561121_สงครามสังคมฯ โดยพ่อท่าน อ.ปราโมทย์ อ.สมศักดิ์

เรื่อง ประชาภิวัฒน์ปฏิวัติปโดยประชาชน

 

        พ่อครูว่า... ขอย้ำสำทับว่า คนที่ปักใจว่า ประชาธิปไตย คือการเลือกตั้งผู้แทน เป็นหลักใหญ่ แต่ที่จริง เป็นเรื่องความจำเป็น ที่ต้องเลือกผู้แทน โดยคำว่าประชาธิปไตย คืออำนาจของประชาชน ผู้แทนที่เลือกเข้าไป กับการจะมาแสดง อำนาจอธิปไตยนั้น คนละอย่างนะ

        การเลือกผู้แทนนั้น มันมีการถ่ายอำนาจ หลายทอด แต่การออก คือการออกมา ยืนยันอำนาจอันดับหนึ่ง ว่าเราจะเปลี่ยน หรือจะเอาอะไร หน้าที่ของประชาชน ในระบอบ ประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่เลือกตั้งผู้แทน แต่เราออกมาแสดง คะแนนเสียง ล้านคนล้านเสียง กองทัพก็ออกมา แต่ไม่ต้องมาทำอะไร มารวมกัน ที่ราชดำเนิน แตกไป จนซอยไหนๆ ก็มาเลย

        ประเทศไหน ก็ทำไม่ได้อย่างเรา ออกมาผลัดกัน ประท้วงแล้ว ประท้วงอีก ศาลออกมา ตัดสินก็แล้ว ยังออกมาไม่ยอมรับ อำนาจศาลอีก อันนี้มันไม่รู้หน้าหนา สักเท่าไหร่แล้ว

        ประเทศไทยนี้ก้าวหน้า ขายหน้าก็ส่วนหนึ่ง ได้หน้าก็ส่วนหนึ่ง เราประท้วงกัน อย่างสงบ เรียบร้อย ง่ายงามมาก แต่เขาก็ส่งคนมา ตีฆ้องร้องป่าว เชียร์อยู่ ก็ขายหน้าอีก

        เราออกมาแสดงเสียงเลือกตั้ง โดยตรงเลย  เราจะมาตั้งอำนาจใหม่ ที่จะมาบริหาร ประเทศ ในช่วงนี้ เป็นฤดูกาล ที่จะมาแสดงเสียงยืนยัน แต่ละท่านที่มีสิทธิ ก็เข้าใจกัน มากขึ้นแล้ว ในวันที่ ๒๔ ก็คงจะออก มากันมากนะ มาแล้วก็แสดงตัวเฉยๆ อย่าเอา ความโกรธแค้นกันออกมา  แต่ออกมา โดยเอาเมตตากัน คนละสองสาม กระบุง คนละปี๊ป คนละเข่งเลย เราต้องสร้าง จิตเมตตาที่เบาดี เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน นี่คือ หน้าที่ของ ประชาชนสำคัญ ให้รวมตัวกันจริงๆ เป็นการแสดงความจริง ของอธิปไตย สำคัญกว่า ไปลงคะแนนเสียง เลือกตั้ง ต้องเห็นความสำคัญอันนี้ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ

        เรามีตุลาการภิวัฒน์ แล้วต้องมีประชาภิวัฒน์ ยุคนี้เราต้องข้ามพ้น ที่ปฏิวัติด้วยรถถัง หรือปืน นั่นมันตกยุคแล้ว เราทำโมเดลใหม่ของโลก มีธรรมเข้ามาผนวก ต่างประเทศ เขาจะมีประชาชนออกมาอย่างเสียเลือดเนื้อ ไม่ว่าประเทศไหน ก็แล้วแต่ ไม่ว่าประเทศไหน ก็เลือกตก ยางออก

        แต่เราทหารตำรวจ ก็ออกมาช่วย ประชาชนได้ แต่ไม่ต้องเอา อาวุธออกมา มาแสดงมวล ตอนที่เรานัดกันแล้ว มาเปลี่ยนแปลงประเทศ จะเรียกปฏิวัติ หรือ รัฐประหารก็ได้ คือการประหาร รัฐบาลเดิม เป็นรัฐบาลใหม่ เป็นสิทธิหน้าที่ ของประชาชน ตามกฏหมายเลย ไม่ใช่กบฏด้วย เพราะเราทำตาม นิติรัฐ นิติธรรมด้วย

        เขาไม่ขอบรัฐบาลนี้ ก็ออกมาแสดงสิ บอกให้เขาเข้าใจให้จำนน พูดกันด้วยดี เราจะสร้าง โมเดลใหม่ล่าสุด เท่าที่รู้มา ที่อิหร่าน โคไมนี่ทำปฏิวัติ โดยใช้ศาสนาอิสลาม ก็มีตีกันบ้าง แต่ก็สำเร็จ ของเรานี่ มากันได้หมดเลย ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลามออกมา เป็นแบบอย่าง ของโลกเลย มาสร้างขนบใหม่ ที่เป็นอันดับต้น ของโลกเลย คนไทย ถ้าฟังเข้าใจ ก็ช่วยกันออกมา เราทำจริงๆ ไม่ดราม่า ออกมาทำความจริง ให้ปรากฏ เป็นประวัติศาสตร์ของโลก ให้มีมีอะไร ด่างพร้อย ไม่มีรุนแรงเลย ให้พูดกันรู้เรื่อง หยุดกันอย่างถูกต้อง นิติรัฐนิติธรรม อย่างสมบูรณ์ราบรื่น พระสยามเทวาธิราช ช่วยลูกด้วยเถิด

        การออกมารวมตัวกันแสดง ประท้วงสดๆ เราทำมาเป็น หลายเดือนแล้ว สามเดือนกว่าแล้ว บางคน ไม่กลับบ้านเลย พวกปักหลัก โดยเฉพาะพวกเรา ชาวอโศก ก็น่าชื่นใจ ต้องขอไล่สรุปลง ที่ว่า

        การพัฒนาการเมือง ต้องใช้ความถูกต้องดีงาม ด้วยตุลาการภิวัฒน์ ต้องใช้กฏหมาย รัฐธรรมนูญ ใครถูก ก็ต้องว่าไป เรียกว่า Rule หรือหลักเกณฑ์ เป็น Majority rule ถ้าทำได้ ถูกต้องตามกฏ ก็ถือว่า ชนะแล้ว และถ้าดู สิทธิมนุษยชน เขายืนยันว่า เขาถูกต้อง แม้มีจำนวนน้อย แม้หนึ่งคน แต่ถูกเขาก็มีสิทธิ์ เขาเข้าใจอย่างนี้จริงๆว่าถูก

        เฉลี่ยคนในสังคมนี้ มีกิเลสมา ส่วนอาริยะ หรือปราชญ์นั้นมีน้อย ต้องอย่าดูถูก ความเห็น ของผู้มีปัญญาจริง ที่มีอยู่ส่วนน้อย และถูกด้วย แต่คนส่วนใหญ่ จะเห็นผิด ดีไม่ดี เป็นกฏหมาย ระหว่างรัฐด้วย เป็น The rule of law แต่คนส่วนน้อยนี้ เขาก็อาจจะถูกต้องกว่าด้วย ประเทศอาริยะ เขาก็ใช้ดุลยพินิจ อย่างจริง

        เรายิ่งใช้ธรรมะมาประกอบด้วย เรามุ่งมั่นตัดกิเลส ไม่มีอคติจริง มวลที่มีธรรมะ มารวมกัน ของประชาชน ก็ยิ่งมี Authority มากกว่าด้วย เป็นพลังโดยธรรม โดยสัจจะ เรื่องความถูกต้อง ตุลาการก็ว่าไป

        ส่วนมวลประชาชน ที่เห็นด้วย ก็ออกมาโหวต เป็น Popular vote เป็น Majority rule และเป็น Majority right ได้อีกยิ่งดี ตุลาการ ท่านก็ทำได้ดีงามแล้ว

        เป็นโอกาสดี มาเลยที่จะแสดง สิ่งสุดยอด ให้ปรากฏในโลก มาช่วยกันบันทึก ประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ที่ดีที่สุดของโลก อาตมาก็หวังเช่นนี้

        มาพูดถึงหลักวิชานิดหนึ่ง.... คุณการุณ ไสยงาม ก็เคยพูดว่า รัฐธรรมนูญทั้งหมด ก็คือ ข้อต้นๆนี่แหละ ที่เป็นหลักใหญ่ ของรัฐธรรมนูญ ในฉบับปี ๒๕๕๐ นี้ก็จะมี ๗ มาตราแรก ที่เป็นหลักเลยนะ
        มาตรา ๑ (รูปแบบรัฐ) ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร อันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ 

        คุณมีหน้าที่รักษาไม่ให้เสีย แม้แต่เซ็นติเมตรเดียว

        มาตรา ๒ (รูปแบบการปกครอง) ประเทศไทยมีการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 

        ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ โดยมีกษัตริย์ ทรงเป็นหัวหน้า ทุกวันนี้ ไทยเราก็มีหัวหน้า ที่ปกครองโดยธรรม กษัตริย์ก็เป็นประชาชน อำนาจนี้ สองรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

        มาตรา ๓ (อำนาจอธิปไตย) อำนาจอธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้น ทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญนี้
        การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กร ตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลัก นิติธรรม

        คำว่านิติรัฐ ก็คือ บทรัฐธรรมนูญ ที่ตราบัญญัติไว้ เป็นมาตรา หรือข้อ ส่วนนิติธรรม ก็คือขนบประเพณีจารีต ที่เป็นคุณธรรม ไม่ได้ตราไว้ แต่ละเอียดมาก เกินกว่าจะระบุไว้ ในนิติรัฐ จึงต้องมีทั่ว นิติรัฐและนิติธรรม
       
        มาตรา ๔ (ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค) ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง
       
        เรามีสิทธิที่จะมาชุมนุมประท้วงได้ และต้องได้รับ ความคุ้มครอง จากทหารตำรวจ หรือข้าราชการ แม้แต่ประชาชนด้วยกัน ก็ต้องช่วยกัน

        มาตรา ๕ (ความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย) ประชาชนชาวไทย ไม่ว่าเหล่ากำเนิด เพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครอง แห่งรัฐธรรมนูญนี้ เสมอกัน
        มาตรา ๖ (กฎหมายสูงสุดของประเทศ) รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด ของประเทศ บทบัญญัติใด ของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญนี้ บทบัญญัตินั้น เป็นอันใช้บังคับมิได้

        ก็เป็นบทบัญญัติที่สำทับไว้ ว่าให้ทำอย่างไม่ขัดแย้ง รัฐธรรมนูญ

        มาตรา ๗ (การอุดช่องว่างในรัฐธรรมนูญ) ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้ บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้น ไปตามประเพณี การปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข

        มีผู้แย้งว่า ประชาชนปฏิวัติ ไม่มีในรัฐธรรมนูญ ก็จริงแต่กล่าวถึงได้ อธิบายถึงได้ ในบริบท เกี่ยวโยงถึงได้ ... คือมาตรา ๒ ยืนยันว่า อำนาจให้ประชาชนชาวไทย พิทักษ์รักษา ชาติ ศาสนา กษัตริย์ มาประกาศปฏิวัติ ด้วยสุภาพเรียบร้อย ไม่มีอาวุธ ตำรวจอย่าทำเป็นเบ่งนะ ใครจะเข้าคุกก่อนกัน ตำรวจหรือประชาชน ก็ขอบคุณ ที่ตำรวจไม่ทำอะไรรุนแรงนะนี่ อย่างที่ พล.อ.สนธิ มาปฏิวัตินั้นประชาชน เอาดอกไม้ไปให้ แปลว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ในประเทศเห็นด้วย แม้ทักษิณ ก็หนีไปต่างประเทศ เพราะแกรู้ว่าแกผิด และไปหลอกคนจำนวนหนึ่ง ว่าแกถูก ก็มีจำนวนหนึ่งเชื่อ และมีติ่งตามมาอีก เป็นนิมินีของแก ตอนนี้ เราต้องมาทำ ให้สำเร็จเสร็จสรรพ        

        ตุลาการภิวัฒน์ ก็ทำได้แล้ว ตอนนี้เหลือแต่ ประชาภิวัฒน์ ออกมากันให้มาก เกิดรัฐาธิปัตย์ ครบเลย สองเป็นหนึ่ง

        ตุลาการ อยู่ฝ่ายประชาชน ผู้เลือกแต่งตั้ง คือประชาชน ที่มีกษัตริย์ใช้อำนาจนั้น แทนประชาชน ที่มาปฏิญาณตน ต่อหัวหน้าประชาชน ที่ถ่วงดุลกับคณะบริหาร และนิติบัญญัติ ที่ประชาชนเลือกไป มันต้องมีการ ถ่วงดุลกัน แม้ที่สุด กายกับใจ ก็ต้องมีการ ถ่วงดุลกันเสมอ การเป็นประชาธิปไตย ขาเดียว จะไปไม่รอด

        พฤติกรรมของเรา ที่เป็นของใหม่ ประชาชนปฏิวัติ เราได้ประกาศแล้ว เขาก็ว่า เราเล่นลิเก ทั้งที่เราได้ทำ อย่างแท้ๆ ประกาศกัน ว่าคณะกปท.นะ จะมาโค่นล้ม ระบอบทักษิณนี่ ประกาศเป็นทางการ ก็ทำงานมา เป็นหลายเดือน จนมาถึงวันที่ ๑๑ พ.ย. ๕๖ ก็ถึงเวลาเหมาะสม ก็ประกาศแล้ว ด้วยสงบ ให้หัวหน้า หน่วยองค์กร กำลังต่างๆ ของประเทศ มารายงานตัว เขาก็ว่าตลก หรือตกอยู่ภายใต้อำนาจรัฐบาลเก่าอยู่ เราก็รวมกัน สามกลุ่มนี่ ให้เต็มที่ ให้เกิดเป็นจริงให้ได้

        ไทยเรากำลังมีสิ่งดีเกิดขึ้น เกิดวันที่ ๑๑ เดือน ๑๑ แล้ววันที่ ๑๒ เราก็เดินไป ถวายฏีกา เดินเป็นขบวน อย่างสวยงาม ไปถวายฎีกาเสร็จ ๑๑ นาฬิกา

        ประชาชนตื่นหรือยัง มากันให้มืดฟ้ามัวดิน ครบ Majority rule และ Majority right ด้วย ทางบ้านน่าจะมากกว่าพวกเรา ก็น่าจะเข้าใจได้นะ

        ในหลวงเราเป็น Supreme law เป็นผู้มีฐานะ เป็นความมั่นคงของชาติ ก็จะมาร่วมกับ ประชาชน เป็นราชประชาสมาสัยเลย

        ตอนนี้ประชาชนตื่นรู้ มารวมกัน ทุกอาชีพ ทุกฐานะ วันที่ ๒๔ นี้จะออกมากัน มืดฟ้ามัวดิน ไม่ได้ซื้อ ไม่ได้จ้าง ต่างคนต่างเสียสละมากัน มาก่อนหน่อยก็ได้ เพราะวันจริง รถอาจเต็ม มากันเราเลี้ยงกันได้ ของเวลา แค่สามถึงสี่วัน ประเทศไทย เป็นแบบเก่ามา ๘๑ ปีแล้ว น่าจะเบื่อกันได้แล้ว

        เราตั้งคณะกปท. ว่าจะโค่นระบอบทักษิณ พูดแบบเปิดหน้ากันเลย เรามีสิทธิ ตามมนุษยชน เรามั่นใจว่า เราถูก

        เราทำอย่างถูกนิติรัฐ มีคณะเสนาธิการ มีกองทัพธรรมร่วม และมีพรรค เพื่อฟ้าดิน ที่มีหัวหน้าพรรค กรรมการ เลขาธิการ ทั้งสมาชิกพรรค ก็มาปฏิบัติการ ทำหน้าที่ตาม ม.๗๐ หรือ ๗๑ ตามหน้าที่ประชาชน ถูกตามรัฐธรรมนูญ สิ่งนี้จึงถูกต้อง หมดทุกอย่าง ผูกพันไปถึง ทุกองค์กร บุคคล มีการเชื่อมต่อกัน

        ที่เราทำมานี้งดงามทุกอย่าง ตามนิติรัฐนิติธรรม เอาความถูกต้องดีงาม เป็นที่ตั้ง ทั้งคุณภาพ สมบูรณ์แล้ว เหลือแต่ปริมาณ คือมวลประชาชน ออกมาสร้าง ปรากฎการณ์นี้ ให้สมบูรณ์แบบ นัดวันว.เวลาน.แล้ว ๒๔ พ.ย. ๕๖ ให้มาเป็นพลังของ สยามเทวาธิราชิทธิ์
       
        อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ …..พูดต่อ

        ผมว่าพวกเรา มีภาระกิจทางจิตวิญญาณ และกิจกรรม ที่จะทำให้การปฏิวัติ โดยประชาชน สงบเรียบร้อย ไม่ล่มกลางทาง ประคองให้ดอกไม้ ประชาธิปไตย ได้บานสัก สามหรือสี่ล้านดอก

        เราจะป้องกันกระบวนการ ที่จะทำให้กระบวนการ ประชาธิปไตย สะดุดลง อย่างไร?.... เมื่อชาติต้อง ประสพภัยภิบัติ เฉพาะหน้า ที่จะเกิดได้เพราะ ความคิด ทางการเมือง หรือไม่ก็คือ พวกกำลังป่าเถื่อน ที่จะเกิดอย่างผิดกฏหมาย พวกที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างไม่เป็นธรรม พวกรับเงินต่างประเทศ มาทำ หรือพวกผีบุญ จะมาทำให้ สิทธิเสรีภาพ ของปวงชนหมดไป ก็สามารถให้ฝ่ายบริหาร ใช้อำนาจพิเศษ เช่นประกาศ ภาวะฉุกเฉิน หรือ กฏหมายมั่นคงบ้าง

        ยกตัวอย่าง ที่ไฟไหม้บ้าน ติดต่อลุกลาม ฝ่ายกฏหมาย ก็สามารถไล่เจ้าของบ้าน แล้วเอาระเบิดไปใส่ เพื่อให้รักษาส่วนใหญ่ได้ และที่เหนือกว่า อำนาจพิเศษ ของฝ่ายบริหาร คือ พระมหากษัตริย์ ท่านจะสั่งให้ทำได้ ทั้งที่มีหรือไม่มีกฏหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ ความปลอดภัย ของประชาชน

        แต่ถ้าเรามีผู้บริหาร ที่เป็นคนคุกคามเสรีภาพ ทำให้เรามี ภัยภิบัติเสียเอง หรือ มีการกระทำ ป่าเถื่อน นอกกฏหมายเสียเอง ในยุคที่พี่น้องไม่มีอาวุธ มาชุมนุม อย่างสงบ ก็ได้รับพิษภัย ได้รับแก๊สน้ำตา พี่น้องที่อุดร ก็ถูกรถตำรวจ นำอันธพาล นำมาทำร้าย จนเสียชีวิต เราก็ต้องหาวิธีจัดการ โดยอาศัยพลังของประชาชน รวมกันเป็นหมู่เหล่า ให้มากขึ้นๆ เพื่อให้มีพลัง ในการป้องกัน แล้งอาศัยพลังพิเศษ เราโชคดี ที่มีพระมหากษัตริย์ ที่ทรงธรรม ให้จัดการกับรัฐบาล ที่ป่าเถื่อน

        เล่านิทานประกอบ..เราเคยเห็นไหมว่า รัฐบาลกลัว เขาหาว่า เป็นเผด็จการ ก็เลยปกปักษ์รักษา ประชาธิปไตยไม่ได้ ปล่อยให้เกิด ภัยพิบัติชัดแจ้ง ที่เป็นอันตราย ต่อสังคม รัฐบาลนั้นก็มีมาในไทย กลัวเขาจะว่า เป็นเผด็จการ ก็เลยไม่เป็นประชาธิปไตย และรักษาประชาธิปไตยไม่ได้ จนกระทั่ง ความปลอดภัย ของนายกฯ ก็ยังไม่มี  ที่จริงสามารถประกาศ กฏอัยการศึกได้ เหมือนกับการตัดไฟ ไม่ให้ลามไป เป็นต้น แต่รัฐบาลบางรัฐบาล ก็หน้าบางผิวบาง ผู้ดี ก็เลยปกป้อง บ้านเมืองไม่ได้ ปล่อยให้เขา เผาบ้านเผาเมือง

        และมีรัฐบาลบางรัฐบาล หลอกว่าตนเป็น ประชาธิปไตย แต่ที่จริงเผด็จการ มีผู้สั่งการคนเดียว รวมศูนย์อำนาจ แก่หัวหน้าพรรค อะไรๆ ก็เป็นส่วนกลาง รัฐบาลแบบนั้น ก็อ้างประชาธิปไตย เพื่อทำลาย สิทธิเสรีภาพประชาชน ก็มีประกาศ ภาวะฉุกเฉิน แล้วเกณฑ์ตำรวจ มามากมาย เป็นต้น

        ถ้าหากรัฐบาลนี้ กำลังจะพ่ายแพ้ ถูกกฏหมายรุกไล่ จนจะจนตรอก ไปไหนไม่เป็น แล้วหาก เขาเกิดใช้อำนาจ ในฐานะที่รัฐบา ลควบคุมกระทรวงกลาโหม ควบคุมกองทัพอยู่ กรณีที่รัฐบาล ไปสั่งให้ทหาร ประกาศกฏอัยการศึก สมมุติเฉยๆนะ ถ้าพวกท่าน ที่นั่งอยู่นี่เป็นทหาร จะยอมทำตามรัฐบาลไหม แต่ถ้าท่านเป็นทหาร ที่อยู่ในกองทัพประชาชนล่ะ ควรทำอย่างไร ก็พยายาม ไปชวนคนรู้จัก หรือเพื่อน ที่เป็นทหารว่า อย่าไปทำเลย และบอกชี้ให้รู้ถึง ความไม่ชอบธรรม ของรัฐบาล เพราะรัฐบาล ไม่สามารถจะอ้าง แนวความคิดว่า จะเกิดภัยอันตราย และจะมี ความชอบธรรมอย่างไร ไม่ได้เลย ศาลได้ตัดสิน ตามหลักปรัชญาเลย

        ทำอย่างไร ภายในสองสามวันนี้ รัฐบาลคงจะไม่ขี้ขลาด ถึงขนาดไปบี้ให้ทหาร หรือขอร้องให้ทหาร ออกกฏอัยการศึก ซึ่งผมว่า ไม่น่าจะเกิดนะครับ แม้ว่าจะมีการไป ออดอ้อนทหาร ทหารก็ไม่ควรทำ เพราะดอกไม้ประชาธิปไตย กำลังจะเบ่งบาน เป็นโอกาส ในการเรียนรู้ ประชาธิปไตยที่ดีมาก เป็นโอกาส ในการเรียนรู้ ประชาธิปไตย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เคยเกิดในเมืองไทย แล้วดอกไม้ ประชาธิปไตยนี้ จะเบ่งบาน ทั่วไทย ในไม่ช้า ถ้าหากว่าเราคิดสั้น คิดอ้างว่า มีอยู่ในกฎหมาย ภาวะฉุกเฉิน ที่ประกาศอย่าง ไม่สมควร ก็ขายหน้า ไปทั่วโลก

        ขอให้พี่น้องทั้งหลาย อย่าประมาท เรียกร้องให้ท่าน ผู้ที่แพ้ รู้จักแพ้ เขาอาจไม่ถือคติว่า แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร แต่เขาแพ้ไม่เป็น แล้วเขาก็จะหาวิธี ๑๐๘ เพื่อเอาชนะ เมื่อจนตรอก ก็จะสั่งทหาร มั่นใจว่าทหาร จะมีความกล้าหาญ และ มีความรอบรู้ ทำเป็นไม่ได้ยิน ถึงได้ยิน ก็กล้าปฏิเสธ

        เราต้องทำ ไม่ให้ประเทศเรา สูญเสียสิทธิเสรีภาพ สูญเสียโอกาส ในการฟื้นฟู ประชาธิปไตย เราอย่าประมาท ถ้ามีลูกหลานทหารได้ฟัง ก็ขอฝากความวิตกไว้ แต่เชื่อมั่นว่า กองทัพไทยอยู่ใต้ จอมทัพไทย ขอให้กองทัพไทย ไม่อยู่ภายใต้ กระทรวง กลาโหมนะ

 

        อ.สมศักดิ์ เธียรจรูญกุล....บอกว่า ตุลาการภิวัฒน์ ได้ทำหน้าที่จบแล้ว เหลือแต่ ประชาภิวัฒน์

        พ่อครูสรุป... ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ สวยงามเถอะ เป็นสิ่งที่จะยิ่งใหญ่ มากกว่าวัตถุ มาช่วยกันสร้างสิ่งนี้ ให้เกิดขึ้นเถอะ ถ้าคนไทยทั้งมวล เข้าใจแล้ว ก็มาช่วยกัน เสียสละ สักครั้งหนึ่ง เป็นประวัติศาสตร์ในชีวิต ร่วมกันตรา ประวัติศาสตร์ ๒๔ พ.ย. ๕๖ มาร่วมกัน...

จบ
     

 
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่ เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กทม.