_561222_พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ เทศนาเช้า ก่อนร่วมวันประวัติศาสตร์
ประท้วงอย่าง วิเศษ วิสุทธิ์ วิสิฏฐ์     

 

        วันนี้จะเป็นวันพิเศษ ของประเทศไทย ที่จารึกเอาไว้ ในประวัติศาสตร์ของโลก ทำไมกล่าวเช่นนั้น ก็เพราะว่า เป็นเหตุการณ์ที่ ยังไม่เคยเกิด ในโลกมาก่อน วันนี้ ในปรtเทศไทย เป็นจุดเล็กๆ ในขอบฟ้ากว้างของโลก จะมีเหตุการณ์ ที่ใหม่ และ วิเศษ วิสุทธิ์ วิสิฏฐ์ ทีเดียว

        วิเศษ คือดีมาก วิสุทธิ์ คือถูกต้องสะอาดไม่ผิด วิสิฏฐ์ คือสำเร็จลงได้

        เหตุการณ์วันนี้ เป็นเหตุการณ์ของบ้านเมือง ที่ประกอบด้วยมนุษย์ เรียกว่า งานการเมือง เป็นงานของบ้านของเมือง คำว่าการเมือง เป็นภาษาที่เสีย เพราะมี ความเข้าใจ เพี้ยนไปจากภาษาที่ดี แต่ที่จริง คำว่าการเมือง เป็นคำที่ดี ของพฤติกรรม ของพลเมือง ที่เป็นงานเป็นกิจ ของบ้านเมืองที่ดี แต่เพราะมนุษย์ ที่อยู่ในบ้านเมือง แม้แต่ในไทย ก็พากันทำงานการเมือง ที่เป็นงานสำคัญ บทบาทหลัก ของประเทศ แต่เสร็จแล้ว ก็ทำให้เกิดสภาพ ที่ทำให้ภาษาคำว่า การเมืองนี้ ดีหรือเสียหาย เลวร้าย เช่นในประเทศไทย

        ได้มีพฤติกรรมการเมือง มาเรื่อยๆ ซึ่งไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกอย่าง เหตุการณ์บ้านเมือง ก็เช่นนั้น ไม่เที่ยง แล้วมาสู่ทุกข์​

        ทุกข์นี้เป็นอาริยะ พระพุทธเจ้า ให้เรียนรู้อันนี้ อ่านให้ได้ แล้วช่วยกัน ทำให้เกิด อาริยะ แม้ไทยเป็นพุทธ ๙๕ % มีทฤษฏีพุทธอยู่ แต่ก็ไม่สามารถ ต้านความเสื่อม เอาเหตุการณ์ การเมือง มาวัดค่าก็เสื่อม เพราะผู้ที่ได้นำพา ทำการเมือง ที่เรียกว่า นักกฏหมาย ตัวนักกฏหมาย ได้แสดงพฤติกรรมเลวร้าย ผลของการเมือง จึงเลวร้าย คำว่า การเมือง จึงเสียหายไปด้วย ภาษาก็พลอย ตกต่ำไปด้วย ทั้งที่ภาษา เป็นคำดี

        เราผู้เป็นลูกพระพุทธเจ้า มาดูสัจจะ ว่าเลวร้าย ไม่ใช่อาริยะ เราต้องพัฒนา สู่ความประเสริฐ อาตมา มาบรรยาย ตอนเช้านี้ เป็นพิเศษ ก็น่าจะได้พูด สู่มวลประชาชน ที่จะได้มาช่วย พัฒนาการเมือง

        ประเด็นสำคัญ ที่จะได้รับรู้ คือ เหตุการณ์วิเศษ ที่จะเป็นต้นแบบ การเมืองเลยที่เดียว กล่าวได้ ไม่ผิดหรอก เพราะมีการแสดงออก เป็นพฤติกรรมสังคม ในประเทศชาติ มีเหตุปัจจัยตามจริง ไม่ได้ต่างจากคำสอน พระพุทธเจ้าเลย

        คลื่นของกระแสความตื่นตัวในโลก โดยเฉพาะในไทย ที่เกิดจริง ก็ขอแสดงความเห็น อย่างหนึ่ง ก็ขอกล่าวตำหนิ สื่อสารมวลชน ที่อคติมาก สื่อสารมวลชนหลักๆ ที่เป็นตัว สื่อสาร ก็มีอคติ ทำให้การเจริญช้า หรือเจริญไม่ได้ เพราะสื่อสาร มีอิทธิพลมาก มีน้ำหนัก ที่จะทำให้สังคม เสื่อมหรือเจริญ

        สื่อสารมวลชนหลักๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์ ทีมีผลเร็วแรง กว่านสพ. หรือวิทยุ ที่ว่าอคติ คือ อาตมาสงสัยนะ อาตมาอยู่ในกระแส สื่อสารมวลชนมา ตั้งแต่อายุไม่มาก มาบวชก็มาทำ สถานีโทรทัศน์ ก็เข้าใจว่า สื่อสารมีผลต่อสังคม ขนาดไหน และจะสื่อสาร เพื่อสาระ หรือเพื่อมอมเมา จะสื่อเพื่อเป็นประโยชน์ ต่อมนุษยชาติ หรือมอมเมา

        ที่ตำหนิ เพราะเหตุการณ์สังคม เกิดคลื่นแรงขนาดนี้ แต่ผู้ทำหน้าที่สื่อสาร ไม่เอาใจใส่ ไม่ถือเป็นข่าว ไม่ทำข่าวเรื่องนี้ นี่คืออคติ ถือว่าเป็นกบฏ ต่อสื่อสารมวลชน จะเป็นเหตุอะไรนั้น เจ้าตัวเขารู้ดีว่า ทำไม ไม่ออกข่าวนี้

        อาตมารู้ว่า เหตุการณ์ประชาชนตื่นตัว ออกมาประท้วง ก็น่าจะเป็นข่าว ได้มากกว่า ดาราแย่งผัวเมีย มีความสำคัญ สูงส่งกว่ากัน คนละเรื่องเลย แม้แต่ข่าว ดาราแย่งผัวเมีย ออกข่าวติดกัน ได้เป็นเดือน แต่ข่าวนี้ เขาเจตนาเลยว่า ไม่ทำให้เป็นข่าวเลย

        เกิดมาเป็นคน ทำสิ่งเลวก็เป็นบาป ทำแล้วเป็นกรรม ก็ไม่ได้ด่าว่า แต่ให้สติคน โดยเฉพาะ ผู้ทำสื่อสาร ทำไมเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อตน ต่อสังคมประเทศชาติ ทำไม เราเป็นผู้ฉุด ในสิ่งที่ควรเจริญ

        เขาอาจคิดว่า เหตุการณ์ประท้วงนี้ ทำให้สังคมเสื่อม มีประชาชน ออกมาประท้วง เป็นเรือนล้าน เป็นประชาชนที่ออกมา อย่างซื่อสัตย์สุจริต ไม่ตกในอำนาจทุจริต ครอบงำ มากกว่าการชุมนุม ทางการเมืองอื่น ซึ่งการชุมนุม ทางการเมืองอื่น ที่เคยออกมา อาตมาว่า การชุมนุมที่เกิดในไทย ตอนนี้ เป็นการชุมนุมของ จิตอิสระ ที่ไม่ถูกล่อหลอก ซื้อเสียง หรือบังคับ มีน้อยมาก บริสุทธิ์มากเลย ที่จะออกมาชุมนุมวันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องบริสุทธิ์ วิเศษ มากกว่าครั้งใดๆ

        เมื่อคนของไทยที่จะออกมา เป็นความบริสุทธิ์ มากกว่าครั้งใด ก็เชื่อว่าครั้งนี้ จะมากกว่า ทุกคราว จะมากกว่า ๙ ธ.. ๕๖

        บ้านเมืองไทยทุกข์ร้อน ประชาชนก็มีสิทธิ ออกมาแสดงสิทธิ์ ประท้วง ประเด็นคือ ออกมา เลิกรัฐบาลที่บริหารอยู่ หรือพูดให้ชัดคือ มาล้มรัฐบาล ให้มีรัฐบาลใหม่ มาบริหาร คือการเมือง ที่ทำกันมา ๘๑ ปีนั้น ล้มเหลวแล้ว เราพยายามสร้าง ระบบวิธีใหม่ ให้แก่การเมืองไทย เมื่อมีหมู่กลุ่ม มารวมกันเห็นว่า ควรเปลี่ยนแปลงสักที จะมีหลักเกณฑ์ อย่างไร ที่ควรทำก็ควรทำ แต่เมื่อมีเหตุการณ์ ที่จะเปลี่ยนแปลงใหญ่ จะมีหลักเกณฑ์ใด ก็เกิดจากพฤติกรรมมนุษย์ จะเป็นการบังคับ หรือละมุนละม่อม ไม่บังคับ

        อย่างที่เราประท้วงกันมา ก็ขอชื่นชมว่าดีแล้ว มาถึงวันนี้ ก็ขอภาวนาว่า อย่าให้มีเหตุ ทำให้ด่างพร้อยเลย ให้เรียบร้อย มวลมหาประชาชน มาขนาดนี้ แล้วก็มาพูดกันดีๆด้วย ทำอย่าง ผู้ดีผู้เจริญ แต่เขาก็เถียงกัน อยู่นั่นแหละ ไม่ยอมออก อาจมีเหตุ ไม่เรียบร้อยบ้าง แต่ตัวแกนหลักเลย ที่ทำอยู่ ไม่ได้เกิดตายเลย อันนี้เป็นลักษณะ ที่สวยสดงดงาม เป็นไปได้ ในโลก แกนหลัก ก็ดำเนินไปได้ดีอยู่ ประชาชนเกิดปัญญา เกิดความเข้าใจ รอบรู้ ตื่นตัวในเรื่องการเมือง

        เป็นปรากฏการณ์ใหม่ ของประเทศไทย ที่ยังไม่เคยมีประชาชน ออกมามากขนาดนี้ สิ่งที่ยัง ไม่เคยเกิด ทำให้คนเข้าใจไม่ได้ หรือเดาผิด เช่นเดาว่า มันคงวูบวาบ ไม่ช้านาน คงฝ่อไปเอง ก็เดาได้ แต่อาตมาว่า ถ้าเป็นสิ่งดี สิ่งประเสริฐ ถ้าเขาจับติด แล้วมีหมู่กลุ่ม รวมกันอย่างสำคัญ มันไม่ล้มง่ายหรอก ถ้าสิ่งไม่ดี มันวูบวาบได้ เป็นโรคเห่อ หรือโรคห่า หรือภาษาอังกฤษว่า Fever เกิดพรวดหนึ่ง แล้วก็หาย แต่ที่เกิดนี้เป็นโรค Favor คนตื่นรู้ ตื่นตัว มาทำสิ่งดีงาม

        วันนี้มีคอลัมน์ของ ชัชรินทร์ ชัยวัฒน์ เรื่อง “วันส้นตีนแห่งชาติ” ภาษา ดูเหมือนหยาบ แต่อาตมาว่า เป็นภาษายุค เพราะยุคนี้ ต้องใช้อย่างนี้ ก็ขอให้สติ นิดหนึ่งว่า น่าจะทำ อย่างเรียบร้อย

        เราอยู่ในสังคมเดียวกัน เราก็พยายามพัฒนา กาย วาจา ใจ โดยเฉพาะจิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ สำคัญที่สุด ที่จะทำให้เกิดกาย วาจา จนเป็นองค์รวม เป็นพฤติกรรม ที่มีอำนาจ ต่อสังคม ถ้าระวังใจ ให้มีสิ่งประเสริฐ ตลอดเวลา ก็จะทำให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคม อาจมีมนุษย์ ที่มีจิตวิตถาร ต้องการให้สังคมเสื่อม แต่โดยทั่วไป มนุษย์ก็ปรารถนา ให้สังคม ดีขึ้นทั้งนั้น ให้มีสติ สัมปชัญญะ ปัญญาเสมอ วันนี้ทุกคน ควรสำนึก ควรออกมา ร่วมกันประท้วง

        ผู้ที่เป็นคนตัวเป็นๆ ออกมาแสดงตัว รวมกลุ่ม ในที่ใดๆก็ตาม เป็นหนึ่งคน หนึ่งเสียง ที่ไม่ใช่แค่ ไปเลือกตั้ง ในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑ มาตรา ๒ บอกไว้อย่างชัดเจน ว่าทุกคน มีอำนาจ อธิปไตยของตนเอง

        อ.เสรี วงค์มณฑา ก็เขียนไว้ดี เรื่อง ผิดทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ  ใครจะติดตาม ก็ดูในหนังสือพิมพ์ได้      
 
        เพราะเหตุสะสมความไม่ถูกต้อง จึงเป็นได้อย่างนี้ คนที่ทำนี้ เป็นผู้หญิง มีความอ่อนแอ คือทำไม่แข็งแรง ทั้งสิ่งดี และสิ่งไม่ดี ก็เลยมาทำหน้าที่ หัวหน้า บริหารสังคม ก็เลยล้มเหลวได้เลว ได้ลึก ได้ไกล เป็นอิตถีภาวะ ก็สะสมพฤติกรรมเช่นนี้ เมืองไทย ยังไม่เคยมีนายกฯ เป็นผู้หญิง แต่พอมี ก็มาผสมรวม เป็นอิตถีภาวะ ก็เกิดสภาพ ง่านโด้

        เป็นสภาพที่สุดทนกันแล้ว ไม่สามารถปล่อย ให้เกิดต่อไปได้ ก็ขอส่งเสริม คนไทย ที่ได้รับรู้ เหตุการณ์นี้ น่าจะมาช่วยทำ ให้เกิดพฤติกรรมใหม่ เกิดอำนาจของ มวลมหา ประชาชน แล้วทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย สวยงาม อาจมี บกพร่องบ้าง ต้นไม้ก็ต้อง มีสะเก็ดบ้าง เป็นธรรมดา มันได้ขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว แม้สะเก็ดเสียหาย ก็ทิ้งไปบ้าง แต่เนื้อ และแก่นนั้น สวยงามดีมากเลย

        ผู้ได้รับรู้ข่าวคราว ก็เสียสละซักวัน สละผลได้ แรงงานที่ควรได้ มารวมกัน เพื่อสร้าง เป็นพลัง อธิปไตยเป็นอำนาจ ออกมารวมกัน ๑ คน ๑ เสียง ของอำนาจที่ ๑ แสดงสดๆ เพื่อยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ที่จะมีการเลือกตั้ง ในตอนนี้ ให้กลุ่มใหม่ทำ เพื่อให้เป็นสิ่งใหม่ หากไม่ดี คุณก็ออกมาประท้วงได้ เป็นสิทธิสากล จะผิดถูกก็ตาม ก็อย่าให้รุนแรง ไม่ทำร้ายใคร เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน

        อาตมาเจอเอง มั่นใจว่า เป็นสิ่งถูก แต่ถูกมวลสมาชิก ไม่เห็นด้วย เขาก็ล้มล้าง ความคิดอาตมา แต่พอไปในอนาคต ก็ปรากฏผล ตามที่อาตมา ว่าไว้ก็มี ความคิดของ ผู้ที่ถูกต้อง ดีงามนั้น สังคมล้มล้างได้ แต่ความถูก ก็จะเป็นสิ่งถูก ออกมาประท้วงได้ แต่ไม่รุนแรง ไม่ทำร้ายใคร อาตมาเชื่อว่า คนเรามีปัญญามากกว่า ที่จะมาแสดงเสียง แต่คน ไม่มีปัญญา ก็จะไม่ค่อยออกมา เพราะไม่ได้เงินทอง อาจได้ชื่อเสียง บ้างก็ตาม

        เรากำลังจะเปลี่ยนแปลงปรับปรุง แล้วเปลี่ยนแปลงแน่นอน จะออกมามากมาน้อย แม้ที่สุด รัฐบาลจำนน ยอมทุกอย่าง ที่มวลชนประท้วง เลิกไปเลย นี่คือ ที่พึงประสงค์ แต่แม้ไม่เกิดดังกล่าว อาจได้นิดหน่อย ที่ร้ายแรงคือ มีความรุนแรง รัฐบาลชนะ สามารถบริหารได้อย่างเก่า ที่ได้ทำมา ตั้งแต่ ๒๔๗๕ มาจนปัจจุบัน ก็เป็นประชาธิปไตย แบบไทยๆ ก็ยังทรงสภาพอย่างนั้น ได้พยายามพัฒนา มาได้แค่นี้ อำนาจเก่าที่จะบอกว่า จะแก้ไข ก็เชื่อว่าไม่เปลี่ยนหรอก  ดีไม่ดีจะซับซ้อน ให้คนหลงเชื่อเยอะ โดยเอาอำนาจ ลาภยศสรรเสริญ เป็นประชามติ ให้ประชาชนหลง นึกว่าเขาดี เอากุ้งฝอย ตกปลากระพง แล้วปลากระพงก็ตาย  ปลากระพงก็คือ ประเทศ คือทรัพยากร และความเป็นอยู่ ของไทยเรา

        ระบอบที่เป็นอย่างเก่านี้ ถ้าเขาชนะ ก็จะหลอกลวงซับซ้อน จะยิ่งซุกซ่อน มากกว่าเดิมอีก ประเทศไทย จะถูกปู้ยี่ปู้ยำ มากกว่านี้อีก ไม่อยากให้เกิด แต่คนที่ มีปัญญา ก็จะสั่งสม ที่จะเรียกว่า ความเจ็บแค้น หรือความปราถนาดี ที่ไม่สามารถแก้ไข ความเลวร้ายนี้ได้ ประชาชนที่ต้องการ เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นนี้ เขามีจริง ถ้าเขา ถูกทำให้แพ้ เขาก็จะมีน้ำหนัก อยากให้ปรับเปลี่ยน รุนแรงขึ้น สูงขึ้น ก็จะมีภาวะ การต่อสู้สูงขึ้น เพราะคนตื่นรู้มากขึ้น

        อนาคต เมื่อความอดทนในการต่อสู้กันสุดแล้ว ขีดความอดทน ของคนจำกัด ความดีกับความชั่ว จะดีกัน เขาก็พูดกันว่า ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง เป็นไงเป็นกัน เมื่อต่างคน ต่างประจันกัน ก็ตายเป็นเบือก็ได้ ก็ขอไหว้วอน ผู้ที่มีสำนึกอยู่ มองกลางๆนะ อย่าง อ.เสรี ก็เขียนไว้ว่า พยายามบอกว่า รัฐบาลนี้ มีนโยบาย มากหลาย ที่ใช้ไม่ได้ ทำลายระบบ ตรวจสอบ และครอบงำรัฐสภา มีหลักฐานว่า ได้ทุจริตฉ้อฉล ออกพันธบัตรเงินกู้ ที่ตรวจทุจริตได้ยาก ไม่ยอมรับ อำนาจศาล ข่มขู่อำนาจศาล มีการครอบงำ สื่อมวลชน บริหารไร้ประสิทธิภาพ พยายาม ออกกฏหมาย นิรโทษกรรม ให้คนโกง และอีกมากมาย ถ้าคิดต่อ ก็จะได้มากกว่านี้อีก หลายเท่า

        ก็เพื่อให้รัฐบาลนี้ รู้สึกตัว ละอาย แต่ว่าเขาก็คงไม่ละอาย มีความง่านโด้ อยู่มาก อ.เสรีว่า รัฐบาลนี้ เป็นโมฆะ เพราะได้ปฏิเสธ รัฐธรรมนูญ เรามาประท้วง อย่างสวยงาม ตามสากลเลย ประชาธิปไตยคือประชาชน ออกมาประท้วง ยิ่งมาก ยิ่งต้องเคารพ เป็นสัจธรรม  ผู้ชุมนุม ไม่เคยข่มขู่คุกคาม ใช้แต่ปากหอก ไม่ได้มาล้มล้าง ประชาธิปไตยด้วย แต่ถูกตู่ว่า ถูกบิดเบือนว่า มาล้มล้างประชาธิปไตย ทั้งที่ผู้พูดนี้ ทำอย่างเผด็จการ ตลอดเวลา ก็ไม่รู้ตัว ผู้ชุมนุมไม่ได้ทำ เพื่อใครคนใด หรือว่า ทำเพื่อพรรคใด แต่ทำเพื่อประเทศชาติ ผู้ชุมนุม ทำอย่างโปรงใส ไม่มีการซ่องสุม กำลังอาวุธ มาต่อสู้กับรัฐบาล

        สรุปว่า การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการชุมนุมที่ วิเศษ วิสิทธิ์ วิสุทธิ์ ให้ประชาชน ออกมาช่วยกัน ให้มาก ถ้ามาเป็น ๑๐ ล้านเลย จะเป็นตัวอย่างอันใหม่ ของโลกเลยว่า พลังสงบ ไม่รุนแรง ออกมารวมกัน ๑ คน ๑ เสียง มาเป็น ๑๐ ล้าน เป็นการแสดง ฤทธิ์อำนาจ ของประชาธิปไตย จะดูว่าฤทธิ์นี้ จะทำให้ ความง่านโด้ของเขา ยอมไหม? ถ้าประชาชน ออกมาถึง ๑๐ ล้าน ๒๐ ล้าน ก็จะชนะคะแนนของเขา ที่อ้างว่า ๑๕ ล้าน ซึ่งคนละบริบท ครั้งนี้ ออกมาเลือกไล่นะ ไม่ใช่เลือกตั้งนะ ก็ไม่รู้เรื่องกันซักที ง่านอยู่อย่างนั้น เถียงข้างๆคูๆ

        อำนาจสร้างของอธิปไตย ที่เขาทำนั้น สร้างตัวแทน คุณได้รับมอบ ให้ทำแทนนะ ไม่ใช่ของคุณ เป็นเจ้าของ ทำได้แต่ตามหน้าที่ ตามกรอบ ที่เขาให้ทำนะ แต่ประชาชนนี้ มีสิทธิ์ ออกมาประท้วง แม้เรื่องจะผิดก็ตาม แต่ถ้าถูก คนก็จะเอาตามเอง คนมีปัญญา ก็รู้ว่า นี่ถูกนะ ในเมืองอาริยะ คนก็จะรู้ได้ แต่ถ้าเมืองไม่อาริยะ ก็จุดไม่ติดหรอก ประชาชนไม่เจริญพอ ความคิดดีงาม ที่ปราชญ์เสนอไป ก็ตกไปเอง ฝ่อไปเอง แต่พอเวลา ผ่านไป คนเริ่มมีปัญญาเข้าใจ ก็จะรู้ว่า ที่ปราชญ์บอกนี้ ถูกต้อง ก็ไม่ใช่เรื่อง เสียหาย ไม่ต้องฆ่าแกง กันหรอก ออกมาแสดงความฉลาด หรือความโง่ก็ได้ ไม่ใช่เรื่อง ประหลาดอะไร อย่างตอนนี้ คนผิดเขาก็พยายาม เสนอของเขา ก็มีคนเห็นด้วยบ้าง ประชาธิปไตย ต้องมีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายเสนอ จึงเป็นประชาธิปไตย

        พยายามรวมตัวกันมา ทั่วทิศทาง มารวมกันที่กทม. ​และต่างจังหวัด ก็ควรทำ เวลานี้วันนี้ ก็นัดกันทำ ทุกจุด น่าจะทำร่วมกันได้ เป็นรูปธรรม เป็นสัญญลักษณ์ของ ประชาธิปไตย นี่คือมวลชน ๑ คน ๑ เสียง เป็นล้านคน ล้านเสียง รวมตัวกัน นับมวล ทั่วประเทศ ถ้านับหัวกันได้ คือคะแนนเสียงประชาธิปไตย เรื่องนั้นรู้กัน ทั่วประเทศแล้ว ว่าจะมา ล้มล้างรัฐบาล​ แต่จะมีกลุ่มอื่น จะมาค้านอีกก็ได้ ร่วมกัน แสดงคะแนนเสียง อย่างฝ่ายแดง จะออกมาก็มา แต่อย่ารุนแรง

        สรุปว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ ของประเทศไทย ที่คนไทย จะได้ออกมา ร่วมเป็นตัวจริง ออกมาแสดง ......ปช๖งชอ.....ประเทศชาติ ให้ปรากฏในโลก ใครเห็นควร ก็ออกมา ร่วมแสดงความจริง ให้ปรากฏ ก็เชิญ มาไม่ได้ ก็รวมกันในต่างจังหวัด ผู้ที่เดินทางมาแล้ว ก็ขอขอบคุณอย่างยิ่ง เพื่อสร้างรูปลักษณ์ ของประชาธิปไตย ขึ้นในประเทศ ในโลก ปรากฏ ในมนุษยชาติ มันสวยงามเหลือเกิน เพราะสงบเรียบร้อย รวมผนึกกัน เป็นหมู่มวล มีพฤติกรรมร่วม เท่านี้ไม่ต้องมีอะไรมากเลย ในเรื่องของ ความหมายคุณค่า ก็มีเวลา เท่านี้... พอชี้บอกได้ว่า ความเจริญของคนไทย ที่ตื่นตัวนี้ เป็นสิ่งที่ อาตมาเห็นได้ ในชีวิตว่า ไม่เคยเกิดมาก่อน แล้วก็ตาม ความรู้รอบตัวในโลก ก็ยังไม่เคยเห็น การประท้วง ที่สวยงาม สงบเรียบร้อย อย่างที่เราทำมานี่เลย ….

ขอภาวนา ให้เหตุการณ์ บ้านเมืองไทย ที่กำลังจะเกิดนี้ เป็นไป อย่างเรียบร้อย อย่างวิเศษ วิสิทธิ์ วิสุทธิ์ เถิดเทอญ...

จบ   

 
๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ ที่ เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ กทม.