570125_พ่อครูที่เวทีป้อมมหากาฬ
เรื่อง เรื่องของอำนาจ ๑

 

        คำว่าอำนาจ แปลเป็นภาษาอังกฤษได้หลายคำเช่น power, energy, authority, force , sovereignty=soverein power =supreme =independence =อำนาจใหญ่,อธิปไตย

        โดยอำนาจทางการเมือง เขาเรียกอำนาจบริหาร , อำนาจในการออกกฎหมาย เป็นสภานิติบัญญัติ มีสมาชิก เป็นองค์คณะ สำหรับระบอบประชาธิปไตย อำนาจรัฐ เรียกว่า รัฏฐาธิปัตย์ ของไทยเป็นประชาธิปไตยสองขา ประชาชน เป็นเจ้าของอำนาจ แล้วยกให้พระเจ้าอยู่หัวเป็นประมุข ส่วนคณะบริหาร และนิติบัญญัติ ประชาชน ก็เลือกตั้งคน ไปทำหน้าที่แทน ส่วนสถาบันตุลาการนั้น จะบอกว่า มาจากประชาชน ก็ไม่ใช้ เพราะเป็นสิทธิ์ขาด ของหัวหน้าประชาชน

        ที่จริงการสอบคัดเลือกขึ้นไป ก็ทำการคัดเลือกจาก ผู้ทำหน้าที่เดิมมาก่อน ได้คนที่เหมาะ ก็ส่งชื่อให้พระเจ้าอยู่หัวอีกที

        สรุปคือ ตุลาการ มีน้ำหนักไปทาง พระมหากษัตริย์ ส่วนอีกสองสถาบัน มาจาก ประชาชน ทั้งสามอำนาจ มีอำนาจเท่าเทียมกัน มีหน้าที่คานกัน

        แต่ทุกวันนี้ สถาบันนิติบัญญัติ กับบริหาร ไปฮั้วกัน ก็เลยเป็นการบริหารที่ล้มเหลว ใช้ไม่ได้  ดีไม่ดี รวมหัวกัน ประท้วงไม่ยอมรับอำนาจ ของตุลาการ คว่ำบาตรเลย ศาลจะชี้มูล ตัดสินอะไรมา ก็ไม่ยอมรับ ก็เจ๊งสิ

        ตามหลักผู้ที่ไม่ยอมรับ ถ้าเขาถูกต้อง เขาก็ใช้อำนาจได้ แต่ว่าถ้าเขาผิด เขาก็กลายเป็นกบฏ แต่ทั้งสามอำนาจนี้ ประชาชนก็มีสิทธิ์ดูแล ตรวจสอบ ปกป้อง เมื่อเห็นว่า ทำหน้าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตามกฎเกณฑ์ ทำเสียหาย ทำผิด บ้านเมืองเสียหาย ประชาชน ที่ตรวจสอบดูแลอยู่ เห็นเข้า ก็มาประท้วง ไล่ออกไป ตามกฎสากลในโลก เขาก็ทำมาตลอดในโลก

        ในเมืองไทยตอนนี้ ประชาชนไม่ยอมรับอำนาจ ที่ได้เคยเลือกไปทำแทนมา แต่เขา ก็ยึดเกาะอำนาจ ที่เคยได้รับไปทำ ก็ถือว่ามีอำนาจไม่คืน นี่คือ ความหน้าด้าน หน้าทน ไม่มีหิริโอตตัปปะ ติดยึดอำนาจ อย่างเหนียวแน่น

        ประชาชนก็มีหลายกลุ่ม ที่เคยมาไล่ ไล่แล้วก็ไล่อีก ก็ไม่ไป จนรวมกัน หลายกลุ่ม มาเป็น กปปส. เป็นการใช้อำนาจของประชาชน ที่จะยึดอำนาจคืนมา การจะยึดอำนาจ คืนมา โดยประชาชน ที่เคยเป็นจารีตมีมา ก็ใช้วิธีที่เรียกว่า Force บังคับ ข่ม ด้วยอำนาจปืน อาวุธ กองทัพ คนกลัวตาย ก็ยอมให้ปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงอำนาจ บริหารปกครอง ล้มเลิกของเก่าไป

        ของประชาชน ก็ถือเป็นกลุ่มหมู่หนึ่ง คณะเก่าก็ยอมยกให้ เพราะกลัวตาย สู้ไม่ได้ เรียกว่า ปฏิวัติก็ได้ เรียกรัฐประหารก็ได้

        ในรธน.ก็มีตราไว้ ประชาชนนั้น มาขออำนาจคืน โดยไม่ใช้อาวุธ ไม่ทำร้าย ทำลายกัน ต่างกันกับ การใช้กองกำลังอาวุธ หรือทหาร แต่นี่ประชาชน มาปฏิวัติ รัฐประหาร ขอล้มอำนาจเก่า จะจัดการปฏิรูป ตั้งรัฐบาลใหม่ แต่วิธีปฏิวัติ คือกลุ่มหมู่ของ มวลมหาประชาชน ซึ่งถ้าเผื่อว่า ผู้บริหารนั้น ยอมยกอำนาจคืนให้ประชาชน แต่โดยดี ก็เกิดความสงบ เรียบร้อย ไม่ต้องต่อสู้ ไม่ต้องยื้อยุด อย่างทุกวันนี้ ชักกะเย่อกันอยู่อย่างนี้ แต่มีวิวัฒนาการมา

        ตั้งแต่ เริ่มแต่ยุคพันธมิตร พศ. ๒๕๔๙ ทำกันมา เราก็ได้มาร่วมด้วย ตอนแรก เราทำป้ายตัวหนังสือ พิมพ์แจกเลยว่า สันติ อหิงสา อโหสิ สามคำ

        สันติ ก็คือสงบ อหิงสา คือไม่รุนแรง และอโหสิ คือไม่ถือโทษ ให้อภัย ยอมความ ไม่ถือสาเลย

        พอใช้ขึ้นมา คณะที่มาทำร่วมกัน ไม่เอาคำว่าอโหสิ ก็ต้องให้รับไป ตามระบิลเมือง ก็เลยติดมาแค่ คำว่า สันติ อหิงสา และก็มีคำว่า สงบด้วย เป็น สงบ สันติ อหิงสา

        ก็ประท้วงกันมาเรื่อย ประชาชนพยายามปฏิวัติ ด้วยวิธีการอันถูกต้อง ตามสากล เป็นการประท้วง ที่ชอบธรรม ในการเอาอำนาจคืน หลายประเทศ ก็ทำกัน จนหลายประเทศ ก็ทำได้ มีต่อสู้ ล้มตายกันไปบ้าง แม้แต่เกิดการปฏิวัติ โดยมีวิธีการ ที่ไม่ล้มตาย แล้วเปลี่ยนอำนาจ ไปสู่คณะใหม่ได้  หรืออย่างจอมพลถนอม ก็เคยปฏิวัติตัวเอง

        การยึดอำนาจ โดยไม่กดขี่ ไม่ Force โดยไม่รุนแรง แต่ก็ต้องมีชี้โทษ ตำหนิ ในสิ่งชั่ว คนเลวคนชั่ว เขาทำเสียหาย อาจถึงด่า คือตำหนิอย่างแรง ก็เป็นธรรมชาติ  แต่ไม่ถึง ทำร้ายร่างกาย แต่ภาษาที่ บริภาษกัน อย่างรุนแรง พระพุทธเจ้าใช้คำว่า มุขสติ คือ ทิ่มแทงกัน ด้วยหอกปาก  

        ปากคืออาวุธ ทิ่มแทงกันด้วยปาก จะแรง จะหยาบอย่างไร ก็เป็นธรรมดา ธรรมชาติ สุดวิสัย

        ถ้าผู้ใด ทำสุภาพได้ แต่ชี้เนื้อหาได้ จนอีกฝ่ายหนึ่งจำนน ไม่กล้าเถียง ยอมรับ จำนน พ่ายแพ้ไป ก็เป็นการปฏิวัติ ที่สงบเรียบร้อย วิเศษ ซึ่ง กปปส.กำลังสร้างอันนี้

        เราทำมาตอนนี้มี กำนันสุเทพ มีบารมี พอในการทำเลย วันนี้เดินไป ก็มีนักท่องเที่ยว นักข่าวต่างชาติ มาเยอะเลย มีที่ไหน ประท้วงกัน อย่างเรียบร้อย สงบ มีความสุข จนโฆษก ต้องบอก เป็นภาษาอังกฤษ ให้เขารับรู้กันเลย

        การเปลี่ยนแปลงอำนาจอย่าง Force ก็ยอมยกให้ อย่างกลัวตาย แต่การที่จะยอมยกอำนาจ เพราะจำนนต่อความจริง เพราะเขาผิด ซึ่งถ้าผู้ดี เห็นว่าเขาผิด เขาก็ยอมแพ้ อย่างสมบูรณ์แบบ ไว้ใจประชาชน ให้เข้าไปทำ อย่างผู้รู้ ผู้ดี ถ้าทำได้อย่างนี้ จะวิเศษ (ยอดเยี่ยม) วิสุทธิ์ (บริสุทธิ์) วิศิฏฐ์ (เลิศเลอ) อยากให้ไทยเรา เป็นได้อย่างนี้

        นี่เป็นครั้งแรกในไทย เป็นประชาชนปฏิวัติ​ เขาก็พยายามแย้งว่า ไม่มีหรอก มาชุมนุม ขออำนาจ ไม่มีหรอก พวกอำนาจขอทาน พวกกระจอก เป็นต้น อาตมาว่า พวกนี้ ไม่มีความรู้ ประชาธิปไตย ที่แท้จริง

        ไทยเรากำลังทำประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์แบบ ตอนนี้ อาตมาว่า ใกล้จะถึงหลักชัย เต็มทีแล้ว ไล่จนจนตรอก หลังพิงรั้วแล้ว ทำปากแข็งอยู่

        อำนาจ =sovereign power ซึ่งมีประชาชน เป็นเจ้าของอำนาจเต็มๆ โดยคุณธรรม ความถูกต้อง ดีงาม เรียก   sovereignty

        อำนาจที่ประชาชนยกให้นั้น บางทีมีการครอบงำความคิด ประชาชนได้ เช่นบางคน มีอำนาจพิเศษ เขายกให้จริงๆ ก็เป็น Authority แต่เป็นแบบ ครอบงำความคิด แสดงฤทธิ์เดช แสดงความเก่ง อำนาจศักดิ์สิทธิ์ เป็นอาเทสนาปกฏิหาริย์ ถ้าผู้นำมีจิตใจดี มีความรัก ประชาชนจริง ก็เป็นผู้นำที่ดี มีฤทธิ์ สมัยโบราณ หัวหน้าเผ่า จะมีอำนาจ ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระเจ้า หรือเทวดาให้ เป็นผู้ที่เทพเจ้าส่งมา การใช้อำนาจแบบนี้ ก็มีการปลอม ทำตนเหมือนมีอำนาจ ลึกลับ แต่แท้จริง ไม่รักชาติบ้านเมืองจริง ก็กลายเป็น ผีบุญ ถือเป็นกบฏ มาแย่งอำนาจประชาชน เรียกว่า กบฏผีบุญ

        ถ้าเป็นคนดี ไม่ได้ยึดอำนาจอย่าง พระบาฮาอุลลาห์ เป็นศาสดาของ ศาสนาบาไฮ ครอบงำ ความคิดคน แต่มีจิต มีคุณธรรม จนกลายเป็น ลัทธิศาสนา คนก็เชิญท่าน ไปบริหาร ประเทศ เป็นนายกฯ แต่ท่านไม่เป็น ท่านขอเป็น ผู้เผยแพร่ศาสนา ท่านจริงใจ รักมวลมนุษย์ ให้ความรู้เข้าใจด้วย ครอบงำด้วย ศาสนาบาไฮ รวมทุกศาสนา เอาสิ่งที่ดี ทุกศาสนา มาทำ ไม่รังเกียจศาสนาใดเลย มีผู้นับถือ ไม่มากนัก เป็นเชิงความรู้แบบ Prophecy ผู้ได้มากสุด จะเป็นแค่ Prophet เป็นศาสดาพยากรณ์ ผู้ประกาศ โองการพระเจ้า เป็นความลึกลับ ไม่เข้าใจ ไม่ทะลุทะลวงความจริงได้ ถ้าเป็นจริง ก็เป็นศาสดา ถ้าไม่จริง ก็เป็นผีบุญ เป็นกบฏ อาจถูกประหารชีวิตไป

        ผู้ที่มีความรู้มาก อีกสายหนึ่ง คือสาย Philosophy คือมีความรู้เข้าใจ ด้วยเหตุผล สามารถรวมตัว เป็นคณะหมู่มวล มาบริหารประเทศได้ ถ้าผู้บริหารคณะนี้ มีกิเลสน้อย มีหิริโอตตัปปะ ก็ดีจริง การบริหาร ก็เป็นไปได้        

 
๒๕ มกราคม ๒๕๕๗ ที่ เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ กทม.