เพลงจอมโจรบัณฑิต
หมายเลข ๑๐
|
||||||
|
||||||
เปลือก เป็นสิ่งเห็นได้ก่อน
เห็นได้ง่าย หากจะใช้ ความมาก เท่านั้น เป็นเครื่องตัดสิน เปลือก ก็ต้องเป็นใหญ่ เปลือก ก็ต้องชนะ เปลือก ก็ต้องดี เพราะ เปลือก ย่อมมาก ย่อมดื่นดาษ ย่อมชัดง่าย เปลือก ก็จะเป็นความถูกต้อง เป็นอำนาจ ลักษณะดั่งนี้เอง เรียกว่า โลกาธิปไตย หรือ สังคมนิยม เปลือกๆ
ดังนั้น การตัดสินที่ดีที่สุด จึงต้องใช้หมู่ หรือ ใช้สภาที่มี แก่น เป็นหลัก เป็นสำคัญ คือ ในหมู่นั้น หรือ สภานั้น ต้องมี บัณฑิตแท้ ร่วมด้วยเพียงพอ ยิ่งเป็น บัณฑิตแท้ มาก ยิ่งดีมาก ยิ่งมีมาก ยิ่งจริงมาก แก่น ก็จะมีฤทธิคุณ มีบุญญาภินิหาร แก่น ก็จะชนะ แก่น ก็จะนำพาให้เกิดความถูกต้องขึ้นในโลก จึงเป็นอำนาจ ลักษณะดั่งนี้เอง เรียกว่า ธรรมาธิปไตย หรือ สันติภาพแท้ สภาใดไร้แก่น
หรือ ไร้บัณฑิตแท้ แม้จะตัดสินอะไร มตินั้นก็ไม่ถูกต้อง ดีไม่ได้ ได้ไม่ดี
จริงไม่ถึงที่สุด พระพุทธองค์ จึงตรัสว่า สภาใดไร้บัณฑิต (แก่น) มิใช่สภา
ผู้ที่ใช้แค่พลังมวลหมู่ชนที่เป็น เปลือก หรือ ผู้สร้าง มวลประชา ด้วยการระดมสะสมเพียง ฉาบความรู้ แม้จะมากปานใดๆ แล้ว นำมาเป็นมติตัดสิน จึงเป็นเพียง โลกาธิปไตย (ประชาธิปไตยไร้แก่น สังคมนิยมเปลือกๆ) ส่วนผู้ที่ไม่ฟังเสียงผู้อื่น ยึดยืนอยู่แต่ความเห็นความรู้ ของตน ต่อให้คนที่มีฤทธิ์ มีแรง มีอำนาจ แต่มีดีแค่ขั้น เปลือก ก็เป็นเพียง อัตตาธิปไตย (หรือจะเป็น หมู่น้อยๆ ก็คือ เผด็จการในรูปแบบต่างๆ) ผู้มีปัญญาสุจริต มีความฉลาดกุศล จะเข้าใจแก่น จะเห็นบัณฑิตแท้ จะเอา ความรู้ ของบัณฑิตแท้บ้าง บัณฑิตรองบ้าง เป็นหลัก เป็นแกนนำ เป็นเครื่องตัดสินชี้ขาด เป็นที่สุด จึงเป็น ธรรมาธิปไตย เที่ยงแท้ ผู้มีปัญญาทุจริต มีความฉลาดเฉโก จะไม่เห็นแก่น จะเข้าใจ บัณฑิตแท้ ผิดด้วยซ้ำ ป่วยการกล่าวไปไยที่เขาจะรู้จะเห็น บัณฑิตรองๆ ได้ชัด ดังนั้น เขาจะไม่มีแก่น ไม่มีบัณฑิตถึงแก่น ถ้ายิ่งหลงตนใหญ่คนเดียว ก็จะไม่พึ่งแม้เปลือกอื่น ไม่เอามวลกันเลย ทำอะไรก็จะไม่คำนึงถึงคนอื่น ไม่เผื่อผู้อื่น อยู่ที่ใด ก็ไม่มีหมู่ ไม่มีกลุ่ม ไม่มีสังคมที่อบอุ่นแน่นแฟ้นได้ เป็น อัตตาธิปไตย ไปตลอดกาลนาน แต่ถ้าใครเป็นผู้มีปัญญาทุจริต มีความฉลาดเฉโก ที่เอาเปลือกอื่น และเอาหมู่ เอามวลด้วย ก็จะพยายามหาหมู่ หาเปลือก ที่ตนพึงดิ้นรนสะสม หรือบังคับเอาได้ ก็จะกลายเป็นหมู่ที่มีแต่เปลือก จะสะสมมวลมากได้ง่ายๆ เป็นหมู่ชนเปลือกๆ เป็นสังคมนิยมเฟื่องๆ เป็น ประชาธิปไตยฟ่ามๆ ไม่มีเนื้อ-ไม่มีแก่น-ไม่มีสันติภาพแท้ แล้วก็พากันอยู่อย่างโลกีย์ๆ ไปตามประสา โลกาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่ ประชาธิปไตย หรือ สังคมนิยม ที่ดีสม วิเศษแท้ เพราะเพียงเป็นมวลประชาที่ไร้แก่น ไม่แน่นผนึกกันเองด้วยสมัครใจ ยังเป็นสังคมนิยมที่มีเชิงกดขี่ บังคับ เข่นฆ่า ล่าพรรค ล่าพวก ล่าอาณาจักร ยังไม่เป็นสังคมที่มี ธรรมาธิปไตย ที่ดีถึงขีดแท้ ที่เสียสละจริง ที่จะไม่อิงไม่แอบโลกธรรม ยังไม่อยู่กันอย่างพอใจแล้ว ในกฎในวินัย ด้วยปัญญาตนเองสมัครใจเองจริง ชนิดเรียกได้ว่า อิสรเสรีนิยมแท้ ที่ไม่มีความลำบากใจในหมู่ผู้อยู่ร่วม แม้จะมีความลำบากใด ก็ตนเองนั่นเอง ที่ยินดีเต็มใจในความลำบากนั้น เพราะ เพื่อความดี-ความเจริญ อันเห็นด้วยญาณปัญญาของตนเองอยู่ชัดๆ
๑๘ สิงหาคม ๒๕๒๕ |
||||||