คำกรอง กรองคำ - น้อมคำ อิสรา -

กรอบกาล
ระหว่างวิถี-ริมถนน บางตารถยนต์
บางคน-บางภาพทาบรอ
ส่งยิ้มริมทางเหมือนทอ- แสงยิ้มลออ
จากอวลอดีตซีดจาง
สวยใสวัยสาวเลาราง เผยยิ้มเบาบาง
กระจ่างวิถีที่เดิน
คือภาพพบโดยเผอิญ คงเก่าเหลือเกิน
สายตาเผชิญเพลินชม
จารึกรูปเค้าเงาคม เผยกาลนานนม
เถ้าถมลมพรำรำพึง
สถูปสถิตติดตรึง เค้าหน้าคะนึง
ครั้งหนึ่งชีวิตเคยครอง
สถูป-รูปถ่าย-ลายทอง คล้ายคอยเฝ้ามอง
สู่ท้องถนนคนเดิน
สถูปริมทางบังเอิญ ริมวัดเผชิญ
หรือเกินกำแพงแต่งพราง
ขณะอดีตซีดจาง ยิ้มฉายรางชาง
จารึกจีรังพร่างโรย
ลมล่วงลำน้ำพร่ำโชย แดดลิ่วปลิวโปรย
โรยกลิ่นรินธูปวันทา
เพียงพบเพียงผ่านม่านตา ไร้ถ้อยวาจา
ทว่าก้องดังกังวาน

* โชคชัย บัณฑิต'


ดาวดวงนั้น
(ด้วยคารวะแด่...ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์)

ดาวดวงนั้นอยู่ไกลในฟากฟ้า เป็นปริศนาท้าทายให้ไปถึง
คืนวันฝันเงียบอึงคะนึง ซ่อนซึ้งแสงแก้วแวววาว
ดาวดวงนั้นอยู่ไกลจากคำตอบ ทดสอบปัญญาแห่งห้วงหาว
อำนาจพลังบางดวงดาว ส่องทิพย์พริบพราวทิฆัมพร
ดาวดวงนั้นมีอยู่หรือเป็นอยู่ ซ่อนรู้ในสัมผัสประภัสสร
แต่กลับเปลี่ยวเหงาร้าวรอน ท่ามกลางภราดรมืดดำ
ดาวดวงนั้นมีอยู่หรือหาไม่ ในจักรวาลดวงใจที่คลาคล่ำ
เห็นแต่ใจไม้ไส้ระกำ เหยียบย่ำทำลายในรอยเท้า
ดาวดวงนั้นไม่ยินร้ายไม่ยินดี โลกียสุขและทุกข์เศร้า
ยังคงนฤมิตจิตแสงเงา สงบงามท่ามขุนเขาอนันตกาล
ดาวดวงนั้นวันหนึ่งมนุษย์โลก บริโภคเพ็ญแสงอันไพศาล
จะเข้าถึงวิมุติวิสุทธิธาร หยาดใสในละหานแห่งวันคืน
จึงยิ้มกับดาว...ดวงนั้น อิ่มเอมและอัศจรรย์ความรู้ตื่น
พูดกับดาวคุยกับดาวได้ยาวยืน แม้ใครอื่นเบื้อใบ้ไม่ไยดี
ถึงวันใดไร้ดาวสกาวฝัน ยังเฉิดฉันดาวฉายหทัยวิถี
สะเก็ดดาวร่วมฟ้าในราตรี ขอคารวะบทกวีนี้แด่ดาว

* ศิวกานท์ ปทุมสูติ
๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๗ มิถุนายน ๒๕๔๗ -