561120_รายการสงครามสังคมฯ โดยพ่อครูฯ และอ.ปราโมทย์ นาครทรรพ

เรื่อง ประชาธิปไตยต้องมีจิตวิญญาณ

        พ่อครูดำเนินรายการ... การก้าวก็ได้ก้าวมาเรื่อยๆ เป็นการก้าวหน้า มาตามลำดับ ใครจะเห็นว่าการก้าวหน้า มีหรือไม่มี หรือถอยหลังก็แล้วแต่ แต่อาตมาเห็นว่า ตั้งแต่เริ่มออกมา แต่ปี ๔๙ มาจนบัดนี้ เห็นผลชัดเจน แม้วันนี้ ทางตุลาการภิวัฒน์ ก็ตัดสินออกมา เป็นการตัดสิน ให้เกิดผลต่อ การต่อสู้ทางการเมือง ที่งดงามมาก

        ขอถามพวกเรานิดหนึ่งว่า... แต่ก่อนนี้เวลาออกมา เกิดการหวาดหวั่น ไม่ค่อยสบายใจ กับครั้งนี้ คราวไหน มันมากกว่ากัน... ส่วนใหญ่ตอบว่า คราวก่อนๆ ซึ่งคราวนี้ ก็ราบรื่น สบายใจ ที่สำคัญ เกิดความเข้าใจ ปัญญา ถ้ายิ่งผู้ปฏิบัติธรรม ก็จะเห็น จิตวิญญาณเราเจริญ แล้วผู้ใดเห็นบ้าง... อาตมาคุ้มแสนคุ้ม รายได้ของ การปฏิบัติธรรมนี้ ราคาแสนแพง เพราะธรรมะเป็นอุปสงค์ ที่หายาก และต้องการมาก ในสังคม ใครผลิตได้ก็รวยเละ เป็นเศรษฐศาสตร์ทางธรรม

        แม้แต่การเมืองอันงดงาม ก็เกิดขึ้น ซึ่งหายากเช่นกันในโลก การปฏิวัติแบบนี้ เป็น A Best Model จริงๆ เป็นตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นจริง เป็นโมเดลล่าสุดของโลก ขณะนี้

        การต่อสู้ให้เกิดผลปฏิวัติ หรือปฏิรูป ซึ่งปฏิวัติก็เกิดเร็ว เห็นผลไว แต่ปฏิรูปนั้น ค่อยเป็นค่อยไป ปฏิวัติต้องใช้พลัง ในการเปลี่ยนแปลง แล้วพฤติกรรมการเมืองไทยนี้ เป็นพลังมหาประชาชนไทย ที่สวยงามมาก คือ มี คุณภาพที่สงบเรียบร้อย ไม่ใช้อาวุธ เป็นประชาธิปไตยผู้ดีจริงๆ และมีความจริง ความรู้ มายืนยันว่า ใครจะได้แต้ม ถ้าบริบูรณ์ เจริญแล้วจะน็อค แต่งานนี้ คงน็อคยาก ที่จริงมวยเก็บคะแนน เป็นศิลปะ ฝีมือแท้ ส่วนมวยน็อค อย่างไมค์ไทสัน หรือเจ้าแสบ ใช้พลังอำนาจ ห้ำหั่นกัน อาศัยจังหวะ น้ำหนักเรี่ยวแรง แต่ไม่สวยเท่าศิลปะปัญญา ในการชนะคะแนน เหมือนโผน กิ่งเพชร เป็นต้น ยิ่งรุ่นแรกๆ เจริญ ทรงกิจรักษ์​ ดังมาก เป็นแชมป์ของไทย รุ่นแรกๆ

        ศึกษาให้ดี จะเห็นผลดี ที่เราทำนี้ เป็นสภาพใหม่ล้ำยุค จนคนเข้าถึง ไม่ค่อยได้ คราวนี้เราชนะแล้ว ถ้าคณะรัฐบาลนี้เป็นผู้ดี ก็จะเรียบร้อย เป็นที่อื่น ลาออกไปแล้ว ตอนนี้ ต้องอาศัย ตุลาการที่ทำได้งดงาม ไม่ทำรุนแรง ทำให้เกิดภาวะ ที่สวยงาม เป็นจังหวะก้าว ต้อง ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป อย่าใจร้อน เราเข้าใจแล้วว่า ต้องไขความจริง ต่อไป เราชนะกันด้วยความจริง ความถูกต้อง ระดับอาริยชนด้วย ไม่ใช่เล่ห์เหลี่ยม เรี่ยวแรง แต่อย่างใด

        อย่างที่เราประกาศ ประชาชนปฏิวัติ​ มันล้ำยุคเกิน เขาว่ามาทำเล่นอะไร เขาก้าวข้ามไม่พ้น วงวัฏฏะที่ว่า การชุมนุมประท้วง ที่มาล้มรัฐบาล มันต้องอาศัย คณะทหาร รถถังมากดดัน มาจับนายกฯ คนสำคัญต่างๆ อันนั้นมันเก่า ตกยุคแล้ว เราก้าวข้ามพ้นไปแล้ว คนที่มองเราทำงาน แม้ครั้งนี้เสร็จ เรากลับไป เราก็เก็บ คะแนนแย็บ ไว้เยอะแล้ว เขาอาจมองว่า เราแพ้ ที่จริงตอน เสธ.อ้ายก็ว่า ไม่แรงเท่าปี ๕๑ ​ที่ตายไปหลายราย ตอนน้องโบว์ตาย เขาจะมาจัดการเรา ตอน ๒๔ พ.ย. ๕๕ มันก็ก้าวหน้า มาแล้ว พัฒนามา จากนั้น เราไปข้างทำเนียบ พล.อ.ปรีชา พาออกอีก มันก็ก้าวหน้าอีกขั้น มาอีกครั้งนี้ เรายึดราชดำเนิน เป็นทิว ก็เรียบร้อย ตำรวจ ก็ไม่มากันพรึ่บ เหมือนเดิม เป็นสิ่งซับซ้อน ลึกซึ้ง เราทำตามนิติรัฐ นิติธรรมสากล เป็นการประชาชนปฏิวัติ ที่ใหม่ล้ำยุค ไม่ได้โกรธเคือง คนที่บอกว่า เราตกยุค หลงยุค แต่อาตมาว่า เราล้ำยุค

        แม้ครั้งนี้ ไม่สำเร็จเด็ดขาด สำฤทธิ์ผลเด็ดขาด แต่ว่าการเมืองไทย ก็พัฒนาขึ้นบ้าง ก็ใช้ได้ แล้วเจริญขึ้น แทนที่จะเสื่อม แต่ก็มีรุนแรงอยู่ ลักหลับ พรัฐบาลเงินกู้ ๒.๒ล้านๆ ตอนตีสอง เมื่อคืน แล้วจะจบอย่างไร ก็ต้องดูไป

        มีคอลัมน์ ถูกทุกข้อ เขียนมา ซึ่งอาตมานำมาบางตอนว่า....

ม็อบราชดำเนิน จากคุณ นิทัศน์ บุญทัน
เรียน คุณอัตถ์ฯ ที่นับถือ
กลุ่มมวลชน ไม่ว่าจะที่ สะพานผ่านฟ้าลีลาศ หรือที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ มียุทธวิธี โดยแกนนำ ได้ออกแบบปฏิรูป มีธงไว้เรียบร้อยแล้ว และทำรูปแบบนั้น มาโฆษณาชวนเชื่อ ชี้นำ ให้มวลชน ปฏิบัติตาม เช่น ไม่เอานักการเมือง  ไม่มีรัฐสภา ไม่มีการเลือกตั้ง ชี้ให้มวลชน เกลียดกลัว ระบบเลือกตั้ง ตั้งข้อรังเกียจ นักการเมือง ชั่วช้าเลวทราม เหมารวมไปหมด หากมวลชนใด มาอยู่ในกลุ่มนี้ จะต้องมีแนวคิด ในกรอบนี้ ทั้งหมด ทั้งมวลเหล่านี้ ค่อนข้างจะกำจัด สิทธิเสรีภาพมวลชน ที่มาร่วมชุมนุม มากเกินไป การนำมวลชน โดยใช้รูปแบบ เอาความคิด แนวปฏิบัติของบุคคล เพียงคนคนเดียว หรือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด มาใช้กับมวลชน จำนวนมากๆ มักจะประสบกับ ความล้มเหลว เช่น ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ เสื้อแดงตาม จนเกิดความวุ่นวาย อยู่ขณะนี้ หรือเณรคำ หรือ อดีตพระยันตระ อดีตพระนิกร เป็นต้น

        ถ้าหากจะให้มวลชน มาร่วมชุมนุมมากๆ เราต้องสร้างทางให้เขา แล้วให้เขา เดินนำหน้า จะเดินไปสู่ความสำเร็จ หรือล้มเหลว นั่นเป็นมติมหาชน เป็นหนทาง มวลมหาชน ตัดสินใจ ได้ด้วยตนเอง อย่ามองมวลชน เป็นฝูงสัตว์เลี้ยง ที่จะต้อน เข้าคอกง่ายๆ แกนนำที่มักจะเอา ความคิดของตน ไปโฆษณาชวนเชื่อ ชี้นำมวลชน มักจะหลงตัวเอง ทำตนเป็นศาสดา เป็นผู้นำจิตวิญญาณ ทำตนเป็นพระโพธิสัตว์บ้าง มวลชนที่ลุ่มหลงงมงาย แกนนำเหล่านี้ จะขาดวิจารณญาณ ขาดเหตุผล เช่น มวลขี้ข้า ทักษิณ บริวารของผู้นำ ที่พูดบ่อยๆ ว่า นักการเมือง เป็นสัตว์นรก แกนนำเหล่านี้ มวลชนที่ฉลาดรู้ทัน ยึดถือความถูกต้อง จึงไม่ยอมเดินตามง่ายๆ พวกเขารู้ว่า กลุ่มมวลชน กลุ่มใด เป็นบริวารของแกนนำ ผู้นำที่ทำตัว เป็นศาสดา เป็นผู้นำจิตวิญญาณ ทำตนเป็น ผู้วิเศษ ฉะนั้น การจะไปชุมนุม เพื่อไล่ระบอบทักษินให้สิ้นแผ่นดินไทย ควรจะไป ที่จุดไหน จึงจะได้ประโยชน์

        ฉะนั้น ทุกกลุ่มมีความตั้งใจดี ที่จะช่วยกันล้ม ระบอบทักษิณ เพียงแต่อย่าชี้นำ ให้มวลชนเดินตามเส้น ที่ตนเองตีกรอบไว้ ซึ่งไม่แน่ ใจว่า จะเป็นผลประโยชน์ แก่ตนเอง หรือคณะใด คณะหนึ่ง เมื่อผลสำ เร็จนั้นมาถึง เราร่วมกันกำจัด เผด็จการ ทางรัฐสภา ของยิ่งลักษณ์แล้ว ไม่ควรจะมาเจอกับ เผด็จการทางความคิด ของท่านอีกเลย.

        นิทัศน์  บุญทัน

ใช่แล้วครับ ประเด็นนี้ ยังเป็นปัญหาหนักอก ของประชาชน ที่ไปร่วมชุมนุม มีการสอบถาม กันมาเยอะครับว่า ทำไม ไม่รวมเป็น กลุ่มเดียวกัน เพื่อความเป็นเอกภาพ ในการเคลื่อนไหว ปัญหาเหล่านี้ แกนนำ ผู้ชุมนุมทั้ง ๓ เวทีรู้ดีครับ และผมได้ข่าวมาว่า เขาคุยกันตลอด เพียงแต่การปรับยุทธวิธี ยังต้องอาศัยเวลา อีกสักพัก แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ อะไรครับ ผมมองว่า นี่คือสีสัน ประชาธิปไตย ต่างความเห็น ต่างวิธี แต่จุดหมายเดียวกัน สุดท้าย ก็สามารถคุยกันได้ครับ.

        พ่อครูว่า ยืนยันว่า สามกลุ่มนี้ เป็นสีสันแล้ว มีต่างความเห็น ต่างวิธี แต่จุดหมาย เดียวกัน ถูกต้องแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปพูด จะบอกว่า เป็นยุทธวิธีอันลึกล้ำ ก็เป็นความแตกต่าง แต่ไม่แตกแยก เป้าหมายเดียวกัน โกลด์เดียวกัน ถ้าสมมุติว่า ยิงโกลด์สำเร็จ แล้วใครจะมายกตน ทำตัวใหญ่ เป็นศาสดา อาตมารับรองว่า อาตมา ไม่ต้องการใหญ่เลย แม้คุณปรีชา หรือคุณจำลองก็ตาม ตอนขึ้นมานี้ ก็มีคนยื่นกระดาษ ให้ว่า ขอให้ลุงจำลอง ศรีเมือง เป็นที่ปรึกษา ให้คณะเสนาธิการร่วมฯ อาตมาก็ว่า  ให้ทำตาม พล.อ.ปรีชา ฟังสมณะโพธิรักษ์ ดูพล.ตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นสามเส้า ที่บริบูรณ

        สองเส้าของ พล.อ.ปรีชา กับสมณะโพธิรักษ์ เป็นตัว Over and over คุณปรีชา over ทางกาย สมณะโพธิรักษ์ over ทางใจ แล้วไม่ แล้วเรา overcome ด้วย การไปของเรานี่ To be overcome แล้วไปแพ้นะ ลึกๆแล้ว แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร ในความเป็นกลางนั้น พล.ตรีจำลอง เป็นตัวกลาง มันเป็นความลึกซึ้ง ซับซ้อน

        อาตมาดำเนินตามรอยบาท สมเด็จพระศาสดา อาตมารับรองแทน คุณปรีชา คุณจำลองว่า เราทำเพื่อบ้าน เพื่อเมืองจริงๆ เราไม่ได้ทำเพื่อ ลาภยศสรรเสริญ ไม่ได้ทำ เพื่อล้มล้าง อำนาจใด ไปสร้างพรรคการเมือง เพื่อไปกุมอำนาจ เราก็ไม่ทำ แต่เราทำ เป็นอำนาจโดยธรรม เป็น Authority ซึ่งมันงาม มาถึงวันนี้แล้ว ทำให้การเมืองไทย ลด Force ตลอดเวลา ซึ่งอย่างนั้น มันเก่าแล้ว แต่ยุคนี้ มันใหม่แล้ว ใครจะหาว่า เราหลงตน ก็ไม่ว่า เป็นแต่เพียงว่า จะมีผลแห่ง Authority จนชนะเด็ดขาดหรือไม่ เท่านั้นเอง ถ้าไม่ชนะเด็ดขาด ก็มีการชนะรายทาง มีการก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เราไม่มีแพ้มีชนะ เรามาพัฒนาการเมือง สังคม ประเทศไทยขณะนี้ ขออภัย พูดเหมือนใหญ่ แต่เราทำ ได้เล็กได้น้อย ก็ภูมิใจชื่นใจ เราทำได้ผลนะ

         และที่เหมาว่า เราไปชี้นำมวลชน ให้คิดอย่างนั้น อย่างนี้นั้น มียุทธวิธีโดยแกนนำ ได้ออกแบบปฏิรูป มีธงไว้เรียบร้อยแล้ว และทำรูปแบบนั้น มาโฆษณาชวนเชื่อ ชี้นำ ให้มวลชน ปฏิบัติตาม เช่น ไม่เอานักการเมือง  ไม่มีรัฐสภา ไม่มีการเลือกตั้ง ชี้ให้มวลชน เกลียดกลัว ระบบเลือกตั้ง ตั้งข้อรังเกียจนักการเมือง ชั่วช้าเลวทราม เหมารวมไปหมด หากมวลชนใด มาอยู่ในกลุ่มนี้ จะต้องมีแนวคิด ในกรอบนี้ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ค่อนข้างจะกำจัด สิทธิเสรีภาพมวล ชนที่มาร่วมชุมนุม มากเกินไป

        อาตมาว่า... ที่ทำกันมา ๘๑ ปีนั้น ไปไม่รอดแล้ว เราขอให้พักก่อนได้ไหม กับกลุ่ม ที่ทำอยู่ตอนนี้ ให้หยุดก่อน แล้วให้คณะใหม่มาทำ ไม่ได้หมายถึงแต่ พวกเราไปทำ เขาหาว่าชาวอโศก เป็นเผด็จการ แต่เขาดูเหมือน อาตมาเป็นศูนย์กลาง แต่อาตมา ไม่ได้ทำ อย่างกดดัน แต่มันมีสิ่งซ้อนว่า เราไม่เอา เขายิ่งให้ เราไม่เอา ก็ยิ่งให้มาเพิ่มอีก ก็เลยดูเหมือน เป็นเผด็จการอภิสิทธิ์

        และที่เขาเข้าใจว่า เราจะแช่แข็งเมืองไทยนั้น ที่จริงเราขอให้ หยุดนักการเมือง ที่ทำอยู่ตอนนี้ ไปก่อนต่างหาก สักระยะเวลาหนึ่ง และที่บอกว่า  แต่ว่าเราก็ว่า การเลือกตั้ง ที่ทำตอนนี้ มันไม่สุจริต มีทุจริตมากมาย เป็นการเลือกตั้งที่เลว ขอแช่แข็ง ไว้ก่อนไหม ให้เลิก ตายไปเลยก็ได้ การเลือกตั้งแบบนั้น เราก็รู้ว่า การเลือกตั้งนั้น ก็ต้องมี ต้องมีผู้แทน ไปทำงานแทนประชาชน ที่มีมาก เกินจะไปทำทั้งหมดได้ การที่พูด โดยที่ตีขลุมชี้นำ ให้พวกเราผิดนี่ ให้เขาเข้าใจผิดพวกเรา เราก็ขอแก้ว่า เราไม่ได้เป็น เช่นนั้น เราแช่แข็งนั้น เราก็ไม่ได้ทำตลอดกาล ที่พูดนี้ก็ไม่ตรงนัก อาตมาอาจ สื่อได้ไม่ครบ ไม่เก่งบรรยาย ให้ผู้ฟัง เข้าใจได้ถูก ก็ต้องยอมรับว่า เราเก่งเท่านี้ ก็ขออภัย

        ในประเด็นที่ว่า ... แกนนำที่มักจะเอาความคิดของตน ไปโฆษณาชวนเชื่อ ชี้นำมวลชน มักจะหลงตัวเอง ทำตนเป็นศาสดา เป็นผู้นำจิตวิญญาณ ทำตนเป็น พระโพธิสัตว์บ้าง มวลชนที่ลุ่มหลงงมงาย แกนนำเหล่านี้ จะขาดวิจารณญาณ ขาดเหตุผล เช่น มวลขี้ข้าทักษิณ บริวารของผู้นำ ที่พูดบ่อยๆ ว่า นักการเมือง เป็นสัตว์นรก แกนนำเหล่านี้ มวลชนที่ฉลาดรู้ทัน ยึดถือความถูกต้อง จึงไม่ยอมเดินตามง่ายๆ พวกเขารู้ว่า กลุ่มมวลชนกลุ่มใด เป็นบริวารของ แกนนำผู้นำ ที่ทำตัวเป็นศาสดา เป็นผู้นำ จิตวิญญาณ ทำตนเป็นผู้วิเศษ ฉะนั้น การจะไปชุมนุม เพื่อไล่ระบอบทักษิน ให้สิ้นแผ่นดินไทย ควรจะไปที่จุดไหน จึงจะได้ประโยชน์

        อาตมาว่า เราเคารพเสรีภาพ พูดถึงนานาสังวาส พูดถึงฝั่งแดง กับฝั่งหลากสี ก็มีสองฝั่ง ใครฟังแล้วเป็นธรรมวาที ก็เลือกเอา ก็พูดชัดๆแล้วว่า เราไม่มากดดัน ชี้นำใคร แต่ให้เกียรติ ภูมิปัญญาคน ขออภัยที่ ถ้ามีใครฟังแล้ว เป็นการดูถูก แต่อาตมา ที่จริงเคารพ ความคิดคน ถ้าคุณจะบอกว่า อาตมาชี้นำ ถ้าอาตมา จะเอาความถูกต้องดีงาม เป็นแผนที่ ให้คุณรู้ปริยัติ เพื่อให้ปฏิบัติได้ อาตมาว่า อาตมาไม่ได้ทำเลวนะ อาตมาก็นำ สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน มาสาธยาย พระพุทธเจ้าท่านก็นำ ก็มีแผนที่ นำทางแท้ๆเลย เพราะฉะนั้น จะไม่มีทางให้เดินเลย ไม่มีมรรควิธีเลย ยกตัวอย่าง อาตมาพูดเมื่อวานว่า คนเขาไม่มีทางออกเลย จะทำอย่างไร อาตมาก็บอกว่า เรามีทางออก ทางออกคือ ตุลาการภิวัฒน์ และประชาภิวัฒน์ วันนี้ตุลาการภิวัฒน์ ก็มีการก้าวหน้า แล้ว

        อาตมาว่า ศาลตัดสินวันนี้ ได้ผลดี ที่พวกเราไม่กระเหี้ยน กระหือรือ ถ้าวันนี้ ศาลตัดสิน อย่างไปถึงที่สุด ยกเขาออกไปเลย รวมออกไปเลย จนเกือบ สุญญากาศเลย มันจะเกิด สองนัย พวกเราจะฮึกเหิมเกินไป พวกที่ถูกริดรอน จะแค้นมากด้วย วันนี้อาตมาว่า ศาลทำได้ดีมาก

        ก็ขอบอกคุณนิทัศน์  บุญทัน ว่าอาตมา ก็ไม่สามารถแสดง นัจจะคีตะวาทิตะ ที่จะสร้าง องค์ประกอบ ให้เกิดการสื่อ ให้พวกคุณรู้ อาตมาก็สื่อได้แค่นี้ ขออภัย ที่ทำให้คนดูแล้ว เกิดความรู้สึกเช่นนี้ สำหรับคุณ ก็คงต้องให้อาตมาสอบตก ก็ไม่เป็นไร อาตมา ก็ขออภัยอีกที ยืนยันว่า อาตมาทำได้แค่นี้ ใจจริงอาตมาไม่มี มโนสัญเจตนา ที่จะมาชี้นำเป็นใหญ่เลย อาตมาว่า อาตมาไม่ได้เป็น อย่างที่คุณเข้าใจ ไม่ได้พูด ตลบแตลงเลี่ยง อาตมาจริง ทั้งกาย วาจา ใจ แต่อาตมาก็ต้องสื่อ อย่างปรุง ให้เกิดรสชาติบ้าง มันจำเป็นในการสื่อ ให้เข้าใจบ้าง
       
        อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ....ผมไม่ได้เป็นสาวกของสมณะโพธิรักษ์ ไม่ได้สังกัด สันติอโศก แต่ผมยอมรับ อย่างลึกซึ้งจริงใจ ที่จะให้ท่าน เป็นผู้นำ ทางจิตวิญญาณ ของผมครับ แล้วคิดว่าเมืองไทยต้องมีผู้นำ ทางจิตวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องเป็นสมณะ แต่สมณะ จะนำทางจิตวิญญาณ ได้ดีกว่า และจะมีผลต่อจิตวิญญาณ แล้วเนื่องไปสู่ การเมือง การสังคมด้วย

        มีกลอนเขียนลงในเฟสบุ๊ค อ.ปราโมทย์
อย่าผิดหวัง ฟังศาลรัฐ ธรรมนูญตัด
หากไม่ชัด ไม่ตรง จำนงหมาย
ศาลอาจให้ ก็เมื่อขอ ตรงต่อราย
ศาลกลัวตาย กลัวขู่ ดูไม่มี

แต่ขอบใจ ไอ้ผู้แทน แสนทุเรศ
มันสร้างเหตุ ให้ลงโทษ ได้เต็มที่
ด้วยประกาศ จัดจ้าน เมื่อวานนี้
ศาลจะชี้ อย่างไร มันไม่ฟัง

นี่คือ Obstruction of Justice
เป็นความผิด ถ่วงขู่ ตราชูชั่ง
ประธานา ธิบดี'กัน มันยังพัง
เรื่องนิกสัน ไม่เคยฟัง มั่งหรือไง

ผิดละเมิด อำนาจศาล เพราะด้านดื้อ
แถมลุกฮือ เป็นกบฏ ทำการใหญ่
ทุบทำลาย อำนาจ อธิปไตย
ทำลายพระ นามาภิไธย ที่ศาลชู

หากฟ้องศาล อาญา ตามว่านี้
ควบคดี ศาลรัฐ ธรรมนูญคู่
ก็จะผิด ติดทั้งสอง รีบลองดู
หากจะอยู่ เมืองไทย ต้องในคุก

๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

        วันนี้มีหลายข่าวดี
        ข่าวดีแรก จากศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวดีอันที่สอง คือวันที่ ๕ พระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออก มหาสมาคม ที่วังไกลกังวล แล้วจะมีข่าวดี อีกเยอะเลย ผมมั่นใจว่า พระพลานามัย ของพระองค์ น่าจะดีมาก เพราะการตัดสินใจ ออกมหาสมาคม ก็คงไม่มีใคร ตัดสินใจแทนท่าน และท่านก็ออกประกาศมาก่อนมากเลย ท่านอาจบอกว่า อย่าไปกลัวเลย กับพวกที่อยู่ที่ ราชดำเนิน ให้เขาอยู่ได้ต่อไป รัฐบาลตำรวจ อย่าทำนอกหน้าที่

        การวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ หมายถึงว่า รัฐบาลนี้ มีเวลาทำหน้าที่ น้อยลง ทุกทีแล้ว เวลานี้สุญญากาศ ก็ได้เกิดขึ้น ระรอกแล้วระรอกเล่า จนเกือบ จะสมบูรณ์แล้ว

        มีผู้รู้บอกมาก่อนแล้วว่า เราจะชนะ แต่อาจชนะไม่หมด ในข้อสุดท้าย และก็ ตรงกับใจผม ที่ไม่ต้องการให้ชนะ ถึงยุบพรรค

        คำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ถูกใจผมมากเลยครับ ผมให้ A+ แล้วครับ ผมภาคภูมิใจ แทนบรรพบุรุษศาล คำตัดสินของศาล เมื่อบ่ายวันนี้ ครอบคลุมดีมาก แม้ภาษา ก็เป็นปรัชญา ครอบคลุมถึง สิทธิเสรีภาพปวงชน ครอบคลุมถึง การไม่ให้เอา เสียงข้างมาก มาครอบงำ เสียงข้างน้อย และได้ล่วงไปถึง อำนาจอธิปไตย ไปถึงหลัก รัฐธรรมนูญ สมควรเอาคำตัดสิน ไปให้จาตุรน ฉายแสง ไปทำเป็นตำรา ให้เด็กเรียน

        จากนั้นเป็นการเปิดคลิป สรุปภาพรวม ของการอ่านคำตัดสิน ของศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้

        อ.ปราโมทย์ว่า... ขอเชิญโห่ร้อง และแสดงความยินดี และปรบมือ คารวะศาลด้วย....
        เรื่องสุดท้าย ย้อนขึ้นไปตามลำดับ

        เรื่องศาลไม่ยุบพรรค และไม่ตัดสิทธิ์ ผมชอบมาก... ผมไม่เห็นด้วย กับการยุบพรรคเลย นอกจาก การทำผิดชัดเจน แต่หลักเกณฑ์การเมือง ต้องให้เขาได้มีสิทธิ์ พัฒนาการเมืองขึ้นมา แต่อย่าไปทำผิดกฏหมาย ผมไม่เห็นด้วย กับการยุบพรรค ไม่จำเป็นต้องยุบ เพราะมีโทษร้ายแรงกว่า ที่กำลังวิ่งไล่ล่าคน ๓๑๐ ก็คือ คุกอยู่ตรงหน้า จะออกก็ไม่ได้อีก นี่คือทั้งโขยง ศาลให้มา เกินกว่าที่ขอ มากมาย การที่ศาลวินิจฉัยว่า เอกสารที่ยื่น มีการปลอมแปลง ก็โดนหมด ตั้งแต่ผู้แทนถึงนายกฯ ติดคุกหมดเลย จะฟ้องอีกได้ ดีมากทีเดียว มีประจักษ์พยานทุกอย่าง ในการฟ้อง ซึ่งศาลตัดสินไว้  ให้ทำต่อไปได้เลย เช่นที่ปปช. เป็นต้น

        ถ้านายกฯได้สำนึกผิด ว่าคำตัดสินของ ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ผูกพันทุกองค์กร ก็ควรต้อง สำนึกผิด ไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัย รู้ว่าผิดก็ยอมรับผิด คนก็จะสงสารบ้าง

        มีคนอ้างต่างๆนานาว่า ศาลไม่น่าจะก้าวก่าย นิติบัญญัติ... เช่นดร.อุกฤษ  ดร.โภคิน บ้าง และก็อ้างผิดอ้างถูก เกี่ยวกับอเมริกาบ้าง

        คำตัดสินของศาลนั้น ผูกพันทุกสถาบัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ มีพยานหลักฐาน ที่ยืนยันว่า สืบโยงไปถึง ถ้าศาลสั่งแล้วไป จนกระทั่ง ศาลจ่อตัดสินแล้ว ยังมาข่มขู่ศาลนั้น ก็คือ โทษอุกฤตินะครับ ขอให้ผู้ที่เมตตามาก ก็ไปฟ้องเลยนะครับ ผู้ที่ทำนี้ เมตตามาก

        ต่อไปพวกเขา ก็จะถูกฟ้องร้อง ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ ต่อไปไม่ได้ ทำให้เกิด สุญญากาศ ทางการเมืองต่อไป ไม่เกิดความเลวร้ายซ้ำๆ ต่อไปอีก ขอโทษ นักการเมืองน้ำดี ที่ต้องพลอยฟ้า พลอยฝน เราต้องตัดขาดจากอดีต ให้สำเร็จ ไม่ให้มี ผู้แทนน้ำเน่า นรกจกเปรต ซ่อนอยู่อีก ไม่ได้ว่าพรรคหนึ่งพรรคใด แต่เนื่องจาก ต้นไม้มีพิษ ก็ผลิตผลไม้มีพิษ มาจากรากที่มีพิษ เราต้องถอนราก ถอนโคน เราจะไม่เกี่ยงว่า พรรคเก่าพรรคแก่ใด จะเกิด ถ้ามาร่วมกันโค่น ระบอบทักษิณ ก็อย่า ไปรังเกียจเขา ตอนนี้อย่าถือเขาถือเรา ต้องสามัคคี ให้ประชาชนออกมา ให้มากพอ แม้แต่คนลงคะแนน ให้ปชป. ๒ ล้านคน ในการออกมาครั้งนี้ อยากให้มา ถึงสามล้านคนเลย ทั้งเด็กวัยรุ่นคนชรา ก็ออกมาได้ อย่านึกว่า เป็นการเปลี่ยนขั้ว แต่เราได้ปลิดขั้ว และถอนราก ถอนโคนแล้ว จะเป็นการปฏิวัติ ประเทศไทย ที่แท้จริง การถักทอ ต่อยอด ของการประท้วง ทุกครั้งที่ผ่านมา แม้แต่ตอนพธม. ก็ต้องให้เกียรติเขา แม้ว่าผมประกาศว่า ไม่ไห้เป็นพธม.

        พ่อครูว่า.... เราปฏิวัติอย่างสงบเรียบร้อย ใช้มวลมหาประชาชน เป็นปริมาณ ส่วนคุณภาพ ต้องใช้ตุลาการ ประชาชนออกมาแสดง เสียงประชาชน ในหลวง ก็เป็นประชาชน แต่อยู่ในฐานะหัวหน้าประชาชน ท่านไม่ใช้เผด็จการเลย ท่านเป็นผู้ดี จริงๆ รอให้ประชาชน มาครบเสียก่อน แล้วท่านจะประกาศ เป็นราชประชาสมาสัย จริงๆ ตอนนี้เราใกล้ถึง ความสำเร็จแล้ว เราทำเกือบครบ เป็นทั้ง Minority right จนเป็น Majority right เลย ไม่ใช่แค่ Majority rule ที่เราทำมาแล้วทำอย่างไร จะมีหมู่มวล มหาประชาชน มากพอ เราทำตามกฏหมายอยู่แล้ว ไม่ออกนอก กฏหมายเลย ขอบคุณ ทหาร ตำรวจ ท่านอย่าเอา รถถังออกมา อย่าเอาปืนออกมา ไม่ต้องขู่ด้วย แท่งคอนกรีต เราทำประชาชนปฏิวัติ ที่งดงามกว่า อเมริกาอีก เหลืออีกนิดเดียว จะขึ้นสู่มาตรา ๒ แล้ว เพราะอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ มันขาหักขาเป๋ หมดแล้ว พึ่งศาล ท่านก็ตัดสินดีแล้ว

        เดินต่อสู่มาตรา ๒ คืนอำนาจแก่ในหลวง อย่างสมบูรณ์เลย กำลังเดิน สวยงาม มากเลย …. เหลืออีกนิดเดียว เราทูลเกล้าถวายฏีกา ปฏิวัติถูกต้อง ตามสากล ยังเหลือแต่มวล มหาประชาชน เท่านั้น ทางโน้นก็นัดกัน วันที่ ๒๔ แต่เราไม่ต้องรอ ถึงวันนั้นเลย เราต้องออกมากัน ให้เสร็จก่อนเลย ไม่ต้องไปถึงสิ้นเดือน ถ.ราชดำเนิน เขาก็จะได้ทำอะไรต่อไป จนในหลวง ท่านก็จะออกที่ ไกลกังวล แสดงว่าให้ประชาชน ทำไปเถอะ มันจะมีอะไรต่อมาอีก เราทำประชาชนปฏิวัติ

        ประชาธิปไตย คือประชาชน ออกมาประท้วง ประชาชนเป็น รัฐาธิปัตย์ ในหลวง เป็นประมุข ในมาตรา ๒ ก็ให้กลับคืนสู่ รัฐาธิปัตย์ ตอนนี้มีสองฝ่าย คือฝ่ายทักษิณ กับในหลวง สถาบันบริหาร กับนิติบัญญัติ เป็นของทักษิณ แต่ศาลเป็นของในหลวง เรามาสมทบ ซึ่งอำนาจ ๓ อย่าง ต้องถ่วงดุล แต่ทักษิณกำลังรวบอำนาจ เป็นอันเดียว เป็นประชาธิปไตยขาเดียว ที่ขาดจิตวิญญาณ อย่างอเมริกา ซึ่งเขาเกิดมาไม่นาน แต่อังกฤษเป็น ประชาธิปไตยสองขา ที่อยู่ได้อย่างดีกว่า อเมริกา อเมริกากลวงโบ๋แล้ว “ถ้าไม่ออกมากัน ให้มืดฟ้ามัวดิน ไทยถูกผีร้ายกลืนกิน สิ้นชาติแน่ๆ...

เอวัง

     

 
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่ เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กทม.