได้ แต่บังคับ ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์สุด เราเป็นพุทธ ก็ทำตามแบบพุทธ เราไม่เอาทางศาสนา ไปรับตำแหน่ง ซึ่งศาสนาพุทธนั้น อย่างฑิเบต ทะลัยลามะ เป็นประมุขศาสนา และเป็นประมุขประเทศด้วย มันก็เป็นไปได้ แต่ถ้า อย่างสังคมที่กว้างมาก พลเมืองหลายสิบล้าน ร้อยล้านก็ยาก เพราะประชาชน มีกิเลส คนมีกิเลสมาก มีมากกว่า คนมีกิเลสน้อย พระก็บริหารไม่ได้ เพราะกฎระเบียบพระ ทำรุนแรงไม่ได้ การบริหารที่ซับซ้อน ต้องมีทรัพย์ไว้ทำงาน ส่วนแบบพระพุทธเจ้า ไม่มีทรัพย์ ไม่เบ่งอำนาจเลย แต่มีคุณงามความดี รับใช้ประชาชน ตนเองไม่เอาอำนาจเลย ไม่เสพเลย สุดยอดมนุษย์แล้ว คนจะนับถือเอง ยอมเอง คนที่เขายกให้ ผู้นี้มีอำนาจ บริหารได้ สั่งการได้ จึงเป็นอิสร เสรีภาพสูงสุด

            เมืองไทยเราเป็นพุทธ เมื่อใกล้กลียุคแล้ว เมืองไทยควรมีลักษณะ พุทธแท้ปรากฎ แม้จะเล็กน้อย แต่ถ้าได้ในไทย ก็ยังดี  พ่อครูก็พยายาม พากเพียร อยู่ไปถึง ๑๕๑ ปี แต่ว่า ไม่ล่อหลอก ซื่อสัตย์ เสนอไปซื่อๆนี่แหละ ใครเอาก็เอา น้ำไหลไปหาน้ำ น้ำมัน ไหลไปหาน้ำมัน

            ชวอร.. .สรุปว่า พระสงฆ์ควรมีส่วนร่วมการเมืองการปกครอง แต่ไม่รับตำแหน่ง

            พ่อครูว่า ต้องใช้ภาษาดีๆ เราไม่ได้มายุ่งการเมือง แต่เรามาอธิบาย การเมืองที่ดี แล้วให้ไปทำ การเมืองให้ดี เราไม่เล่นการเมือง แต่ร่วมกับการเมือง ถ้ามีคุณธรรม ตามหลัก พระพุทธเจ้าแล้ว เป็นประชาธิปไตยเอง ถ้าเป็นอาริยธรรม จะไม่เห็นแก่ตัว แล้วจะเห็นแก่ผู้อื่น

            ชวอร ว่า... การเมืองเป็นเรื่องทางโลก สมควรหรือไม่ ที่พระจะเข้าไป มีส่วนร่วม โดยเฉพาะ ช่วงภาวะวิกฤติ ของประเทศ

            พ่อครูว่า การเมืองเป็นเรื่องของบ้านเมือง แล้วคุณอยู่ในบ้านเมืองนี้ ก็ต้อง มีส่วนร่วม ยิ่งเป็นพระ ต้องมีส่วนร่วม เพราะกินข้าวชาวบ้าน อาศัยชาวบ้าน เป็น ปรปฏิพัทธา เม ชีวิกา แล้วจะไม่ให้มีส่วนร่วม ได้อย่างไร ยิ่งชาติวิกฤติ ไม่ไหวแล้ว แล้วที่บอกว่า การเมืองเป็นเรื่องทางโลก ไม่ใช่ การเมืองเป็นเรื่องทางธรรม คำว่าโลก คือโลกธรรม การเมืองต้องไปล่าโลกธรรม ให้เขายกยอปอปั้น เละในกามในอัตตา นั่นคือโลก ดังนั้น การเมืองไม่ใช่เรื่องของโลก แต่เป็นเรื่องของธรรม มันเป็นหน้าที่ ด้วยซ้ำไป แต่มันติดยึดโลก ก็แย่งชิงทำร้ายกัน ยิ่งเสพกามเสพอัตตา จัดจ้าน ยิ่งพูดกัน ไม่รู้เรื่องเลย

            ชวอร ว่า... อะไรคือความยุติธรรม ในสายตาของท่าน มันเป็นเรื่องของ กฎแห่งกรรม หรือไม่ ท่านคิดว่า การนิรโทษกรรม เป็นการขัดกับหลักของ กฎแห่งกรรม หรือไม่
            พ่อครูว่า... เรื่องของยุติธรรม เป็นกฎแห่งกรรม ถูกต้องแล้ว แต่คนมาละเมิด ความยุติธรรม กฎแห่งกรรมก็ละเมิด ทำผิด ถ้าทำตามกฎแห่งกรรม ก็จะไป อย่างถูกต้อง ก็จะไปได้ดี

            เรื่องกฎแห่งกรรม เป็นเรื่องลึกซึ้ง แต่ว่าถ้าจะออกกฎ เพื่อล้างกฎแห่งกรรม กฎแห่งกรรม มันก็ต้อง ไปตามความถูกต้อง แต่มาละเมิดแล้ว มันจะถูกต้องหรือไม่ มันไม่ใช่กฎแห่งกรรม มันเป็นกฎแห่งกู จะบ้าหรือ ออกกฎแห่งกู เพื่อล้างความผิดให้กู มันจะบ้าหรือ? จะมาออกกฎนิรโทษ มันก็ผิดแล้ว จริงๆแล้ว รธน.หรือกฎหมาย เขาร่วมกันออกมา โดยใช้ปัญญาสุจริต ยุติธรรม ให้ประเทศ เขาทำไว้ดี แต่ว่ามาละเมิด แล้วมาออกกฎใหม่ ล้างความผิดอีก ก็ยิ่งมีความผิดซ้ำ ฝังในกฎแห่งกรรม ตกนรก หมกไหม้ ไปอีกนาน ซึ่งชาตินี้ คุณอาจทำได้ แต่คุณยิ่งมีความผิด ซับซ้อน ในสัจธรรม กฎแห่งกรรม นรกยิ่งลึกกว่านั้นอีก นี่คือสัจธรรม

            ขอเถอะ สำนึกเถอะ อย่าดันทุรังเลย ที่จะออกกฎ ล้างความผิด มันยิ่งสะสม นรกจริง คุณอาจได้ ในตอนนี้ใช้อำนาจ แต่มันผิด ขัดกับกฎแห่งกรรม หรือแม้แต่ กฏหมาย รธน. ที่เขาพยายามคิดไว้ดีแล้ว ก็มาล้างสิ่งที่ดีนี้อีก มันจะสร้างอำนาจ บาตรใหญ่ ไปถึงไหนกัน

            พ่อครูว่า อย่าไปช่วยกันสร้างความผิดเลย มันสร้างนรก ให้แก่ตัวเอง เขาอยาก นิรโทษ ก็ให้เขาทำไป ไปร่วมกับเขาทำไม อยากได้นรกกันนักหรือ คนไม่เข้าใจ ก็ปล่อยไป เขาก็อวิชชา

            สรุปคือ เรื่องกฎแห่งกรรม เป็นความยุติธรรมแท้ แต่อาจไม่ทันใจ ไม่ออกผล ทันที เขาก็ยิ่งทำผิด ซ้ำซ้อน ออกกฎใหม่มาล้าง ก็ได้นรกซ้ำได้อีก

            ชวอร ว่า... ท่านคิดว่าการดำเนินการ ตามกฎหมาย และการนิรโทษกรรม ต่อผู้ประท้วง อย่างไรจะดี และถูกต้องกว่ากัน

            พ่อครูว่า... กฎหมายนี่คือ หลักเกณฑ์ ที่เขาใช้ปัญญาอย่างยิ่ง กลั่นกรองมา แล้วก็มาใช้กัน ส่วนการแก้กฎหมาย ที่ทำกันด้วย อำนาจบาตรใหญ่ ขี้โกง มายกเลิกผิด ที่มันผิดแล้ว ผิดไม่ยอมรับผิดนี่ อย่างนี้ ผู้ที่ทำผิด แล้วช่วยกันทำ ส่งเสริมกันทำผิด เอาคนนี้ ให้มีอำนาจ แล้วก็ทำชั่วซับซ้อน ไปช่วยชุมนุมกัน เอากฎหมู่ มาสร้างกฎหมาย มันจะเป็น สิ่งที่ถูกต้อง ได้อย่างไร

            คุณไปส่งเสริม คนทำผิด แล้วก็ไปช่วยสร้างอำนาจ เอากฎหมู่ มาแก้กฎหมาย เอามาล้างผิดให้กู พูดกับพวก หน้ามืดตาบอด มาปู้ยี้ปู้ยำประเทศ แล้วคนตาดี คนดี ไม่ออกมาร่วมกัน ช่วยชาติหรือ ถามจริงๆว่า ตอนนี้ มีการละเมิดกฎหมายกันบ้าง ... แล้วมันจะไป อย่างไรกันนี่ การที่จะมานิรโทษกรรม ให้ผู้ประท้วง มันละเมิดกฎหมาย นี่มันอย่างไรกัน เราไม่ใช่ม็อบ เราเป็นโพรเทส

จบ

 

 
๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่สวนลุมพินี กทม.